ฉากทัศน์ “โอมิครอน” อย่าให้ถึงกรณีเลวร้ายสุด

ฉากทัศน์ “โอมิครอน” อย่าให้ถึงกรณีเลวร้ายสุด

การพบจำนวนผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนในประเทศไทยมีเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ทุกภาคส่วนจะต้องช่วยกันปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด

การติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ในประเทศไทยเริ่มพบผู้ติดเชื้อครั้งแรกเป็นการนำเข้าเชื้อจากต่างประเทศ และพบจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องจากวันที่ 18 ธ.ค.2564 พบผู้ติดเชื้อ 63 ราย และยอดติดเชื้อสะสมได้ขยับก้าวกระโดดขึ้นมาเป็นจำนวน 514 คน เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2564 และในปัจจุบันเริ่มพบผู้ติดเชื้อในประเทศไทยแล้ว ซึ่งคาดการณ์ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อหลังเทศกาลปีใหม่จะขยายตัวแบบก้าวกระโดดและทำให้มีการวางแผนรับมือสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพิ่มมากขึ้น

กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้สรุปข้อมูลอาการเบื้องต้นของผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2564 ของกลุ่มที่อาการ 41 ราย พบว่าส่วนใหญ่พบอาการไอ 54 ราย รองลงมาพบอาการ เจ็บคอ 37 ราย อาการไข้ 29 ราย นอกจากนั้นพบอาการปวดกล้ามเนื้อ มีน้ำมูก ปวดศีรษะ หายใจลำบาก ได้กลิ่นลดลง ซึ่งข้อมูลอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเพราะอยู่ในช่วงระหว่างการติดตามข้อมูล แต่ถือเป็นข้อมูลเบื้องต้นให้กับกลุ่มที่มีความเสี่ยงใช้ในการประเมินอาการในเบื้องต้น

ล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาชี้แจงถึงฉากทัศน์ 3 ข้อ ในการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน และฉากทัศน์ในระดับที่น่ากังวลมากที่สุด คือ กรณีรุนแรงที่สุด ใช้เวลา 3-4 เดือน ในการควบคุมโรคได้ มีผู้ติดเชื้อ 30,000 รายต่อวัน มีผู้เสียชีวิต 170-180 คนต่อวัน โดยอยู่บนสมมติฐานว่าการฉีดวัคซีนใกล้เคียงกับช่วง พ.ย.-ธ.ค.2565 รวมถึงไม่มีมาตรการควบคุมโรคที่เพียงพอหรือไม่ได้รับความร่วมมือในการควบคุมโรค และถึงแม้ว่าอาการของโรคจะมีความรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์เดลตา แต่ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น

ความร่วมมือในการฉีดวัคซีนยังเป็นสิ่งที่มีความจำเป็น โดยสถิติการฉีดวัคซีนถึงวันที่ 27 ธ.ค.2564 ประเทศไทยมีการฉีดวัคซีนรวม 102.6 ล้านโดส แบ่งเป็น การฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 51.0 ล้านโดส คิดเป็น 70.8% ของจำนวนประชากร การฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 45.4 ล้านโดส คิดเป็น 63.1% ของจำนวนประชากร และการฉีดเข็มที่ 3 จำนวน 6.22 ล้านโดส คิดเป็น 8.6% ของจำนวนประชากร ซึ่งในปัจจุบันไม่มีปัญหาวัคซีนขาดแคลนเหมือนช่วงที่ผ่านมาแล้ว และหลังจากนี้จึงอยู่ที่การเร่งรณรงค์ฉีดให้เพิ่มขึ้น

สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ในปัจจุบัน คือ การพบจำนวนผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนในประเทศไทยมีเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ทุกภาคส่วนจะต้องช่วยกันปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด โดยตั้งอยู่บนสมมติฐานว่ามีโอกาสที่ประเทศไทยจะอยู่ในฉากทัศน์แบบกรณีเลวร้าย ซึ่งจำเป็นที่จะต้องมีแผนทั้งการรับมือจำนวนผู้ติดเชื้อ เช่น สถานพยาบาล ยารักษาโรค รวมถึงความร่วมมือของประชาชนในการดำเนินการตามมาตรการด้านสาธารณสุข และการตรวจหาเชื้ออย่างสม่ำเสมอ