อนาคตอาหารแอฟริกา 'เลี้ยงไก่-สัตว์น้ำ' สร้างเศรษฐกิจให้คนรุ่นใหม่

ในช่วงสองทศวรรษข้างหน้า ความมั่งคั่งของทวีปแอฟริกาจะถูกกำหนดโดยความสามารถในการเชื่อมโยง นวัตกรรมระบบอาหาร การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี และพลังงานจากคนหนุ่มสาว และภาคการเลี้ยงสัตว์ปีกคือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของการรวมพลังเหล่านี้เพื่อขับเคลื่อนความเจริญรุ่งเรืองที่แท้จริง
KEY
POINTS
- การเลี้ยงสัตว์ปีกและสัตว์น้ำเป็นภาคส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างโอกาสทางธุรกิจให้คนรุ่นใหม่ในแอฟริกา
- ต้นทุนอาหารสัตว์ที่สูงเกือบ 70% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด คืออุปสรรคสำคัญที่จำกัดการเติบโตของเกษตรกรรายย่อย
- มีการริเริ่มโครงการต่างๆ เพื่อสนับสนุนนวัตกรรมและเทคโนโลยีในการลดต้นทุนอาหารสัตว์สำหรับทั้งสัตว์ปีกและสัตว์น้ำ (อาหารสีฟ้า)
- การส่งเสริมผู้ประกอบการรุ่นใหม่และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุน คือกุญแจสู่ความมั่นคงทางอาหารและความมั่งคั่งของทวีป
ในช่วงสองทศวรรษข้างหน้า ความมั่งคั่งของทวีปแอฟริกาจะถูกกำหนดโดยความสามารถในการเชื่อมโยง นวัตกรรมระบบอาหาร การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี และพลังงานจากคนหนุ่มสาว และภาคการเลี้ยงสัตว์ปีกคือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของการรวมพลังเหล่านี้เพื่อขับเคลื่อนความเจริญรุ่งเรืองที่แท้จริง
เกษตรกรรายย่อยทั่วแอฟริกายังคงเป็นกระดูกสันหลังของการผลิตอาหารและเป็นกุญแจสำคัญในการตอบสนองความต้องการโปรตีนราคาไม่แพงและมีคุณค่าทางโภชนาการที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในภาคสัตว์ปีก ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สร้างงานที่เติบโตเร็วที่สุดในชนบทของแอฟริกา และมอบโอกาสที่แท้จริงให้คนหนุ่มสาวในการสร้างธุรกิจที่ทำกำไร
ภาระต้นทุน โจทย์ใหญ่ของเกษตรกรแอฟริกา
อุปสรรคสำคัญที่ฉุดรั้งความก้าวหน้าและการแข่งขันของภาคส่วนนี้คือ ต้นทุนอาหารสัตว์ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 70% ของค่าใช้จ่ายในการผลิตทั้งหมด ต้นทุนที่สูงนี้เป็นตัวตัดสินว่าเกษตรกรรายย่อยจะสามารถผลิตได้อย่างมีกำไรหรือไม่ ธุรกิจขนาดเล็ก กลาง และย่อม (MSMEs) จะสามารถขยายขนาดได้หรือไม่ และประเทศจะสามารถสร้างตลาดสัตว์ปีกที่มั่นคงเพื่อตอบสนองความต้องการในประเทศและภูมิภาคได้หรือไม่
องค์กร Alliance for Green Revolution in Africa (AGRA) จึงได้ริเริ่มโครงการต่างๆ เช่น Southern Africa Poultry Initiative โดยร่วมมือกับรัฐบาลในมาลาวี แทนซาเนีย โมซัมบิก และแซมเบีย เพื่อแก้ไขปัญหาเชิงระบบเหล่านี้อย่างเป็นระบบ
ห้องปฏิบัติการส่งมอบสัตว์ปีกแห่งชาติ (National Poultry Delivery Labs) กำลังช่วยรัฐบาลปรับนโยบาย เสริมสร้างห่วงโซ่อุปทานธัญพืชและอาหารสัตว์ และสร้างสภาพแวดล้อมที่คาดการณ์ได้เพื่อส่งเสริมการลงทุนจากภาคเอกชน
