ฉีด "วัคซีนเด็ก" 5-11 ปี ใช้สูตรอะไร ใครได้ฉีดก่อน

ฉีด "วัคซีนเด็ก" 5-11 ปี ใช้สูตรอะไร ใครได้ฉีดก่อน

หลังจากที่ "กระทรวงสาธารณสุข" เปิดแผนฉีด "วัคซีนเด็ก" อายุระหว่าง 5 - 11 ปี หลายคนมีข้อสงสัยว่า วัคซีนที่ฉีดให้เด็ก เป็นตัวเดียวกันกับผู้ใหญ่หรือไม่ ใช้สูตรอะไร ปลอดภัยแค่ไหน และใครจะได้ฉีดก่อน

จากที่มีการระดม "ฉีดวัคซีนโควิด-19" ในช่วงที่ผ่านมา จนปัจจุบัน ประเทศไทยฉีดวัคซีนสะสม (28 ก.พ. 2564 - 20 ม.ค. 2565) รวม 111,323,026 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 51,968,988 ราย จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 47,945,145 ราย จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 11,408,893 ราย 

 

โดยเริ่มมีการฉีดวัคซีนให้กลับกลุ่มนักเรียน นักศึกษา อายุ 12-17 ปี ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา เป้าหมาย 4.5 ล้านคน เพื่อต้อนรับการเปิดเรียน ซึ่งขณะนี้ ตัวเลข ณ วันที่ 21 ม.ค. 65 กลุ่มดังกล่าว ฉีดเข็ม 1 ไปแล้วกว่า 3,392.279 คน คิดเป็น 75.4% และ ฉีดเข็มที่ 2 สะสม 3,267,050 คน คิดเป็น 72.6%

 

ขณะเดียวกัน กลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปี ในต่างประเทศ พบว่า มีอัตราการติดเชื้อเพิ่มขึ้น แต่กลับเป็นกลุ่มที่ยังไม่ฉีดวัคซีน ส่วนหนึ่งก่อนหน้านี้ยังไม่มีวัคซีนให้ฉีด และเชื้อไม่ได้มีความรุนแรง แม้ผู้ป่วยโควิดเด็กจะมีจำนวนไม่มาก แต่การฉีดวัคซีนโควิด-19 ย่อมเป็นทางการป้องกันการติดเชื้อโควิดในเด็กได้ดีที่สุด

 

เด็กติดเชื้อ "โอมิครอน"  59 ราย

 

ขณะเดียวกัน ข้อมูลจาก นพ.อดิศัย ภัตตาตั้ง ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (โรงพยาบาลเด็ก) ระบุว่า โรงพยาบาลเด็กซึ่งมีเตียงเด็ก 70 เตียง เตียงสีแดงสำหรับทารกแรกเกิดและเด็กโต 13 เตียง แม้ขณะนี้ยังไม่พบผู้ป่วยอาการสีแดงและสีส้ม มีเพียงอาการสีเหลือง 1 ราย นอกจากนี้ ยังมีผู้ป่วยเด็กที่เข้ากระบวนการกักตัวและรักษาโควิด-19 อยู่ที่บ้าน (home isolation หรือ HI) 60 คน และเป็นผู้ป่วยใน 32 คน ในจำนวนนี้มีคนไข้อายุน้อยสุดเพียง 4 เดือน

 

แต่จากระยะที่มีการระบาดโควิดโอมิครอน รพ.เด็ก ได้รับผู้ป่วยดูแลรวมทั้งสิ้น 59 รายซึ่งผู้ป่วยเด็กที่ติดเชื้อโควิด-19 และต้องการรับบริการขอให้ติดต่อผ่านระบบโทรสายด่วนของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) 1330 เพื่อเข้าสู่ระบบการรักษาต่อไป

เริ่มฉีดเด็กมีโรคประจำตัว

 

