"คนละครึ่ง-วัคซีนเข็ม4" คนละเรื่องเดียวกัน

"คนละครึ่ง-วัคซีนเข็ม4" คนละเรื่องเดียวกัน

การฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 4 โดยเฉพาะผู้ประกอบการ พนักงาน จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว ประกอบกับโครงการคนละครึ่งเฟส 4 ของรัฐบาลออกมากระตุ้นประชาชนออกมาบริโภคจับจ่ายใช้สอย

สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยเดินทางมาถึงจุดที่มีผู้ติดเชื้อใหม่เฉลี่ย 8 พันรายต่อวัน ไม่พุ่งถึงหมื่นอย่างที่มีคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ส่วนผู้ป่วยอาการรุนแรงก็ไม่มาก เรียกว่าดีกว่าที่คาดไว้ แต่สายพันธุ์โอมิครอนที่ติดง่าย แพร่เชื้อเร็ว จึงต้องระวังต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อมีการขยายมาตรการให้นั่งดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้ถึง 23.00 น. ใน 33 จังหวัด ร้านอาหารจึงจำเป็นต้องมีมาตรการ Covid-19 Free Setting บรรยากาศภายในร้านต้องถ่ายเทอากาศ พนักงานรับวัคซีนครบ ตรวจหาเชื้อด้วยATKก่อนให้บริการลูกค้า

เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ในระบาดในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวที่เปิดรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร 4 จังหวัด ไม่ว่าจะเป็น ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงา และพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว หรือพื้นที่มีการระบาด 6 จังหวัดได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี สมุทรปราการนนทบุรี กาญจนบุรี ปทุมธานี กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ออกประกาศแผนการฉีดวัคซีนโควิดเข็ม 4 ให้กับประชากรในพื้นที่เหล่านั้น จากเดิมที่ให้ฉีดเฉพาะกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และการสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ด่านหน้า และกลุ่มเสี่ยง 608 เท่านั้น

การฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 4 โดยเฉพาะผู้ประกอบการ พนักงาน ในพื้นที่ท่องเที่ยวและพื้นที่ระบาด จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว ว่าหากมาเที่ยวแล้วจะมีความปลอดภัย ป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่งจะช่วยให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ รวมทั้งสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยว และประชาชนในพื้นที่ 

แนวทางการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 4

สธ.แนะนำว่าผู้ที่รับวัคซีนเข็ม 3 ไปแล้วเกิน 3 เดือนสามารถเข้ารับเข็ม 4 ได้ตามสูตรฉีด

  • วัคซีนเข็ม 1-2 ซิโนแวค + วัคซีนเข็ม 3 แอสตร้าฯเข็ม 4 ให้รับแอสตร้าฯ
  • วัคซีนเข็ม 1-2 แอสตร้าฯ + วัคซีนเข็ม 3 ไฟเซอร์เข็ม 4 ให้รับไฟเซอร์

โดยในเดือนหน้านี้ ประชาชนเจ้าของ 29 ล้านสิทธิ ในโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ก็จะเริ่มจับจ่ายใช้สอยกันตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. – 30 เม.ย. ว่ากันว่าจะมีเงินสะพัดถึง 34,800 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้ 11,000 ล้านบาท เป็นวงเงินคงเหลือจากคนละครึ่ง เฟส 3 รัฐบาลคาดการณ์ว่าการผ่อนคลายระดับพื้นที่สี และ การขยายมาตรการให้นั่งดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้ถึง 23.00 น. จะมีพนักงานที่เคยตกงานส่วนหนึ่งกลับเข้าสู่ระบบการจ้างงาน โรงแรมก็เริ่มเปิดได้ ก็มีพนักงานกลับเข้าไปทำงาน มีรายได้เพิ่มขึ้น ประกอบกับโครงการคนละครึ่งเฟส 4 ของรัฐบาลออกมากระตุ้นประชาชนออกมาบริโภคจับจ่ายใช้สอย

ทว่าร้านอาหารกึ่งผับ ที่ขอปรับเป็นการให้บริการร้านอาหาร เมื่อถึงเวลาก็ขอให้เปิดบริการแบบร้านอาหารจริงๆ อย่าเปิดแบบ ผับ หรือร้านเหล้า แบบเดิม ไม่งั้น ก็กลายเป็นจุดเสี่ยงที่มีการแพร่เชื้อ โควิด- 19 อย่างที่ผ่านมา ที่สำคัญประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ก็ควรจะเข้มงวดกับมาตรการควบคุมโรค เพื่อให้ กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ขับเคลื่อนและค่อยๆ ดีขึ้นได้ในที่สุด