หิวน้อยลงแต่ทุพโภชนาการเพิ่ม‘เอฟเอโอ’ ชู4ข้อเร่งแก้ ‘ธรรมาธิบาล ทุนยั่งยืน คนชายขอบ เกษตรฉลาด’

หิวน้อยลงแต่ทุพโภชนาการเพิ่ม‘เอฟเอโอ’ ชู4ข้อเร่งแก้     ‘ธรรมาธิบาล ทุนยั่งยืน คนชายขอบ เกษตรฉลาด’

รายงานสถานการณ์ความมั่นคงทางอาหารและโภชนาการในเอเชียและแปซิฟิกประจำปี 2568 (2025 State of Food Security and Nutrition in Asia and the Pacific) ซึ่งเผยแพร่ร่วมกันโดยองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ(เอฟเอโอ)

กองทุนระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนาการเกษตร โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ โครงการอาหารโลกแห่งสหประชาชาติ และองค์การอนามัยโลก ระบุว่า แม้ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีความก้าวหน้าในการขจัดความหิวโหยอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังต้องเร่งดำเนินการแก้ปัญหาด้านภาวะทุพโภชนาการ ความไม่มั่นคงทางอาหาร และความไม่เท่าเทียมกันของประชากรในการเข้าถึงอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ

จากรายงานระบุว่า ภูมิภาคนี้มีอัตราการขาดสารอาหารในประชากรลดลงเหลือ 6.4% ในปี 2567 จาก7 %ในปี 2566 ซึ่งถือเป็นพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างมาก และหมายถึงประชากร 25 ล้านคนหลุดพ้นจากความหิวโหยในเวลาเพียงหนึ่งปี

แต่อย่างไรก็ตาม รายงานเตือนว่าภูมิภาคยังมีความคืบหน้าที่ไม่ทั่วถึง เพราะประชากรในเอเชียใต้เกือบ80% ยังคงเผชิญกับความหิวโหย และมีตัวชี้วัดความไม่มั่นคงทางอาหารระดับปานกลางหรือรุนแรงสูงที่สุดในบรรดาภูมิภาคย่อยทั้งหมด

โดยรวมภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกมีผู้หิวโหยคิดเป็นเกือบ 40% ของประชากรโลก ตอกย้ำถึงความสำคัญของภูมิภาคนี้ในการบรรลุเป้าหมายด้านความมั่นคงทางอาหารและโภชนาการระดับโลก

ความไม่เท่าเทียมในรูปภาวะทุพโภชนาการ

รายงานเน้นย้ำว่าความหิวโหยเป็นเพียงมิติหนึ่งของความท้าทายด้านโภชนาการของภูมิภาค ภูมิภาคนี้กำลังประสบกับภาวะทุพโภชนาการที่มีปัญหาจากความไม่เท่าเทียมในการเข้าถึงอาหารที่มีดีต่อสุขภาพของประชากร

ในปี 2567 เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เกือบหนึ่งในสี่ หรือ24.4 %ทั่วภูมิภาคมีภาวะแคระแกร็น โดยเอเชียใต้มีอัตราสูงสุดที่31.4% อีกทั้งภาวะผอมแห้งในเด็กทั่วภูมิภาคยังคงสูงอย่างน่าตกใจและเกินกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 8.9 %ในเอเชียใต้สัดส่วนนี้สูงถึง 13.6%

นอกจากนี้ โรคอ้วนในผู้ใหญ่ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศโอเชียเนีย ขณะที่ผู้หญิงอายุ 15-49 ปี 33.8% มีโรคโลหิตจางซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพสาธารณะที่ร้ายแรง และมีผลกระทบระยะยาวต่อสุขภาพของมารดาและเด็ก ผลิตภาพของประเทศ และการพัฒนาเศรษฐกิจ

คนหลายล้านคนเข้าถึงอาหารที่ดีต่อสุขภาพได้ยาก

รายงานระบุว่า ในปี 2567 ราคาอาหารที่ดีต่อสุขภาพในเอเชียและแปซิฟิกสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก โดยอยู่ที่ 4.77 ดอลลาร์ต่อคนต่อวันโดยเฉลี่ย ตามหลักความเท่าเทียมกันของอำนาจซื้อ แม้ประชากรที่ไม่มีกำลังซื้อสำหรับอาหารที่ดีต่อสุขภาพมีสัดส่วนของลดลง แต่ขีดความสามารถในการเข้าถึงยังเป็นอุปสรรคสำคัญ เอเชียใต้ยังคงเผชิญกับความท้าทายสูงที่สุด โดยประชากร41.7% ไม่สามารถซื้ออาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการได้