เมื่อดูเป้าหมายการฉีดวัคซีนในเดือน กุมภาพันธ์ 2565 ที่จะถึงนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตั้งเป้าทั้งหมด  11.6 ล้านโดส แบ่งเป็น แอสตร้าเซนเนก้า 8 ล้านโดส ไฟเซอร์ 3.6 ล้านโดส โดยในจำนวนนี้ มีกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปี ที่มี 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง และนักเรียนระดับ ป.5-6 (เข็ม 1) จำนวน 1 ล้านราย โดยใช้ สูตรวัคซีน ไฟเซอร์ – ไฟเซอร์ (ฝาส้ม) จำนวน 1 ล้านโดส

 

ซึ่งเมื่อวันที่ 19 ม.ค.2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เผยถึง ความคืบหน้าการฉีดวัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี ว่า ได้รับรายงานจาก นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ว่า วัคซีนล็อตแรกจะเข้ามาถึงประเทศไทยวันที่ 26 ม.ค.2565 จำนวน 3 ล้านโดส จาก 10 ล้านโดสที่สั่งจองไว้ในเบื้องต้น

 

ต่อจากนั้นจะมีการสุ่มตัวอย่างให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจรับรองรุ่นการผลิต ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน ก็ทราบผล จากนั้นจะกระจายไปฉีดเด็ก เริ่มที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (รพ.เด็ก) ก่อนเป็นแห่งแรก เพื่อเดินหน้าฉีดให้กับเด็กที่มีโรคประจำตัว ซึ่งถือเป็นเด็กกลุ่มเสี่ยงก่อน

 

ฉีด "วัคซีนเด็ก" 5-11 ปี ใช้สูตรอะไร ใครได้ฉีดก่อน

 

การจัดสรรวัคซีน

 

  • ลอตแรก จัดสรรให้สถานพยาบาลสำหรับกลุ่มอายุ 5-11 ปีที่โรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ที่ไม่สามารถรับการฉีดวัคซีนผ่านระบบสถานศึกษาโดยให้กุมารแพทย์เป็นผู้พิจารณาฉีด
  • ลอตถัดไป ดำเนินการผ่านระบบสถานศึกษา จัดสรรให้เด็กนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในทุกจังหวัดเป็นอันดับแรก หลังจากนั้นจัดสรรให้นักเรียนชั้นปีอื่นถัดไปตามลำดับ
  • การจัดสรรวัคซีนเป็นไปตามสัดส่วนของนักเรียนในแต่ละจังหวัด
  • มีการสำรองวัคซีนในส่วนกลางไว้ใช้กรณีฉุกเฉินหรือมีการระบาดในพื้นที่
  • การจัดสรรวัคนสำหรับการฉีดในสถานพยาบาล ให้ใช้สำหรับเด็กป่วย หรือเด็กที่เรียนผ่านระบบ Homeschool เท่านั้น

 

ฉีด "วัคซีนเด็ก" 5-11 ปี ใช้สูตรอะไร ใครได้ฉีดก่อน

วัคซีนในกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปี (ฝาส้ม)

 

ทั้งนี้ แผนการรับมอบวัคซีน Pfizer ฝาสีส้ม จากบริษัทผู้ผลิตในทวีปเอเชีย ประเทศไทยเป็นประเทศที่ 2 ถัดจากประเทศสิงค์โปร์ ที่จะได้รับการส่งมอบ วัคซีน Pfizer ฝ่าสีส้มในเด็ก 5-11 ขวบ โดยจะเริ่มเข้ามาในช่วงปลายเดือนมกราคม และทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

 

ส่วนแผนการรับมอบ Pfizer ในไตรมาสที่ 1/2565 เป็นวัคซีนผู้ใหญ่ (ฝ่าสีม่วง) จำนวน 3.5 ล้านโดส และวัคซีนเด็ก (ฝ่าสีส้ม) จำนวน 3 ล้านโดส

 

สูตรวัคซีนเด็ก 1 ขวด ฉีดได้ 10 คน

 