นวัตกรรมอาหารสัตว์ ตัวเร่งการเติบโต
เพื่อต่อยอดโมเมนตัมนี้ AGRA ได้เปิดตัวโครงการ Poultry Feed Accelerator Challenge โดยมุ่งเป้าไปที่การสนับสนุน MSMEs ด้วยโซลูชันที่ใช้ได้จริงเพื่อลดต้นทุนอาหารสัตว์และขยายการเข้าถึงสำหรับเกษตรกร นวัตกรรมที่มุ่งเน้นสามารถปรับขนาดได้อย่างรวดเร็วและปรับปรุงผลกำไรของเกษตรกรโดยตรง
นอกจากนี้ เวที Poultry Futures Forum ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2568 ได้รวบรวมภาครัฐ พันธมิตรด้านการพัฒนา นักลงทุน และผู้นำในอุตสาหกรรม เพื่อเร่งการปฏิรูปในระดับประเทศ เสริมสร้างความร่วมมือในภูมิภาค และเน้นย้ำนวัตกรรมที่ทำให้การผลิตสัตว์ปีกมีการแข่งขันสูงขึ้นสำหรับเกษตรกรรายย่อย
บทเรียนสู่ไทย เชื่อมโยง 'อาหารสีฟ้า' และ 'ความมั่นคงทางโปรตีน'
สิ่งที่น่าสนใจคือบทเรียนที่คล้ายกันกำลังเกิดขึ้นใน ภาคการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ (Aquaculture) หรือที่เรียกว่า "อาหารสีฟ้า (Blue Food)" ด้วย
ในประเทศกานา ได้มีการริเริ่มพัฒนา Blue Food Innovation Hub ที่มุ่งเน้นการขับเคลื่อนโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมใหม่ตลอดห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่อาหารสัตว์ การผลิต ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย
การเชื่อมโยงระหว่างสัตว์ปีกและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นเกี่ยวกับต้นทุนและคุณภาพอาหารสัตว์ เป็นการตอกย้ำโอกาสที่กว้างขึ้นในการสร้างสรรค์และกระจายระบบโปรตีนของแอฟริกา เพื่อสร้างความยืดหยุ่นในระยะยาว
กรมปศุสัตว์และกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการพัฒนาสูตรอาหารสัตว์ที่เหมาะสมและการใช้เทคโนโลยีฟาร์มอัจฉริยะ (Smart Farming) การพัฒนาเหล่านี้สอดคล้องกับแนวโน้มทั่วโลกในการสร้างระบบอาหารที่ยั่งยืนและขับเคลื่อนด้วยพลังของคนรุ่นใหม่ในภาคการเกษตรสมัยใหม่
ความยั่งยืนในมือคนรุ่นใหม่
การเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายต้องอาศัยโซลูชันที่สะท้อนความเป็นจริงของเกษตรกรและเพิ่มโอกาสสำหรับผู้ประกอบการเกษตรรุ่นเยาว์ ควบคู่ไปกับนโยบายที่คาดการณ์ได้และบรรยากาศการลงทุนที่ส่งเสริมนวัตกรรม
ความมั่งคั่งของแอฟริกาในช่วง 20 ปีข้างหน้าจะมาจากภาคส่วนที่รวมนวัตกรรม เทคโนโลยี และการขับเคลื่อนโดยผู้ประกอบการเยาวชนเข้าด้วยกัน ซึ่งภาคสัตว์ปีกและอาหารสีฟ้าคือสองภาคส่วนหลัก ด้วยรูปแบบความร่วมมือที่เน้นเกษตรกรเป็นศูนย์กลาง นวัตกรรม และตลาด ระบบเศรษฐกิจอาหารของแอฟริกาสามารถก้าวไปสู่ความสามารถในการแข่งขัน ความครอบคลุม และความยั่งยืนมากขึ้น ซึ่งเป็นบทเรียนที่สำคัญสำหรับประเทศไทยในการเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารเช่นกัน
ที่มา : World Economic Forum