เรียกร้องให้มีการดำเนินการเปลี่ยนผ่านอย่างเป็นรูปธรรม

หัวข้อของรายงานประจำปี 2567 ได้แก่ “เร่งเปลี่ยนแปลงระบบเกษตรและอาหารเพื่อความมั่นคงทางอาหารและโภชนาการที่ดีขึ้น” รายงานนี้วิเคราะห์ความคืบหน้าของภูมิภาคเทียบกับตัวชี้วัดเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG) ที่จะครบกำหนดในปี 2573 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง SDG 2: การขจัดความหิวโหย ตลอดจนเป้าหมายด้านโภชนาการระดับโลกของสมัชชาอนามัยโลก

รายงานฉบับสำคัญนี้เน้นย้ำว่าระบบเกษตรและอาหารในภูมิภาคกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ แม้ว่าภูมิภาคจะมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และความยากจนลดลงอย่างมีนัยสำคัญมานานหลายทศวรรษ แต่ผู้คนจำนวนมากยังคงประสบกับภาวะขาดสารอาหาร ภาวะขาดวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น และภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนซึ่งล้วนเป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญ

ดังนั้นจึงเรียกร้องให้มีการเร่งเปลี่ยนผ่านระบบเกษตรและอาหารอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อแก้ไขสาเหตุรากฐานของความไม่มั่นคงทางอาหาร และภาวะทุพโภชนาการในทุกรูปแบบ ปรับเปลี่ยนอาหารให้สอดคล้องกับความต้องการทางโภชนาการ ปรับปรุงการเข้าถึงอาหารที่มีราคาไม่แพง หลากหลาย ปลอดภัย และมีคุณค่าทางโภชนาการ และส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคอาหารในเชิงบวกทั่วทั้งภูมิภาค

ความเร่งด่วนของการเปลี่ยนแปลงนี้ถูกเน้นย้ำในการประชุมสุดยอดระบบอาหารแห่งสหประชาชาติครั้งที่ 4 (UNFSS+4) ที่กรุงแอดดิสอาบาบา ประเทศเอธิโอเปีย ซึ่งรัฐบาลและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้ให้คำมั่นสัญญาในการเปลี่ยนผ่านระบบอาหารในฐานะเส้นทางสำคัญสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ภายในปี 2573

ข้อเสนอแนะสำคัญ เพื่อเร่งความคืบหน้าและลดอุปสรรคที่เหลืออยู่ รายงานฉบับนี้เน้นย้ำถึงการดำเนินการที่สำคัญ 4 ข้อ

ได้แก่:

• เสริมสร้างธรรมาภิบาลที่หลายภาคส่วนมีส่วนร่วม และนโยบายที่ครอบคลุม เพื่อรับมือปัญหาความมั่นคงทางอาหาร โภชนาการ สุขภาพ สภาพภูมิอากาศ และความคุ้มครองทางสังคม

• ระดมทุนอย่างยั่งยืนเพื่อขยายขีดการดำเนินการ และนวัตกรรมที่สร้างผลลัพธ์สูงในระบบเกษตรและอาหาร

• เพิ่มศักยภาพให้กับประชากรชายขอบ รวมถึงผู้หญิง เยาวชน และชนพื้นเมือง ในฐานะตัวแทนของการเปลี่ยนแปลง

• ส่งเสริมแนวทางการเกษตรที่ชาญฉลาดด้านสภาพภูมิอากาศและยั่งยืน เพื่อสร้างความยืดหยุ่นและปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ

รายงานฉบับนี้เรียกร้องให้มีการทำงานร่วมกันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในทุกภาคส่วน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และทุกระดับ เพื่อออกแบบระบบเกษตรและอาหารใหม่ที่สามารถเลี้ยงดูและบำรุงเลี้ยงประชากรทุกคน รักษาความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติของโลก และปลดล็อกความเจริญรุ่งเรืองอย่างเท่าเทียมกัน