ไทยจับมือJR - EAST ติดตั้งเซนเซอร์ ตรวจจับ-แจ้งเตือนภัยพิบัติต่อระบบราง

ไทยจับมือJR - EAST ติดตั้งเซนเซอร์  ตรวจจับ-แจ้งเตือนภัยพิบัติต่อระบบราง

กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ร่วมกับ บริษัท อีสต์ เจแปน เรลเวย์ จำกัด (JR - EAST) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการระบบรางประเทศญี่ปุ่น เพื่อหารือโครงการยกระดับขีดความสามารถในการติดตามเฝ้าระวังและรับมือภัยพิบัติในระบบรางในประเทศไทย (Enhancement of Disaster Monitoring and Response Capacity in Railway Sector)

โดยมีผู้แทนจากกระทรวงคมนาคม และผู้แทนการรถไฟแห่งประเทศไทยเข้าร่วมหารือ โดยการหารือดังกล่าวสืบเนื่องด้วยประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เกิดภัยพิบัติบ่อยครั้ง ทำให้ประเทศญี่ปุ่นจึงมีความเชี่ยวชาญด้านการรับมือภัยพิบัติเป็นพิเศษ และมีการพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อติดตามเฝ้าระวังและรับมือภัยพิบัติที่ทันสมัย จึงได้มีการหารือร่วมกันถึงความร่วมมือในการนำร่องติดตั้งระบบติดตามเฝ้าระวังและรับมือภัยพิบัติในระบบรางในประเทศไทย เพื่อทดสอบการใช้เทคโนโลยีเช่นเดียวกับในประเทศญี่ปุ่น 

โดยอยู่ระหว่างการขอรับการสนับสนุนเงินทุนในการติดตั้งระบบติดตามเฝ้าระวังและรับมือภัยพิบัติจากกองทุนรวมอาเซียน – ญี่ปุ่น โดยจะได้ติดตั้งระบบติดตามเฝ้าระวังและรับมือภัยพิบัติ และประเมินผลในช่วง 2 ปี (2569 - 2570)

ปัจจุบันประเทศญี่ปุ่นได้มีการพัฒนาระบบติดตามเฝ้าระวังและรับมือภัยพิบัติประเภทต่าง ๆ เช่น ภัยพิบัติน้ำท่วม ภัยพิบัติดินถล่ม และเหตุการณ์ผิดปกติอื่น ๆ ในระบบราง โดยใช้อุปกรณ์เซนเซอร์ตรวจจับต่าง ๆ โดยเมื่อระบบตรวจพบภัยพิบัติ ระบบจะมีการแจ้งเตือนไปยังพนักงานขับรถไฟและเจ้าหน้าที่ซึ่งรับผิดชอบงานปฏิบัติการเดินรถทราบ เพื่อให้พนักงานขับรถไฟและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสามารถพิจารณาจำกัดความเร็วหรือหยุดรถไฟก่อนถึงพื้นที่เกิดเหตุได้อย่างทันท่วงที เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและลดผลกระทบต่อระบบราง 

“ในปี 2568 ประเทศไทยได้ประสบภัยพิบัติหลายประเภท ทั้งเหตุการณ์แผ่นดินไหว และเหตุการณ์น้ำท่วม ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการให้บริการระบบราง”

 นอกจากนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นกับประเทศไทยเพียงประเทศเดียว แต่ยังเกิดขึ้นพร้อมกันกับประเทศอื่นหลายประเทศ ซึ่งโครงการดังกล่าวนี้ นอกเหนือจากการติดตั้งระบบเซนเซอร์เพื่อตรวจจับภัยพิบัติในประเทศไทยแล้ว ยังเสนอให้มีการจัดทำมาตรฐานการติดตั้งอุปกรณ์เฝ้าระวังและรับมือภัยพิบัติในระบบราง และมีการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการรับมือกับภัยพิบัติต่าง ๆ ให้กับประเทศอื่นในอาเซียน ซึ่งนอกจากจะเป็นตัวอย่างในการยกระดับระบบติดตามเฝ้าระวังและรับมือภัยพิบัติให้กับประเทศไทยแล้ว ยังเป็นตัวอย่างให้กับประเทศในอาเซียนอื่น ๆ ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในอนาคตอีกด้วย

      โดยความร่วมมือกับ JR EAST ในครั้งนี้ จะช่วยยกระดับขีดความสามารถด้านการติดตามเฝ้าระวังและรับมือภัยพิบัติในระบบรางในภูมิภาคอาเซียน ทำให้สามารถเข้าถึงองค์ความรู้และเทคโนโลยีชั้นนำจากญี่ปุ่น เพื่อนำมาปรับใช้ให้สอดคล้องกับบริบทของไทยและประเทศในอาเซียน ซึ่งจะเป็นการยกระดับระบบขนส่งทางรางให้มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุดและยั่งยืนต่อไป

นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางราง (ขร.)ร่วมกับสถาบันวิจัยการขนส่งและการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น สำนักงานภูมิภาคอาเซียน - อินเดีย (JTTRI - AIRO)ในโอกาสเข้าพบเพื่อหารือเตรียมความพร้อมการจัด“การประชุมเชิงปฏิบัติการด้านระบบราง ครั้งที่ 2”(2nd DRT – AIRO Railway Workshop)

สำหรับการหารือในครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องในการยกระดับความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อม โดยกำหนดหัวข้อการประชุมคือ“การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคการขนส่งทางราง” (Decarbonization in the Railway Sector)เพื่อเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ และนวัตกรรมระหว่างประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นรูปธรรม ฝ่ายไทยเตรียมนำเสนอผลการศึกษาและมาตรการลดก๊าซเรือนกระจกที่ ขร. ได้ขับเคลื่อนมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการยอมรับ ในความมุ่งมั่นด้านสิ่งแวดล้อมของไทยบนเวทีระดับนานาชาติ

นอกจากนี้ จะมีการจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งที่ 2 (2nd DRT – AIRO Railway Workshop) เพื่อเป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับเทคโนโลยีพลังงานทางเลือก ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาระบบรางในอนาคต ได้แก่เทคโนโลยีพลังงานไฮโดรเจน (Hydrogen Fuel)เพื่อศึกษาความเป็นไปได้และแนวทางการนำมาใช้กับรถไฟในประเทศไทย รวมถึงเชื้อเพลิงไบโอดีเซล (Biodiesel)เพื่อหาจุดสมดุลและสัดส่วนที่เหมาะสมสำหรับระบบรางของไทย ในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน