"ชาวประมง" หวั่นไร้เยียวยา พิษน้ำมันรั่วทะเลระยอง

กลุ่มประมงชายฝั่งเรือพายบ้านเพ ยื่นหนังสือกังวลไม่ได้รับชดเชยเยียวยา กรณีน้ำมันดิบรั่วทะเลระยอง

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 กลุ่มชาวประมงชายฝั่งประเภทเรือแจว เรือพาย ประมงพื้นบ้านกลุ่มศาลาเขียว ชายหาดเภตรา ตำบลเพ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง กว่า 30 คน ได้เข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์กับนายไพรัตน์ อรุณเวสสะเศรษฐ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านเพ เพื่อขอความช่วยเหลือกรณีขอรับค่าชดเชยเยียวยาจากผลกระทบกรณีน้ำมันดิบของบริษัท SPRC รั่วไหลลงทะเลระยอง ทั้งนี้เพราะมีความกังวลใจจะไม่ได้รับค่าชดเชยเยียวยาจากเหตุการณ์ดังกล่าว

ทั้งนี้ นายจงกล วรรัตน์ หนึ่งในกลุ่มประมงชายฝั่งพื้นบ้านเรือแจว เรือพาย กล่าวว่า พวกตนเป็นกลุ่มอาชีพประมงพื้นบ้านชายฝั่งที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนเอาไว้ เนื่องจากเป็นเรือประมงประเภทไม่ติดเครื่องยนต์ ใช้พายหรือแจวออกท้องทะเลเพื่อทำประมงวางลอมปู กุ้ง อวนปลาตามแนวชายฝั่งห่างฝั่งไม่เกิน 5 กิโลเมตร ซึ่งที่ผ่านมาเมื่อปี 2556 มีคราวครั้งน้ำมันดิบรั่วครั้งนั้นกว่าพวกตนจะได้รับเงินค่าชดเชยต้องเรียกร้องและฟ้องร้องจึงได้รับค่าเยียวยา 

นอกจากนี้ ยังยืนยันพวกตนเป็นกลุ่มประมงชายฝั่งพื้นบ้านเก่าแก่ดั้งเดิมที่ทำประมงชายฝั่งมานานกว่า 60 ปี แต่เนื่องจากเป็นประมงชายฝั่งที่ใช้เรือขนาดเล็กและไม่มีเครื่องยนต์ จึงกังวลใจว่าจะเข้าข่ายที่จะได้รับค่าชดเชย จึงได้ฝากให้นายกเทศมนตรีบ้านเพ ซึ่งรู้ความจริงลักษณะการทำอาชีพของพวกตนได้ช่วยเหลือ เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้พวกตนได้รับผลกระทบและเดือดร้อนไม่แตกต่างไปจากกลุ่มอาชีพอื่นเช่นกัน เพราะถูกสั่งห้ามออกทำประมงจับสัตว์น้ำเป็นเวลา 1 เดือน จากกรณีน้ำมันดิบรั่วลงทะเลคราวนี้

ขณะที่ นายธวัช เจนการ หน.อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าหมู่เกาะเสม็ด กล่าวว่า ในช่วงเย็นวานนี้ (1ก.พ.) ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงดำน้ำตรวจใต้ทะเลอ่าวพร้าว และพื้นที่ของอุทยานฯ พบว่า หญ้ามะกรูด ปะการัง สัตว์ทะเล ยังไม่พบคราบน้ำมัน ยังคงสภาพสมบูรณ์ตามปกติ ส่วนคราบสีดำที่พบบ้างบนหาดทราย

คาดว่าน่าจะมาจากเรือที่ใช้ปฎิบัติการขจัดคราบน้ำมันในช่วงเกิดเหตุต้องใช้เรือหลายลำจึงมีคราบเขม่า ซึ่งได้เก็บกู้จนหาดทรายสะอาด จึงถือว่าปลอดภัย นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ตามปกติ