"หมอเฉลิมชัย" แนะ WFH 100% หลัง "ปีใหม่" คุม "โอมิครอน"

"หมอเฉลิมชัย" แนะ WFH 100% หลัง "ปีใหม่" คุม "โอมิครอน"

"หมอเฉลิมชัย" เผย โอมิครอน แพร่เร็วกว่า เดลตา 2-5 เท่า แนะ "ทำงานจากที่บ้าน" 100 % คุมการติดเชื้อหลังฉลอง "ปีใหม่" 4-14 ม.ค. 65 ป้องกันการระบาดรุนแรง ควบคุมได้ ระบบสุขภาพสามารถรับมือไหว

วานนี้ (31 ธ.ค. 64) นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยระบุว่า จากกรณีความจำเป็น ที่ทุกประเทศรวมทั้งประเทศไทย จะต้องสร้างสมดุลระหว่างการควบคุมโรคโควิด กับการผ่อนคลายให้สามารถดำเนินการทางธุรกิจ และการดำเนินวิถีชีวิตตามปกติได้อย่างพอเหมาะพอสมนั้น ทั่วโลกจึงใช้มาตรการผ่อนสั้นผ่อนยาว ด้วยความเข้มงวดที่แตกต่างกันไปตามความจำเป็นของแต่ละประเทศ ตลอดจนจังหวะการระบาดของไวรัส

 

โดยกลุ่มประเทศที่ใช้ความเข้มข้นสูงสุด ผ่อนสั้นผ่อนยาวน้อยที่สุด ได้แก่ ประเทศจีน และนิวซีแลนด์ ส่วนประเทศที่ผ่อนสั้นผ่อนยาวมากที่สุด ได้แก่ บางประเทศในยุโรป ผลที่ปรากฏก็คือ กลุ่มประเทศที่เข้มงวดกวดขันมาก จะมีจำนวนผู้ติดเชื้อน้อย ผู้เสียชีวิตน้อย แต่จะกระทบเศรษฐกิจและสังคมค่อนข้างมาก จะต้องเป็นประเทศที่มีการพึ่งพากรท่องเที่ยวต่ำ และสามารถพึ่งเศรษฐกิจภายในประเทศตนเองเป็นหลักได้

 

แต่อีกหลายประเทศ ไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ เพราะมีรายได้หรือเศรษฐกิจพึ่งพาการท่องเที่ยวหรือการนำเข้าส่งออกเป็นจำนวนมาก รวมทั้งประเทศไทยด้วย

  • ส่องมาตรการไทย ตั้งแต่ระลอกแรก 

 

นพ.เฉลิมชัย ระบุต่อไปว่า ลองมาทบทวนจังหวะผ่อนสั้นผ่อนยาวของประเทศไทยกันดูว่า ที่ผ่านมา เป็นอย่างไรบ้าง และในเดือนมกราคม 2565 ควรจะเป็นเช่นไร

 

ระลอกที่ เป็นไวรัสสายพันธุ์อู่ฮั่น เราใช้มาตรการเข้มงวดสูง มีการล็อกดาวน์และเคอร์ฟิว ส่งผลกระทบเศรษฐกิจและสังคมค่อนข้างแรงแต่สามารถควบคุมการระบาดได้ดีมาก จบใน 59 วัน ( ช่วงมีนาคมถึงพฤษภาคม 2563 มีผู้ติดเชื้อรวม 4000 ราย เสียชีวิต 60 ราย

 

ระลอกที่ 2 ยังคงเป็นไวรัสอุ่ฮั่น เราใช้มาตรการเข้มงวดปานกลาง ไม่มีการล็อคดาวน์และเคอร์ฟิวอย่างเต็มรูปแบบ จึงกระทบเศรษฐกิจไม่ค่อยมากนักแต่ต้องแลกกับการมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 6 เท่า คือประมาณ 24,000 ราย เสียชีวิต 34 ราย ระยะเวลาที่จะควบคุมได้เพิ่มขึ้นเป็น 3 เดือนครึ่ง(กลางธันวาคม 2563-มีนาคม 2564)

 

