‘เวิลด์แบงก์’อนุมัติ 140 ล้านดอลลาร์ โปรเจกต์คมนาคมพิทักษ์ชีวภาพหลากหลายไทย

‘เวิลด์แบงก์’อนุมัติ 140 ล้านดอลลาร์  โปรเจกต์คมนาคมพิทักษ์ชีวภาพหลากหลายไทย

คณะกรรมการธนาคารโลกได้อนุมัติโครงการThailand Resilient Transport and Irrawaddy Dolphin Conservation Project(TRIP) วงเงิน140.76ล้านดอลลาร

เพื่อสนับสนุนความพยายามของประเทศไทยในการพัฒนาโครงสร้างคมนาคมที่สามารถรับมือกับอุทกภัยและพายุได้ดีขึ้น ส่งเสริมการสร้างงานและโอกาสทางเศรษฐกิจให้แก่ประชาชนกว่า350,000คน ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างมาตรการของรัฐบาลในการคุ้มครองประชากรโลมาอิรวดีซึ่งเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่งในทะเลสาบสงขลา

 โครงการนี้เป็นการผสานการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเข้ากับการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ โดยจะมีการก่อสร้างสะพาน2แห่ง พร้อมทั้งสนับสนุนการดำเนินงานตาม แผนอนุรักษ์โลมาอิรวดีของประเทศไทย ที่เพิ่งได้รับการอนุมัติ แผนดังกล่าวมี

เป้าหมายเพื่อคุ้มครองประชากรโลมาอิรวดีในพื้นที่ตอนบนของทะเลสาบสงขลา ทางเหนือของหนึ่งในพื้นที่ก่อสร้างสะพาน โครงการจะได้รับเงินสนับสนุนเพิ่มเติมจำนวน4ล้านดอลลาร์ จากกองทุนPROBLUEซึ่งบริหารจัดการโดยธนาคารโลก เพื่อร่วมสนับสนุนการดำเนินแผน และเอื้อให้ประเทศไทยเข้าถึงแนวปฏิบัติและองค์ความรู้ระดับนานาชาติ

  เมลินดา กู๊ด ผู้อำนวยการฝ่ายประเทศไทยและเมียนมา ธนาคารโลก  กล่าวว่า โครงการนี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของการกลับมาร่วมมือกันระหว่างธนาคารโลกและประเทศไทย โดยช่วยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อชุมชนท้องถิ่น พร้อมทั้งปกป้อทรัพยากรธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศซึ่งเป็นฐานสำคัญของเศรษฐกิจท้องถิ่น

 “ธนาคารโลกมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคตของประเทศไทย และยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนทั่วประเทศ”

แม้เศรษฐกิจไทยจะเติบโตอย่างโดดเด่นตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา แต่อัตราการเติบโตได้ชะลอลงเหลือเฉลี่ย2.6%ตั้งแต่ปี2553โดยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ยังมีการพัฒนาน้อยกว่าพื้นที่อื่น อัตราความยากจนในภาคใต้ยังอยู่ที่7.4%ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศถึงสองเท่า สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากข้อจำกัดด้านการคมนาคมขนส่งส่งผลให้การเข้าถึงตลาด งาน และบริการพื้นฐานเป็นไปอย่างยากลำบาก และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ความเหลื่อมล้ำยังคงอยู่ โดยเฉพาะในพื้นที่นอกกรุงเทพมหานคร

     ดังนั้น สะพานทั้งสองแห่งคาดว่าจะสร้างโอกาสการจ้างงานอย่างมีนัยสำคัญให้กับประชาชนในพื้นที่ และเอื้อประโยชน์แก่นักท่องเที่ยวมากกว่า3ล้านคนต่อปี สะพานข้ามทะเลสาบสงขลาระยะทาง7กิโลเมตร จะช่วยลดระยะเวลาเดินทางได้สูงสุดถึง2ชั่วโมง จากเดิมที่ต้องอ้อมไกลถึง80กิโลเมตร เหลือเพียง8กิโลเมตร เปิดการเข้าถึงตลาดและแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ 

