ลงนามแล้ว เริ่ม 1 มี.ค. ติดโควิด19 รักษาฟรีตามสิทธิ์

ลงนามแล้ว เริ่ม 1 มี.ค. ติดโควิด19 รักษาฟรีตามสิทธิ์

 “อนุทิน”ลงนามประกาศสธ.แล้ว  ติดโควิด19  รักษาตามสิทธิ์ เริ่ม 1 มี.ค.2565 ยันประชาชนยังได้รับรักษาฟรีในรพ.ตามสิทธิ์ เข้าข่ายอาการวิกฤติ-มีโรคร่วมยังรักษาฟรีได้ทุกที่

เมื่อวันที่ 21 ก.พ.2565 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เรื่องโควิด19 ว่า  ได้รับรายงานสถานการณ์จากนพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)ทุกเช้า ซึ่งในเรื่องของ สถานการณ์เตียงล่าสุด ได้รับการยืนยันว่าระบบสาธารณสุขยังมีความสามารถในการให้การดูแลผู้ติดเชื้อ โดยเกณฑ์ที่จะพิจารณาจากอาการเป็นหลักว่าอาการระดับใดจะได้รับการดูแลอย่างไร  หากไม่มีอาการ ไม่มีโรคร่วมก็จะเข้าระบบดูแลที่บ้าน(Home Isolation :HI) หรือ ดูแลในชุมชน(Community Isolation:CI)  ซึ่งกทม.ก็ได้ยืนยันกับสธ.ว่ามีความพร้อมในเรื่องของHI/CI ทั้งนี้ ได้สั่งการไปยังเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.)ให้เพิ่มคู่สายด่วนการรับแจ้งผู้ติดเชื้อเพื่อเข้าสู่ระบบHI/CI และดำเนินการตามมาตรการ ส่วนกรณีการปรับการตรวจหาเชื้อกรณีTest&Goให้เป็นวิธีPCRครั้งเดียวนั้น ก็อยู่ระหว่างพิจารณา 

       นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ตนได้ลงนามในประกาศกระทรวงสาธารณสุขแล้ว โดยตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.2565 เป็นต้นไป การรักษาผู้ติดโควิด19จะเป็นไปตามสิทธิรักษาพยาบาลที่จะเข้ารับการรักษาฟรีได้ในรพ.ที่แต่ละคนมีสิทธิ์อยู่ แต่หากมีอาการป่วยฉุกเฉินวิกฤติตามเกณฑ์ของการรักษาฟรีทุกที่(UCEP)ก็ยังสามารถรักษาฟรีได้ทุกที่เช่นเดิม นอกจากนี้ หากติดเชื้อแล้วมีโรคร่วม หรือมีอาการอยู่ในกลุ่มสีเหลือง สีแดง ก็ยังสามารถใช้สิทธิรักษาได้ทุกที่ตามสิทธิ UCEP พลัส ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดทำเกณฑ์

      “ประชาชนยังได้รับการรักษาฟรีเหมือนเดิม โดยสามารถเข้ารับการรักษาได้ที่รพ.ตามสิทธิ์  ทั้งหมดเป็นการปรับตามสถานการณ์ ตามขั้นตอน ตามมาตรฐานเพื่อให้ใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งการให้บริการประชาชนไม่ได้กระทบ เป็นการรักษาฟรีตามสิทธิเหมือนปกติ เป็นการปรับตามสถานการณ์ปัจจุบัน ส่วนถ้าติดเชื้อแล้วไม่มีอาการ แต่อยากอยู่ในรพ.อื่นที่นอกเหนือจากสิทธิ์รักษาฟรีของตนเอง ก็จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง”นายอนุทินกล่าว

      นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า  กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกได้มาหารือเพื่อขอให้เพิ่มการใช้ยาฟ้าทะลายโจรให้มากขึ้น เนื่องจากผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการถ้ารับยาฟาวิพิราเวียร์อาจจะเกินขนาน แต่หากได้รับฟ้าทะลายโจรก็จะช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ควรจะให้ผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการได้รับฟ้าทะลายโจร ซึ่งก็จะมีเพิ่มอีกหลาย 10 ล้านเม็ด ให้สนับสนุนจากผู้ผลิตภายในประเทศ ไม่ให้มีการนำเข้า โดยจะเป็นการให้ไปพร้อมกับชุดดูแลผู้ป่วยHI แต่จะต้องเป็นไปตามดุลยพินิจของแพทย์ที่ติดตามอาการผู้ติดเชื้อผ่านระบบเทเลเมดิซีน