Gen Z ปลุกกระแสยั่งยืน ผ่านโซเชียล แต่แค่ 'เทรนด์อย่างเดียวไม่พอ'

ในยุคที่โลกหมุนไวด้วยปลายนิ้ว คนรุ่นใหม่หรือ Gen Z กำลังกลายเป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดทิศทางอนาคตของสิ่งแวดล้อม
KEY
POINTS
- คนรุ่นใหม่ (Gen Z) ใช้โซเชียลมีเดียสร้างเทรนด์ด้านความยั่งยืน ทำให้การรักษ์โลกเป็นเรื่องง่าย ทันสมัย และอยู่ในกระแส เช่น การพกกระติกน้ำแฟชั่น หรือการพกกล่องข้าวไปซื้ออาหาร
- บทความชี้ว่าการขับเคลื่อนด้วยเทรนด์เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอและไม่ยั่งยืน เพราะเทรนด์มีวันหมดอายุ และมักล้มเหลวเมื่อขาดโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมรองรับ เช่น มีคนพกกระติกน้ำแต่ไม่มีจุดเติมน้ำสาธารณะ
- ข้อเสนอแนะเพื่อให้ความยั่งยืนกลายเป็นวิถีชีวิตถาวร คือภาครัฐและเอกชนต้องสร้างระบบและโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้ออำนวย พร้อมเปิดโอกาสให้เยาวชนมีส่วนร่วมในการออกแบบนโยบาย
นันท์นภัส พงศ์วิฑูรย์ ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนระดับโลกเพื่อความหลากหลายทางชีวภาพ ประจําประเทศไทย (GYBN Thailand) กล่าวในงาน เครือข่ายส่งเสริมการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืนแห่งประเทศไทยประจำปี 2568 ในยุคที่โลกหมุนไวด้วยปลายนิ้ว คนรุ่นใหม่หรือ Gen Z กำลังกลายเป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดทิศทางอนาคตของสิ่งแวดล้อมความยั่งยืนที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การปลูกป่า แต่แทรกซึมอยู่ในทุกอณูของชีวิตประจำวันผ่านอิทธิพลของโซเชียลมีเดีย
สุขภาพ-ความเท่-ความง่าย 3 กุญแจมัดใจ Gen Z
จากปรากฏการณ์ใน TikTok เราจะเห็นเทรนด์ที่ดูเหมือนเป็นเรื่องไลฟ์สไตล์ทั่วไป แต่กลับซ่อนนัยสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมไว้ ไม่ว่าจะเป็น
- Matcha Culture: การชงมัทฉะดื่มเองที่บ้าน ที่เริ่มต้นจากเรื่องสุขภาพแต่เชื่อมโยงสู่การตระหนักรู้เรื่องที่มาของวัตถุดิบ
- Running Club: การรวมตัววิ่งที่ไม่ใช่แค่การออกกำลังกาย แต่เป็นการสร้าง Community ของคนใส่ใจตัวเอง
- Trendy Water Bottle: เมื่อกระติกน้ำกลายเป็นเครื่องประดับแฟชั่นที่สะท้อนตัวตน สิ่งที่ตามมาคือการปฏิเสธพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Single-use plastic) โดยอัตโนมัติ
กรณีศึกษา "กล่องฟ้า" พลังของการทำให้ดูเป็นตัวอย่าง
แนนได้แชร์ประสบการณ์ส่วนตัวผ่านแคมเปญ #วันนี้พกกล่องฟ้าไปกินอะไร บน Instagram ที่เปลี่ยนการพกกล่องข้าวไปซื้ออาหารให้กลายเป็นเรื่องสนุกและท้าทาย จนเกิดกระแส "กล่องชมพู" และเพื่อนรอบข้างเริ่มทำตาม เธอสรุปสูตรสำเร็จของการเปลี่ยนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ไว้ว่า "ต้องไม่ยากเกินไป และต้องอยู่ในกระแส"
เสียงสะท้อนเชิงวิพากษ์ "พกกระติกแต่ไม่มีที่เติมน้ำ" คือความล้มเหลว
แม้เทรนด์จะสร้างการรับรู้ได้ดี แต่แนนตั้งข้อสังเกตอย่างตรงไปตรงมาว่า “เทรนด์มีวันหมดอายุ” โดยปกติจะมีอายุขัยเพียง 1-3 ปีเท่านั้น หากเราต้องการให้ความยั่งยืนกลายเป็น "วิถีชีวิตถาวร" สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure)
"เรามีคนอยากรักษ์โลกจำนวนมาก แต่ระบบกลับไม่เอื้ออำนวย เช่น เราอยากพกกระติกน้ำแต่หาจุดเติมน้ำสะอาดในที่สาธารณะไม่ได้ หรืออยากลดขยะแต่ระบบจัดการขยะปลายทางยังไม่ตอบโจทย์"
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย เมื่อเยาวชนขอมีส่วนร่วม
เพื่อให้การขับเคลื่อนด้านสิ่งแวดล้อมไปได้ไกลกว่าแค่แฮชแท็ก แนนได้ฝากข้อเรียกร้อง 3 ข้อหลักถึงผู้มีอำนาจตัดสินใจ:
- เร่งสร้างระบบสนับสนุน: ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตยั่งยืนทั่วประเทศ ไม่ใช่แค่ในเมืองหลวง
- สื่อสารอย่างมีกลยุทธ์: ใช้แพลตฟอร์มอย่าง TikTok และวิดีโอสั้นให้เป็นประโยชน์เพื่อเข้าถึงหัวใจคนรุ่นใหม่
พื้นที่ความร่วมมือที่ครอบคลุม (Inclusive Spaces): เปิดโอกาสให้ "เยาวชน" เข้าไปนั่งในโต๊ะตัดสินใจและร่วมออกแบบนโยบาย เพราะพวกเขาคือผู้ที่จะต้องใช้ชีวิตอยู่ในอนาคตนั้นจริงๆ
พลังของ Gen Z บนโลกออนไลน์เป็นเชื้อไฟที่ดีเยี่ยม แต่การจะรักษาไฟนี้ให้โชติช่วงเป็นพลังงานที่ยั่งยืนได้ จำเป็นต้องมี "เตาหลอม" ที่ชื่อว่าระบบและนโยบายที่จริงจังจากภาครัฐและเอกชนมารองรับ