ขณะที่ นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เผยว่า สำหรับการฉีดวัคซีนในเด็ก จะเริ่มในวันที่ 31 ม.ค.2565 เนื่องจากต่อให้วัคซีนเข้ามาวันที่ 26 ม.ค. แต่ต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบ และกระจายวัคซีนไปยัง รพ.ต่างๆ

 

สำหรับวัคซีนไฟเซอร์ในเด็กจะมีขนาด 1 ขวด บรรจุ 1.3 มิลลิลิตร และเมื่อผสมกับน้ำเกลือจะมีขนาด 2.6 มิลลิลิตร ทำให้วัคซีน 1 ขวด สามารถฉีดให้กับเด็กได้ถึง 10 คน คนละ 0.2 มิลลิลิตร และบริษัทพัฒนาให้วัคซีนสามารถเก็บรักษาได้นานหลังผสมน้ำเกลือในอุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส เป็นระยะเวลา 10 สัปดาห์ จากเดิม 4 สัปดาห์

 

คำแนะนำ ฉีด "วัคซีนเด็ก" 

 

คำแนะนำการฉีดวัคซีน Pfizer สูตรสำหรับเด็ก สูตรฝาส้ม จากราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย เด็กอายุ 5-11 ปี ให้ฉีดวัคซีนชนิด Pfizer สูตรสำหรับเด็ก ขนาด 10 ไมโครกรัม ปริมาณ 0.2 มล. เข้ากล้าม 2 ครั้ง ห่างกัน 3-12 สัปดาห์ โดยระยะห่าง 8-12 สัปดาห์ จะดีกว่า 3-4 สัปดาห์ เพราะได้รับระดับภูมิคุ้มกันที่สูงกว่า และผลข้างเคียงน้อยกว่า

 

คำแนะนำในการฉีดวัคซีน Pfizer สูตรสำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี (ฝาสีส้ม) ของ กระทรวงสาธารณสุข

 

1. ระยะห่างระหว่างเข็มที่ 1 และ 2 เป็นเวลา 8 สัปดาห์

2. สูตรสำหรับฉีดผู้ใหญ่และเด็กมีความแตกต่างกัน ในแต่ละสถานพยาบาล ควรแยกจุดฉีดหรือโต๊ะฉีด สำหรับขวดฝาม่วงและฝาส้มให้ชัดเจน

 

ฉีด "วัคซีนเด็ก" 5-11 ปี ใช้สูตรอะไร ใครได้ฉีดก่อน

 

ฉีดวัคซีนในเด็กเพียงครึ่งของผู้ใหญ่

 

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ (หมอยง) หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสเฟซบุ๊ก (Yong Poovorawan) ระบุเกี่ยวกับ โควิด-19 วัคซีน ขนาดของวัคซีนในเด็ก และผู้ใหญ่ ว่าขนาดวัคซีนในเด็ก และผู้ใหญ่ ตามหลักการให้วัคซีนในอดีต เช่นไวรัสตับอักเสบ บี และเอ วัคซีนขนาดเด็ก และผู้ใหญ่ จะแบ่งกันที่อายุ 18 ปี เด็กใช้ครึ่งหนึ่งของผู้ใหญ่ เพราะเด็กจะตอบสนองภูมิต้านทานได้ดีมาก ดีกว่าผู้ใหญ่ จึงใช้ขนาดวัคซีนน้อยกว่าผู้ใหญ่

 