ระลอกที่ 3 เริ่มต้นด้วยเป็นไวรัสสายพันธุ์อัลฟาในเดือนเมษายน 2564 แม้ จะใช้มาตรการเข้มงวดเท่ากับระลอกที่ 2 แต่เนื่องจากเป็นไวรัสอัลฟ้า ซึ่งมีความสามารถในการแพร่ระบาดมากกว่า 70%จึงมีจำนวนผู้ติดเชื้อค่อนข้างมาก

 

ถัดมาอีกสองเดือน คือ มิถุนายน 2564 มีไวรัสสายพันธุ์เดลต้าเข้ามา ซึ่งแพร่ระบาดเร็วกว่าอัลฟ้าเพิ่มอีก 60% ทำให้มาตรการที่ผ่อนสั้นผ่อนยาวดังกล่าว คุมสถานการณ์ได้ลำบาก จึงมีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตสูงสุดในช่วงกลางเดือนสิงหาคม 2564 โดยมีผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็นวันละ 20,000 รายเศษ และเสียชีวิตวันละกว่า 300 ราย

จึงต้องออกมาตรการเข้มงวดเป็นลำดับ จำนวนหลายรอบ จนสามารถคุมการติดเชื้อในระลอกที่ 3 นี้ได้ จึงเริ่มมีมาตรการผ่อนคลายที่สำคัญคือเปิดประเทศในช่วงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 และคุมได้ดีจนถึงเดือนธันวาคม 2564

 

  • WFH 100% หลังปีใหม่ 4-14 ม.ค. 65

 

แต่แล้วก็มีไวรัสสายพันธุ์ "โอมิครอน" เข้ามา ซึ่งมีความสามารถในการแพร่ระบาดเร็วกว่าเดลต้า 2-5 เท่า แต่มีความรุนแรงน้อยกว่าเดลต้าทำให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตน้อย ทำให้หลายประเทศใช้มาตรการที่เข้มงวดปานกลางรวมทั้งประเทศไทยด้วย

 

โดยเฉพาะในช่วงปีใหม่ 31 ธันวาคม 2564 ถึง 3 มกราคม 2565 ประเทศไทยได้ตัดสินใจใช้มาตรการผ่อนคลาย ยอมให้มีการฉลองปีใหม่ เพื่อให้เศรษฐกิจและสั่งคมเดินหน้าต่อไปได้และได้พยายามรณรงค์ ให้การเฉลิมฉลองนั้น มีความระมัดระวังไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อมากนัก

 

อย่างไรก็ตาม ในช่วงวันหยุดยาวดังกล่าวนี้ คาดได้ว่าจะมีคนส่วนหนึ่งที่หย่อนวินัย ไปทานอาหาร สังสรรค์ ดีมสุรา หรือร้องเพลงร่วมกัน ซึ่งก็จะเป็นโอกาสทำให้ไวรัสโอมมิครอนแพร่ระบาดได้

 

เมื่อกลับมาจากปีใหม่แล้ว ก็จะนำมาซึ่งการติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการ หรือแสดงอาการเล็กน้อยจึงต้องใช้มาตรการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม โดยควรใช้มาตรการให้ทุกคนทำงานจากที่บ้าน 100 % (Work From Home) ในช่วงวันที่ 4-14 มกราคม 2565 เพื่อให้ทุกคนได้พ้นระยะกักตัวหลังจากไปเฉลิมฉลองปีใหม่มาแล้ว ใครที่ติด Omicron ในช่วงนี้ ก็จะปรากฏอาการ และเข้าสู่ระบบรักษา

 

ส่วนใครที่ไม่ติด เมื่อพันระยะ 10 วัน ก็จะปลอดจากการติดเชื้อในช่วงฉลอง ปีใหม่ จะสามารถกลับมาทำงานได้

 

"การทำงานจากที่บ้าน 100 % ดังกล่าว อาจเป็นมาตรการที่สำคัญที่สุดในช่วงนี้ เพื่อที่จะควบคุมการติดเชื้อที่ติดมาจากการฉลองปีใหม่ ไม่ให้เดือนมกราคม 2565 มีการระบาดรุนแรงทั่วไป ให้ลดลงเป็นการติดเชื้อที่พอจะควบคุมได้ ให้ระบบสุขภาพสามารถรับมือได้ไหวต่อไป" นพ.เฉลิมชัย ระบุ