สุขภาพดี-ชีวิตที่ยั่งยืน ทำแล้วมีความสุข ฉบับ ‘ลุงเจ๋ง’ คนธรรมดา

“ประเสริฐ ฤทธิ์สำเริง” หลายคนรู้จักเขาในชื่อ “ลุงเจ๋ง” ในวัย 80 ปีของเขาไม่ได้เป็นอุปสรรคกับการใช้ชีวิตตามความฝันที่ต้องการทำงานเพื่อสังคม
ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาสิ่งแวดล้อม อนุรักษ์เมืองเก่า ครูสอนศิลปะให้กับเยาวชน ตลอดจนการทำสวน ที่เขาตั้่งใจทำให้เป็นแหล่งเรียนรู้ในชื่อว่า “บ้านนาป่าสวน” เป็นการหาความสุขที่ได้แบ่งปันผู้คนในชีวิตสังคมเป็นความสุขอย่างยั่งยืนในชีวิตบั้นปลาย
แม้ว่าจะเกษียณอายุราชการมาแล้วหลายปี ทว่าองค์ความรู้หัวหน้าแผนกสถานที่ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
ยังคงไม่เคยจากหาย ในวัยที่เกินอายุขัยเฉลี่ยชายไทย แถมบั้นปลายยังมีคุณภาพอีกด้วย เคล็ดลับง่ายๆคือทำงานทุกวัน ไม่เคยปฏิเสธการขอความช่วยเหลือจากปลายสายที่ติดต่อมา ไม่ว่าจะเป็นวิทยากรบรรยายการทำเมืองสีเขียว อนุรักษ์เมืองเก่า ชุมชน ตลาด สถาปัตยกรรม เพราะเชื่อว่า “การทำงาน” คือการตอบแทนแผ่นดินที่เกิดมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
'กลิ่นเหงื่อ' วัดระดับความเครียด กู้วิกฤตสุขภาพใจ กลุ่มอาชีพเสี่ยง
เป๊ะจนพัง! รู้จัก 'Professionalism Trap' กับดักมืออาชีพ ทำร้ายใจคนทำงาน
แหล่งเรียนรู้เพาะพันธุ์ไม้ป่าหายากควบคู่เรียนศิลปะ
ลุงเจ๋ง ทำงานที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ 32 ปี มีส่วนร่วมสร้างวัง 2 วังคือพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ และพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์อยู่ 10 ปี ตั้งแต่ปี 2514-2526 นอกจากนี้ก็มีงานปรับปรุงวังเก่า พระราชวังบางปะอิน ปรับปรุงภูมิทัศน์ ทำให้เห็นความสำคัญเรื่องอนุรักษ์เมืองเก่า ตลาดเก่า ชุมชนเก่าฟื้นฟูแม่น้ำลำคลอง มาจนถึงทุกวันนี้
ลุงเจ๋ง และป้าจงรักษ์ อาศัยอยู่ในซอยประวิทย์และเพื่อน 3 ในบ้านทาวน์โฮม 2 ชั้น ฝั่งตรงข้ามยังมีบ้านที่สร้างจากเศษไม้ ใต้ทุนโล่ง มีห้องน้ำ ห้องครัว เป็นบ้านสวนป่าในเมือง ปลูกต้นไม้ ไม้ป่าหายากไว้หลายชนิด อย่างต้นไทร มีมากกว่า 10 ชนิด เช่น ไทรประเสริฐ กระเช้าสีดา (หูกวาง) ใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่ผู้ที่สนใจการเพาะพันธุ์ไม้ป่าหายาก การหล่อประติมากรรมต่างๆ หรือเรียนศิลปะไปในตัวด้วย
บางทีก็มีเด็กๆ ในซอยนี้มาเรียนศิลปะ การทำงานศิลปะจากเศษวัสดุเหลือใช้ เช่น การทำเก้าอี้ จาน ของจิ๋ว จากกระดาษรีไซลเคิล งานปั้น ซึ่งถ้ามีคนสนใจ “ลุงเจ๋ง” ก็สอนให้ หรือถ้าใครต้องการพันธุ์ไม้ต่างๆ ก็มาช่วยกันเพาะ เปิดให้ทุกคนที่ต้องการแลกเปลี่ยนเรียนรู้มาร่วมพูดคุยได้ตลอด บางคนมีขอใช้เป็นสถานที่ประชุม กลางเต็นท์ เพราะเป็นป่าเล็กๆ ในเมือง หรือ โรงเรียนจะมาใช้เป็นสถานที่เรียนรู้การเพาะพันธุ์ไม้ก็ได้