ทั้งนี้ วัคซีนไฟเซอร์ ขนาดของเด็ก 5-11 ปี ให้เพียง 1 ใน 3 ของผู้ใหญ่ (จาก 30 mcg เป็น 10 mcg) ดังนั้น จึงเชื่อว่าขนาดของเด็ก 12-18 ปี ที่ระบบภูมิต้านทานดี วัคซีนไฟเซอร์ไม่น่าจะต้องใช้ขนาดผู้ใหญ่ น่าจะลดขนาดลงเพื่อลดอาการข้างเคียงในเด็กลงได้ ทำนองเดียวกันวัคซีนโมเดอร์นาที่มีขนาดผู้ใหญ่ ให้ถึง 100 mcg เมื่อให้ในเด็กจะต้องลดลงเป็นครึ่งหรือ 1 ใน 4 ของผู้ใหญ่คงต้องรอการศึกษา และขณะนี้กำลังมีการศึกษากันมากทั่วโลก

 

"ไฟเซอร์" ในเด็ก มี "ผลข้างเคียง" หรือไม่ 

 

ข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (ซีดีซี) เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี (30 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นระบุว่า หลังจากฉีดวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทคโดสที่ 2 เด็กอายุระหว่าง 5-11 ปี จำนวนหนึ่งมีรายงานปวดจุดฉีด และปฏิกริยาต่อวัคซีนอื่นๆ เช่น เหนื่อยอ่อน ปวดศีรษะ

 

นอกจากนี้ซีดีซียังได้รับรายงานกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ 11 ราย ในจำนวนนี้ 7 คนหายแล้ว อีก 7 คนกำลังฟื้นตัว ซึ่งอาการดังกล่าวเป็นผลข้างเคียงที่พบได้ยากหลังจากฉีดวัคซีน mRNA

 

ระบบรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีนสหรัฐ (VAERS) ได้รับรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์4,249 รายการ ในจำนวนนี้ 97.6% ไม่รุนแรง เป็นการเก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 3 พ.ย.-19 ธ.ค.

 

ทั้งนี้ สหรัฐได้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับเด็กกลุ่มอายุดังกล่าวแล้วราว 8.7 ล้านโดส

 

รายงานอีกชิ้นหนึ่งของซีดีซีระบุว่า วัคซีนไฟเซอร์ 2 โดส ป้องกันการติดเชื้อในกลุ่มอายุ 12-17 ปีได้ 92% ช่วงเวลาสังเกตการณ์เพื่อการวิเคราะห์สอดคล้องกับช่วงที่สายพันธุ์เดลตาเป็นสายพันธุ์เด่นในสหรัฐ

 

ด้าน นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2564 ถึงอาการไม่พึงประสงค์หลังรับวัคซีนในเด็ก 5-11 ปี ว่า การใช้ปริมาณวัคซีนที่น้อยกว่าผู้ใหญ่ ใช้เพียง 1 ใน 3 ของผู้ใหญ่ ดังนั้น อาการไม่พึงประสงค์ก็น้อยลง ในสหรัฐอเมริกาใช้ไปแล้วมากกว่า 7 ล้านคน มีผลข้างเคียงน้อย ไม่มีอาการรุนแรง อย.จึงอนุมัติขยายการใช้ เพราะประโยชน์การฉีดให้เด็กมากกว่าความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น

 

กระทรวงศึกษาธิการ เตรียมพร้อมฉีดวัคซีนเด็ก

 

ทั้งนี้ ตามที่กระทรวงสาธารณสุข ได้แจ้งว่าการฉีดวัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี วัคซีนล็อตแรกจะเข้ามาถึงประเทศไทยวันที่ 26 ม.ค.2565 จำนวน 3 ล้านโดส จาก 10 ล้านโดสที่สั่งจองไว้ในเบื้องต้น

 

กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้มีการเตรียมความพร้อม เปิด Timeline ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ในเด็กอายุ 5 ปี ไม่เกิน 12 ปี (11 ปี 11 เดือน 29 วัน) คาดเริ่มฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ในวันที่ 1 ก.พ.2565 เป็นต้นไป และเข็มที่ 2 ในวันที่ 26 ก.พ. 2565 เป็นต้นไป

 

ฉีด "วัคซีนเด็ก" 5-11 ปี ใช้สูตรอะไร ใครได้ฉีดก่อน