‘ภาษาอังกฤษ’ ของ ‘ไทย’ อยู่ระดับต่ำมาก รั้งอันดับ 116 รองโหล่ในเอเชีย สูงกว่าแค่กัมพูชา

‘ภาษาอังกฤษ’ ของ ‘ไทย’ อยู่ระดับต่ำมาก รั้งอันดับ 116 รองโหล่ในเอเชีย สูงกว่าแค่กัมพูชา

รายงาน EF EPI ประจำปี 2025 เผย คะแนนภาษาอังกฤษไทยอยู่ระดับต่ำมาก ด้วยคะแนน 402 คะแนน อยู่ในอันดับที่ 116 จาก 123 ประเทศ รั้งอันดับรองสุดท้ายในเอเชีย คะแนนสูงกว่าแค่กัมพูชา

KEY

POINTS

  • รายงานดัชนีความสามารถทางภาษาอังกฤษ (EF EPI) ประจำปี 2025 จัดอันดับให้ไทยอยู่ในกลุ่ม "ต่ำมาก" ที่อันดับ 116 จาก 123 ประเทศทั่วโลก
  • ในระดับภูมิภาคเอเชีย อันดับของไทยเป็นรองสุดท้าย โดยมีความสามารถทางภาษาอังกฤษสูงกว่าประเทศกัมพูชาเพียงประเทศเดียว
  • คะแนนรวมของไทยอยู่ที่ 402 คะแนน ลดลง 13 คะแนนจากปีก่อนหน้า โดยทักษะที่อ่อนที่สุดคือ การเขียน และการพูด

EF Education First” องค์กรสอนภาษาออกรายงาน “ดัชนีความสามารถทางภาษาอังกฤษ” หรือ “EF EPI” ประจำปี 2025 จัดอันดับทักษะภาษาอังกฤษของ 123 ประเทศ และภูมิภาค โดยอ้างอิงจากข้อมูลของผู้เข้าสอบ EF SET กว่า 2.2 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่ที่อยู่ในวัยทำงานหรือวัยผู้ใหญ่ตอนต้นที่กำลังจะเรียนจบ พบว่า ประเทศไทยถูกจัดอยู่ในกลุ่มระดับความสามารถทางภาษาต่ำมาก โดยอยู่ในอันดับที่ 116 

ภาษาอังกฤษยังคงมีความสำคัญเป็นภาษากลางที่เชื่อมโยงโลก แม้ว่าจะมีเทคโนโลยีแปลภาษาอัตโนมัติ และเอไอที่มีความแม่นยำสูงเข้ามาช่วยในการสื่อสาร แต่ถึงอย่างไรก็ยังจำเป็นต้องเรียนภาษาอังกฤษ เนื่องจากเอไอยังไม่สามารถเลียนแบบความเป็นธรรมชาติ อารมณ์ขัน และความรู้สึกในบทสนทนาได้

ขณะเดียวกัน เอไอส่วนใหญ่ได้รับการพัฒนาเป็นภาษาอังกฤษก่อนเสมอ ทำให้ผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษได้ดีได้เปรียบในการทำงาน และสามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องมือขั้นสูงเหล่านี้ได้ก่อนใคร ดังนั้นการเรียนรู้ภาษาอังกฤษไปพร้อมๆ กับใช้เอไอจึงกลายเป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขันในโลกการทำงาน

อย่างไรก็ตาม รายงานพบว่าระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษทั่วโลกหยุดชะงักมาตั้งแต่ปี 2563 โดยทักษะที่อ่อนที่สุดในประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลกคือ การพูด ซึ่งมีคะแนนเฉลี่ยทั่วโลกต่ำที่สุด เนื่องจากเป็นทักษะที่โรงเรียนพัฒนาได้ยาก และมักถูกละเลยในแผนการทดสอบระดับชาติ ในทางกลับกัน การอ่าน ถือเป็นทักษะภาษาอังกฤษที่ดีที่สุดในเกือบ 80% ของประเทศที่เข้าร่วมทดสอบ เนื่องจากเป็นทักษะที่สามารถพัฒนาได้ง่ายในระบบการศึกษา และฝึกฝนด้วยตนเองได้ง่ายโดยใช้เครื่องมือช่วย เช่น การแปลอัตโนมัติ และเอไอ

ประเทศในภูมิภาคยุโรปยังคงครองตำแหน่งในกลุ่มประเทศที่มีความสามารถทางภาษาอังกฤษสูงสุดในโลกกวาดเรียบทั้ง 10 อันดับที่มีคะแนนสูงสุด อยู่ในเกณฑ์ระดับความสามารถทางภาษาสูงมาก ในดัชนี EF EPI 2025 เรียงตามลำดับดังนี้