ชีวิตมีความสุข ยืนยาว ด้วยหลักทำแล้วมีความสุข
ลุงเจ๋ง เล่าว่าชีวิตประจำวันอยู่แบบเรียบง่ายตามวัย โดยมีป้าน้อย แม่บ้านคู่ใจที่ใช้ชีวิตร่วมกันมากว่าครึ่งชีวิต ทั้งสามมีสุขภาพดีตามอัตภาพ เป็นช่วง 10 ปี ของช่วงวัยที่มีคุณภาพ ยังไปท่องเที่ยวได้ มีความสุขกับการใช้ชีวิต โรคภัยก็พอมี แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคจนไปไหนมาไหนไม่ได้ หรือต้องติดเตียง เป็นคนไข้ในภาวะพึ่งพิงอย่างใดไม่
ส่วนที่ 50 ไร่ ที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ปัจจุบันแบ่งพื้นที่ทำนาส่วนหนึ่ง ปลูกป่าเบญจพรรณ เช่น มะฮอกกานี ไม้ผลกินได้หลายชนิด เช่น กล้วย มะม่วง มะพร้าว อยู่ติดริมแควพระปรง ต้นกำเนิดของแม่น้ำบางปะกง เปิดให้องค์กรเครือข่ายที่ต้องการใช้พื้นที่เป็นแหล่งเรียนรู้ศึกษาธรรมชาติไปใช้ประโยชน์ได้ เพราะมีอาคารที่พักรองรับผู้คนได้ไม่ต่ำกว่า 50-100 คน มีห้องสมุด ไว้ให้บริการเด็กๆ ในชุมชน
ความหวังและความฝันของ ลุงเจ๋ง ต้องการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นการทำสวนเล็กๆกลางซอยประวิทย์และเพื่อน 3 ให้เป็นตัวอย่างให้คนที่มีที่ดินปลูกต้นไม้เพื่อเป็นปอดให้คนสูดอากาศดีๆ เป็นที่สำหรับคนมาพักผ่อนนั่งเล่นได้ ส่วนไร่นาป่าสวนที่ปราจีนบุรี จะเปิดให้คนที่มีวัยเคียงกันไปอยู่ด้วยกันกับธรรมชาติ ที่นั่นมีบ้านอยู่หลายหลัง มีป่าธรรมชาติ มีที่นาปลูกข้าวกิน มีห้องสมุด เป็นสถานที่ทำกิจกรรมทำโครงการบ้านนาป่าสวน โดยจะเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุวัยเกษียณที่สนใจมาอยู่ร่วมกันและให้เด็กๆ ในพื้นที่นั้น หรือคนที่อยู่ในเมืองหลวงที่สนใจไปอยู่ร่วมกันได้ ถือเป็นการเรียนรู้ร่วมกัน
เคล็ดลับการใช้ชีวิตมีความสุข สุขภาพดียั่งยืนแบบฉบับลุงเจ๋งคือ ออกแรงทำงานทุกวัน กินแต่พอประมาณ ไม่อิ่มเกินไป เน้นอาหารที่มาจากธรรมชาติ ข้าวกินจากที่ปลูกเอง พืชผักผลไม้ก็มาจากสวน ทุกวันเดินออกกำลังกายในสวนเล็กที่บ้าน ว่างๆ ก็ไปไร่นาป่าสวนที่กบินทร์บ้าง ถ้าเจ็บไขก็เน้นยาสมุนไพร ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทำกันขึ้นมาใช้เอง
“ชีวิตที่มีความสุข ยืนยาว มนุษย์ที่เกษียณอายุแล้ว หลักง่ายๆคือทำในสิ่งที่อยากทำ ทำแล้วมีความสุข เดินตามรอยในหลวง นำเศรษฐกิจพอเพียง เกษตรทฤษฎีใหม่มาปรับใช้ ก็ทำให้ชีวิตยืนยาวได้แล้ว”







