ทุบสถิติ การระบาดระลอกใหม่ ยอดผู้ติดเชื้อแปดริ้วพุ่งใกล้ 500 รายต่อวัน

เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ การระบาดของโรคโควิด 19 ที่ จ.ฉะเชิงเทรา ล่าสุดในวันนี้ หลังจากในพื้นที่ได้เริ่มกลับมาพบการระบาดอย่างรุนแรง และทำสถิติมีผู้ติดเชื้อสูงสุดจากการระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่ต้นปี 2565 เป็นต้นมาอีกครั้ง โดยในวันนี้มีการรายงานการตรวจพบผู้ติดเชื้อแบบรายวันสูงสุดมากถึง 456 ราย โดยถือเป็นการตรวจพบผู้ติดเชื้อสูงสุดของปีนี้ และใกล้ถึงระดับสูงสุดของเมื่อปีที่แล้วที่ 500-600 รายต่อวัน เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา (2564) ขณะที่ทาง จ.ฉะเชิงเทรา ไม่ได้มีการเปิดเผยถึงแหล่งที่มาของการพบเชื้อ หรือคลัสเตอร์ที่มีการระบาดของโรคในพื้นที่ให้แก่ประชาชนทั่วไปในสังคมทราบมาเป็นเวลานานหลายเดือนแล้ว จึงทำให้ประชาชนทั่วไปไม่ทราบว่ามีการตรวจพบเชื้อจากแหล่งใด และบริเวณสถานที่ใดเป็นพื้นที่เสี่ยง ที่ควรหลีกเลี่ยงในช่วงเวลานั้น เพื่อให้ได้ระมัดระวังตัวอย่างสุดสุด ในการป้องกันตนเองต่อการติดเชื้อ จึงทำให้การระบาดของโรคหวนกลับมาระบาดอย่างรุนแรงอีกครั้งในพื้นที่ขณะนี้

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวภายในสถานศึกษาแห่งหนึ่งว่า ขณะนี้ในสถานศึกษาแห่งดังกล่าวนี้ ได้มีการตรวจพบบุคลากรติดเชื้อมากถึง 20 ราย และมีนักศึกษาติดเชื้อจำนวน 49 ราย มีเด็กนักเรียนในโรงเรียนสาธิตติดเชื้อ 7 ราย รวมมีผู้ติดเชื้อระลอกใหม่สะสม 76 ราย ได้รับการรักษาจนหายแล้ว 63 ราย และมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ล่าสุดที่ยังอยู่ระหว่างการรักษาจำนวน 13 ราย เป็นนักศึกษา 8 คน บุคลากรทางการศึกษา 5 คน จนทำให้ผู้บริหาร คือ อธิการบดี ของสถาบันการศึกษาแห่งดังกล่าวต้องถูกสั่งให้กักตัวเป็นเวลา 10 วัน พร้อมกับบุคลากรในอาคารฝ่ายบริหาร และผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ อีกจำนวนเกือบ 30 ราย 

ทั้งนี้ สถิติการระบาดของโรคในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ล่าสุดในวันนี้ มีผู้ป่วยสะสมจากการระบาดระลอกใหม่นับตั้งแต่เมื่อต้นปี 2565 เป็นต้นมามากถึง 10,375 ราย และทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 12 ราย พบผู้ติดเชื้อสูงสุดในเขตพื้นที่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา 2,163 ราย อ.บางน้ำเปรี้ยว 1,616 ราย อ.บางปะกง 1,214 ราย อ.พนมสารคาม 1,197 ราย อ.แปลงยาว 738 ราย อ.บ้านโพธิ์ 692 ราย อ.สนามชัยเขต 681 ราย อ.บางคล้า 385 ราย อ.ท่าตะเกียบ 371 ราย อ.ราชสาส์น 213 ราย และ อ.คลองเขื่อน 112 ราย โดยมีผู้เข้ามารักษาจากภายนอกจังหวัด 993 ราย ทำให้มีผู้ป่วยที่ยังอยู่ระหว่างการรักษาจำนวน 3,666 ราย รักษาหายแล้ว 6,697 ราย