มลพิษทางอากาศ 'ทำเงินหาย 6% ของ GDP ทั่วโลก' แต่คนยอมจ่ายงบแก้ปัญหาไม่ถึง 0.1%"

พบมลพิษทางอากาศสูญเสีย GDP โลกถึง 6% ต่อปี สูงกว่ามูลค่าเศรษฐกิจที่คาดหวังจาก AI หลายเท่าตัว ระบุ 83 ประเทศทั่วโลกขาดแคลนงบประมาณอย่างหนัก
สถาบันนโยบายพลังงานแห่งมหาวิทยาลัยชิคาโก (EPIC) ชี้โลกกำลังมองข้ามการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดอย่าง "อากาศสะอาด" พบมลพิษทางอากาศสูญเสีย GDP โลกถึง 6% ต่อปี สูงกว่ามูลค่าเศรษฐกิจที่คาดหวังจาก AI หลายเท่าตัว ระบุ 83 ประเทศทั่วโลกขาดแคลนงบประมาณอย่างหนัก แม้ใช้เงินเพียงเล็กน้อยก็สามารถรักษาชีวิตคนนับล้านได้
วิกฤติที่ถูกลืม อากาศเสียทำลายเศรษฐกิจมากกว่า AI
ในขณะที่ทั่วโลกกำลังทุ่มเงินมหาศาลให้กับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) แต่ข้อมูลล่าสุดระบุว่า "มลพิษทางอากาศ"กำลังกัดกินเศรษฐกิจโลกอย่างเงียบเชียบ โดยทำลายมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของโลกไปกว่า 6% ต่อปี ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจที่คาดว่าจะได้รับจาก AI ถึง 3-6 เท่า
ที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือ แม้มลพิษทางอากาศจะพรากอายุขัยของมนุษย์ไปมากกว่าโรคเอดส์ (HIV) และมาลาเรียรวมกัน แต่กลับมีงบประมาณด้านการกุศลทั่วโลกเพียงไม่ถึง 0.1% เท่านั้นที่ถูกนำมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหานี้
ดาบสองคม เมื่อสหรัฐฯ ยุติการสนับสนุนข้อมูลในปี 2568
ต้นปี พ.ศ. 2568 สถานการณ์ด้านอากาศสะอาดของโลกเปราะบางยิ่งขึ้น เมื่อกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ตัดสินใจยุติโครงการเฝ้าติดตามคุณภาพอากาศในต่างประเทศ ส่งผลให้สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศมาตรฐานอ้างอิงหายไปจากระบบทันทีถึง 97% ในกลุ่มประเทศที่ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด
เหตุการณ์นี้ทำให้ 36 ประเทศ ซึ่งมีประชากรรวมกันกว่า 3,400 ล้านคน ต้องสูญเสียการเข้าถึงข้อมูลคุณภาพอากาศที่แม่นยำไปในชั่วข้ามคืน กลายเป็น "จุดบอด" ที่ทำให้รัฐบาลไม่สามารถกำหนดนโยบาย หรือแม้แต่ระบบสาธารณสุขก็ไม่สามารถติดตามผลกระทบต่อร่างกายประชาชนได้
โอกาสทอง งบประมาณหลักแสน เปลี่ยนระดับชาติ
ผลการศึกษาจาก EPIC ระบุว่าใน 83 ประเทศ (ซึ่งประชากรส่วนใหญ่หายใจเอาอากาศที่แย่กว่าเกณฑ์ของ WHO ถึง 4 เท่า) การลงทุนเพียง 1.7 ล้าน - 3.4 ล้านบาท ต่อปี สามารถเปลี่ยนทิศทางนโยบายอากาศสะอาดของประเทศนั้นได้ หากส่งเงินไปถึงมือผู้นำท้องถิ่นที่พร้อมลงมือทำ
"ในบางประเทศ งบประมาณที่ใช้จ้างพนักงาน NGO เพียงคนเดียวในสหรัฐฯ สามารถนำมาสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลอากาศให้กับคนทั้งประเทศได้ นี่คือโอกาสในการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนมหาศาลอย่างเหลือเชื่อ"
ความสำเร็จใน "แกมเบีย" ต้นแบบโมเดลจิ๋วแต่แจ๋ว
กองทุน EPIC Air Quality Fund ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2567 ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเงินก้อนเล็กสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้
- ในแอฟริกา: ปัจจุบัน 44% ของสถานีตรวจวัดอากาศที่รายงานข้อมูลแบบ Open Data ทั่วทวีป ดำเนินการโดยผู้รับทุนจากกองทุนนี้
- ในแกมเบีย: องค์กรไม่แสวงหากำไรเล็กๆ ที่ก่อตั้งโดยแพทย์ สามารถสร้างเครือข่ายตรวจวัดอากาศทั่วประเทศได้เป็นครั้งแรก และข้อมูลเหล่านี้นำไปสู่การร่างกฎหมายสิ่งแวดล้อมฉบับประวัติศาสตร์เพื่อกำหนดมาตรฐานอากาศสะอาดครั้งแรกของประเทศ
การแก้ปัญหามลพิษโลกอาจไม่ได้ต้องการเทคโนโลยีที่ซับซ้อนเท่า AI แต่ต้องการเพียง "ข้อมูล" และ "การสนับสนุนที่ตรงจุด" เพื่อคืนลมหายใจที่บริสุทธิ์ให้กับประชากร 3,000 ล้านคนทั่วโลก
ที่มา : World Economic Forum