ขณะที่ สะพานลันตา ระยะทาง2กิโลเมตร จะเชื่อมหมู่เกาะลันตากับแผ่นดินใหญ่จังหวัดกระบี่ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันการท่องเที่ยว และเชื่อมโยงชุมชนกับโรงเรียน ศูนย์สุขภาพ ตลาด และบริการที่จำเป็นอื่น ๆ นอกจากนี้ โครงการยังจะเสริมความแข็งแกร่งของเส้นทางอพยพ และเพิ่มความสามารถในการรับมือกับน้ำท่วม พายุ และการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล

      ชนินทร์ มโนภินิเวส หัวหน้าทีมประจำโครงการธนาคารโลก กล่าวว่า สะพานทั้งสองแห่งนี้จะสร้างงานในช่วงก่อสร้าง และสนับสนุนการจ้างงานอย่างยั่งยืนในภาคการท่องเที่ยว และอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ในระยะยาวทั้งยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ภาคการท่องเที่ยวของไทย ซึ่งมีสัดส่วนราว20%ของGDPและสร้างงานให้ประชาชนกว่า4.3ล้านตำแหน่งทั่วประเทศ

        “โครงการนี้ยังจะสนับสนุนความพยายามอย่างต่อเนื่องในการบริหารจัดการพื้นที่คุ้มครองที่เป็นถิ่นอาศัยของโลมา โดยลดความเสี่ยงจากการติดเครื่องมือประมง สนับสนุนอาชีพทางเลือกให้กับชุมชนประมง และลงทุนในงานวิจัยและการติดตามตรวจสอบประชากรโลมา”

         การพัฒนาโครงการเกิดขึ้นจากการมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางกับภาคประชาสังคม องค์กรพัฒนาเอกชนทั้งในและต่างประเทศ 

ผู้เชี่ยวชาญรายบุคคล และชุมชนท้องถิ่น ซึ่งจะยังคงมีบทบาทในการให้คำแนะนำทางเทคนิคตลอดช่วงการดำเนินโครงการ

        โครงการนี้นับเป็นการให้สินเชื่อแก่ประเทศไทยครั้งแรกของธนาคารโลกในรอบ15ปีและสะท้อนความมุ่งมั่นของประเทศในการผสานการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่คำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเข้ากับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ในขณะที่ประเทศไทยเตรียมเป็นเจ้าภาพการประชุมประจำปีของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)และกลุ่มธนาคารโลก ในปี2569ณ กรุงเทพมหานคร

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเร็วๆนี้พิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้การต้อนรับ คาร์ลอส เฟลิเป้ ฮารามิโย รองประธานประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกของธนาคารโลก(เวิล์ดแบงก์) และคณะ ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะและรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาเงินกู้ภายใต้โครงการการเชื่อมโยงคมนาคมของไทยเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงและการอนุรักษ์โลมาอิรวดี(TRIP) รวมถึงหารือในความเป็นไปได้ในการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการและเงินกู้ในโครงการอื่น ๆ ของกระทรวงคมนาคม

โดยเวิลด์แบงก์ในความร่วมมือและความช่วยเหลือด้านการเงินในโครงการ TRIP ประกอบด้วย 1. โครงการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา (จังหวัดสงขลา - พัทลุง) 2. โครงการก่อสร้างสะพานเชื่อมเกาะลันตา (จังหวัดกระบี่) ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกรมทางหลวงชนบท โดยโครงการดังกล่าวจะช่วยลดระยะเวลาเดินทาง เพิ่มความปลอดภัย และกระตุ้นเศรษฐกิจของพื้นที่ภาคใต้ของไทยให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด 3. โครงการอนุรักษ์โลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลา โดยประเทศไทยได้ใช้แหล่งเงินกู้จาก World Bank เพื่อดำเนินโครงการดังกล่าวเป็นจำนวนเงินกว่า 141.51 ล้านดอลลาร์ แบ่งเป็น เงินกู้จากกองทุน International Bank for Reconstruction and Development (IBRD) 137.51 ล้านดอลลาร์ และเงินให้เปล่าจากกองทุน PROBLUE 4 ล้านดอลลาร์