เช็ก!การจ่ายเงินสงเคราะห์ - สวัสดิการเบี้ยยังชีพแก่ผู้สูงอายุ

เช็ก!การจ่ายเงินสงเคราะห์ - สวัสดิการเบี้ยยังชีพแก่ผู้สูงอายุ

พม.อนุมัติ “การจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ” ประจำปีงบประมาณ 2565 พร้อมเช็กสวัสดิการเบี้ยยังชีพแก่ผู้สูงอายุ

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยคณะกรรมการบริหารกองทุนผู้สูงอายุ กรมกิจการผู้สูงอายุ อนุมัติการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพให้แก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย ที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ประจำปีงบประมาณ 2565 โดยกรมบัญชีกลางจะดำเนินการโอนงวดแรกในช่วงปลายเดือนเมษายน 2565 

นางสุจิตรา พิทยานรเศรษฐ์ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุทุกกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยและได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

กรมกิจการผู้สูงอายุ โดยคณะกรรมการบริหารกองทุนผู้สูงอายุ ได้อนุมัติแนวทางการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุ ที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ประจำปีงบประมาณ 2565 ดังนี้

1. ผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี ได้รับเงินสงเคราะห์ฯ 100 บาทต่อเดือน

2. ผู้สูงอายุที่มีรายได้มากกว่า 30,000 - 100,000 บาทต่อปี ได้รับเงินสงเคราะห์ฯ 50 บาท  ต่อเดือน 

 

  • การจ่ายเงินสงเคราะห์แก่ผู้สูงอายุ ปี 65

โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จะจ่ายเงินสงเคราะห์ฯ งวดแรกในเดือนเมษายน 2565  ซึ่งเป็นการจ่ายสำหรับเดือนตุลาคม 2564 - กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งกรมบัญชีกลางแจ้งกำหนดการโอนเงินเข้าบัตรสวัสดิการฯงวดแรก ในช่วงปลายเดือนเมษายน 2565

งวดถัดไปจะดำเนินการจ่ายเป็นรายเดือนตั้งแต่เดือนพฤษภาคม - กันยายน 2565 โดยกรมบัญชีกลางจะโอนเงินเข้าบัตรสวัสดิการทุกเดือนต่อไป

เช็ก!การจ่ายเงินสงเคราะห์ - สวัสดิการเบี้ยยังชีพแก่ผู้สูงอายุ

ทั้งนี้ จากกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 14 ธ.ค. 2564 ถึงการพิจารณาแนวทางเพิ่มเงินผู้สูงอายุแบบขั้นบันได

โดย นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม (สศช.) ไปพิจารณาแนวทางเพิ่มเงินผู้สูงอายุเป็นขั้นบันได เพื่อให้ผู้สูงวัยสามารถดูแลตัวเองได้และให้ถือเป็นนโยบายและข้อสั่งการของนายกฯ 

 

  • สวัสดิการ ขอรับเบี้ยยังชีพสำหรับผู้สูงอายุ

กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาและความมั่นคงของมนุษย์ ถึงขั้นตอนและวิธีการลงทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ประจำปีงบประมาณ 2564 เพื่อรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุประจำปีงบประมาณ 2565 ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเกณฑ์การจ่ายเบี้ยผู้สูงขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2552 โดยมีรายละเอียดดังนี้ 

สำหรับหลักฐานประกอบการขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

  • บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นที่ออก โดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่าย
  • ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน (ที่เป็นปัจจุบัน)
  • สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร ในนามผู้มีสิทธิ/ผู้ได้รับมอบอำนาจจากผู้มีสิทธิ (สำหรับกรณีประสงค์รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุผ่านธนาคาร)
  • สามารถมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษร ให้ผู้อื่นเป็นผู้ยื่นคำขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแทนได้

คุณสมบัติที่ต้องมี ได้แก่ 

1.สัญชาติไทย

2.มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2505

3.ไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่

  • ผู้รับเงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ หรือ เงินอื่นใดในลักษณะเดียวกัน
  • ผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐ หรือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
  • ผู้ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน รายได้ประจำ หรือ ผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่รัฐ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดให้เป็นประจำ

4.ไม่รวมถึงผู้พิการหรือป่วยเอดส์ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2548 หรือ ได้รับสวัสดิการอื่นตามมติคณะรัฐมนตรี

ขณะที่ ระยะเวลาการลงทะเบียน มีดังนี้ 

1.กรณีผู้สูงอายุที่มีอายุ 59 ปี สามารถลงทะเบียนตั้งแต่เตือนตุลาคม 2563 และ เดือน มกราคม 2564 ไปจนถึงเตือนกันยายน 2564

หมายเหตุ: เกิดก่อน 2 กันยายน 2505 (อายุ 59 ปี ) เนื่องจากผู้สูงอายุที่เกิดตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2505- 1 ตุลาคม 2505 เป็นผู้สูงอายุที่จะมีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่จะมีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในเดือนถัดไปจากเดือนที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ คือ เดือนตุลาคม 2565 ซึ่งเป็นปีงบประมาณ 2566 ดังนั้นกลุ่มผู้สูงอายุดังกล่าวต้องลงทะเบียนขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นไป

2.กรณีผู้สูงอายุที่มีอายุครบ 60 ปี บริบูรณ์ขึ้นไปและยังไม่เคยลงทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพ สามารถลงทะเบียนตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 - เดือนพฤศจิกายน 2563 และ เดือนมกราคม 2564 ไปจนถึงเดือนกันยายน 2564 โดยจะได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นไป

สถานที่ลงทะเบียน สำนักงานเขต หรือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ผู้สูงอายุมีภูมิลำเนา

อย่างไรก็ตาม การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันได จะเป็นในลักษณะดังนี้

  • อายุ 60-69 ปี จะได้รับ 600 บาท
  • อายุ 70-79 ปี จะได้รับ 700 บาท
  • อายุ 80-89 ปี จะได้รับ 800 บาท
  • อายุ 90 ปีขึ้นไป จะได้รับ 1,000 บาท

 

อ้างอิง: กองส่งเสริมสวัสดิการและคุ้มครองผู้สูงอายุ กรมกิจการผู้สูงอายุ