  1. เนเธอร์แลนด์ (624 คะแนน)
  2. โครเอเชีย (617 คะแนน)
  3. ออสเตรีย (616 คะแนน)
  4. เยอรมนี (615 คะแนน)
  5. นอร์เวย์ (613 คะแนน)
  6. โปรตุเกส (612 คะแนน)
  7. เดนมาร์ก (611 คะแนน)
  8. สวีเดน (609 คะแนน)
  9. เบลเยียม (608 คะแนน)
  10. สโลวาเกีย (606 คะแนน)

ทั้งนี้ รายงานชี้ให้เห็นว่าประเทศที่มีคะแนนความสามารถโดยรวมสูงกว่า เช่น ประเทศในยุโรป กลับมีช่องว่างความแตกต่างระหว่างทักษะที่ดีที่สุดและทักษะที่อ่อนที่สุด มากกว่าประเทศที่มีคะแนนรวมต่ำกว่า

ขณะที่ คะแนนรวมของประเทศไทยคือ 402 คะแนน อยู่ในอันดับที่ 116 จาก 123 ประเทศ ถูกจัดอยู่ในกลุ่มระดับความสามารถทางภาษาต่ำมาก ซึ่งลดลง 13 คะแนนเมื่อเทียบกับปี 2567 (415 คะแนน) รั้งอันดับรองสุดท้ายในเอเชีย ซึ่งสูงกว่ากัมพูชาประเทศเดียวเท่านั้น

เมื่อพิจารณาในรายละเอียดของทักษะเฉพาะด้าน คะแนนของประเทศไทยสะท้อนแนวโน้มที่สอดคล้องกับภาพรวมของโลก โดยทักษะที่คนไทยได้คะแนนสูงสุด คือ การอ่าน 416 คะแนน ตามมาด้วยการฟังมีคะแนน 385 คะแนน ส่วนการพูดได้คะแนน 377 คะแนน และการเขียนมีคะแนนต่ำที่สุดเพียง 363 คะแนน 

สำหรับกลุ่มอายุที่มีความสามารถทางภาษาอังกฤษสูงสุดคือ กลุ่มอายุ 26-30 ปี ด้วยคะแนนเฉลี่ย 481 ในขณะที่ภูมิภาคที่มีคะแนนสูงสุดของไทยคือ ภาคกลาง (438 คะแนน) และเมืองที่ทำคะแนนได้สูงสุดคือ พัทยา ด้วยคะแนน 474 ส่วนกรุงเทพฯ มีคะแนนรวมอยู่ที่ 400 คะแนนเท่านั้น

แม้ว่า เอไอจะเปลี่ยนวิธีการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยแอปพลิเคชัน และแพลตฟอร์มออนไลน์มีการผสานเทคโนโลยีรู้จำเสียงพูด และการประเมินทักษะการพูด และการเขียน เพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่ตอบโจทย์รายบุคคลมากขึ้น แต่ยังไม่เพียงพอ รายงานยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่รัฐบาล สถาบันการศึกษา และบุคคลจะต้องปรับตัวเรียนรู้ให้มากขึ้น

สำหรับประเทศไทย ที่มีปัญหาด้านทักษะเชิงปฏิบัติโดยเฉพาะการเขียน และการพูด จำเป็นต้องลงทุนในโปรแกรมการฝึกอบรมที่เน้นการสื่อสารและการปฏิบัติจริงจึงเป็นสิ่งจำเป็น รัฐบาล และสถาบันการศึกษาจำเป็นต้องพิจารณาทบทวนชั่วโมงเรียน และการประเมินผล เพื่อให้ครอบคลุมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร และต้องบูรณาการ การเรียนรู้เอไอเข้าเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตร เพื่อเตรียมความพร้อมของนักเรียนสำหรับโลกการทำงานในอนาคต รวมถึงเปิดรับ และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเอไออย่างมีความรับผิดชอบ ซึ่งจะสามารถช่วยเสริมสร้างกระบวนการเรียนรู้ภาษาอังกฤษให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยการนำเสนอประสบการณ์การเรียนรู้ที่ตอบโจทย์รายบุคคล และโอกาสในการฝึกฝนที่ไม่จำกัด

ในยุคที่ความสามารถทางภาษาอังกฤษเป็นสัญญาณบ่งชี้ศักยภาพในการปรับตัวให้เข้ากับมาตรฐานสากล และเป็นปัจจัยสนับสนุนความสามารถในการผลิต และนวัตกรรม การมุ่งเน้นพัฒนาทักษะที่อ่อนที่สุดของประเทศจะเปิดโอกาสในการยกระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษในวงกว้าง การลงทุนเชิงกลยุทธ์นี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้บุคคลมีความเป็นอิสระทางการเงินมากขึ้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความสามารถของประเทศในการมีส่วนร่วมกับเศรษฐกิจโลกที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างรวดเร็วอีกด้วย

 

ที่มา: EF

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์