สธ.เตรียมยุติบริการ “ศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ” 

สธ.เตรียมยุติบริการ “ศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ” 

ยุติบริการ “ศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ”  1 ต.ต.นี้ สอดคล้องแผนเปลี่ยนโควิด-19จากโรคติดต่ออันตรายเป็นโรคที่ต้องเฝ้าระวัง ย้ำฉีดวัคซีนล่าสุดเกิน 4 เดือนควรรับกระตุ้น

เมื่อวันที่ 18 ส.ค.2565 พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนังและศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ  กล่าวว่า จากการหารือร่วมกับกรมการแพทย์และกรมควบคุมโรค ได้ข้อสรุปว่าจะเปิดให้บริการถึงวันที่ 30 ก.ย. 2565 ซึ่งสอดคล้องกับที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) มีแผนการประกาศให้โรคโควิด-19 เปลี่ยนจากโรคติดต่ออันตรายมาเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังในวันที่ 1 ต.ค. 2565 อย่างไรก็ตาม การเดินหน้าเปิดประเทศ เปิดเศรษฐกิจอย่างปลอดภัยเราตั้งเป้าตัวเลขการฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้นตั้งแต่เข็มที่ 3 ขึ้นไปยัง ไว้ที่ 60-70% ของประชากร ซึ่งตอนนี้ยังฉีดได้ประมาณ 50% กว่าๆ จึงจำเป็นต้องบูสเตอร์วัคซีนให้มากขึ้นกว่านี้ เราจึงต้องเปิดศูนย์ให้บริการประชาชนเพื่อมากระตุ้นวัคซีนในช่วงนี้จนถึงวันที่ปิดศูนย์

     “วัคซีนรุ่นใหม่ ที่แต่ละบริษัทพัฒนาให้รับกับการกลายพันธุ์ของไวรัส ปรับรูปแบบวัคซีนให้ดีขึ้น ซึ่งเดิมผู้ผลิตประกาศว่าอาจจะออกมาในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. แต่ตอนนี้อาจจะดีเลย์ออกไป ก็คาดว่าไทยเราจะมีวัคซีนรุ่นใหม่ในช่วงต้นปี 2566 ฉะนั้น คนที่ฉีดไปก่อนหน้านี้เกิน 4 เดือนภูมิคุ้มกันก็อาจจะตก เราก็เปิดให้บริการฉีดถึงวันที่ 30 ก.ย. เพื่อเป็นการกระตุ้นรอวัคซีนรุ่นใหม่ ซึ่งหากสถานการณ์ในช่วงนั้นไม่มีการระบาดมาก ก็จะเป็นการฉีดวัคซีนในสถานพยาบาลทั่วไปได้” พญ.มิ่งขวัญกล่าว

    พญ.มิ่งขวัญ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาศูนย์บางซื่อฯ ฉีดวัคซีนโควิดไปแล้วกว่า 6.3 ล้านโดส ซึ่งเป็นศูนย์เดียวของไทยและมีขนาดใหญ่มากที่สุดเมื่อเทียบกับศูนย์อื่นๆ ทั่วโลกเพราะเขาไม่ได้เปิดต่อเนื่องเหมือนที่ศูนยบางซื่อฯ อย่างไรก็ตาม เราต้องใช้สถานการณ์ที่ผ่านมาเป็นประสบการณ์ ถอดบทเรียนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พันธมิตรและเครือข่าย ว่าหากมีภาวะฉุกเฉินเช่นนี้เกิดขึ้นอีกจะต้องดำเนินการอย่างไร ระดมคน ทรัพยากร เทคโนโลยีอย่างไร ซึ่งตอนนี้เรามีการถอดบทเรียนและเตรียมรับมือในรูปแบบฉากทัศน์(scenario setting)

    " ในวันที่ 30 ก.ย.นี้ จะปิดแน่หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ แต่ที่เราวางแผนรับมือไว้คือ ศูนย์ฯ ต้องมีความพร้อมและกลับมาเปิดให้บริการได้ผ่านใน 1 วัน ทั้งกรณีที่อาจเกิดการระบาดใหม่ หรือกรณีที่วัคซีนรุ่นใหม่เข้ามาแล้วจำเป็นต้องระดมฉีดจำนวนมาก ทั้งนี้ เรื่องสถานที่เราประสานกับการรถไฟ กระทรวงคมนาคม ว่าแม้จะปิดศูนย์ในวันที่ 30 ก.ย. แต่ยังมีการเตรียมพร้อมเพื่อกลับมาเปิดใหม่ ดังนั้น ครุภัณฑ์ต่างๆ ก็จะเก็บรักษาไว้ที่สถานีกลางบางซื่อในส่วนที่การรถไฟยังไม่ได้เปิดใช้งาน"พญ.มิ่งขวัญกล่าว 

      การที่ประกาศยุติให้บริการที่ศูนย์บางซื่อฯ ก็เพื่อกระตุ้นให้คนมารับวัคซีน โดยเฉพาะกลุ่ม 608 และที่สำคัญคือการส่งสัญญาณเชิงบวก(positive signals) ว่าประเทศไทยได้ร่วมกันผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกันแล้ว แต่เรายังต้องให้ความสำคัญกับวัคซีนอยู่เพราะตัวเลขการติดเชื้อที่เห็นรายงานวันละ 1-2 พันรายเป็นการเข้าระบบ แต่คนที่ติดเชื้ออาการน้อยไม่ได้เข้าระบบก็มีอีกมาก อาจถึง 5-10 เท่าจากตัวเลขที่เราเห็น

      ส่วนคนเสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 30 ราย คนทั่วไปอาจมองว่าปกติ แต่หากเกิดขึ้นกับคนที่เรารัก คนในครอบครัว นั่นคือ 1 ชีวิต ดังนั้น การฉีดวัคซีนยังมีความจำเป็นมาก โดยเฉพาะกลุ่มสูงอายุ ผู้ที่จะมารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ศูนย์บางซื่อฯ เปิดใน 2 วิธีทั้งการจองล่วงหน้าผ่านเครือข่ายมือถือ และวอล์กอิน(Walk-in) แต่หากประชาชนที่ทราบวันเวลาที่ต้องการเข้ารับวัคซีน แนะนำให้ลงทะเบียนจองมาก่อน เพื่อแบ่งเบาภาระการรับวอล์กอิน