หมอศิริราช ย้ำควรฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 ไทยมาถูกทางเชื่อป้องกันโอมิครอน

หมอศิริราช ย้ำควรฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 ไทยมาถูกทางเชื่อป้องกันโอมิครอน

"หมอศิริราช"เผยเริ่มการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ระบุแม้จะไม่มีข้อมูลแน่ชัดวัคซีนต่อโอมิครอน แต่ทุกคนควรเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ชี้ไฟเซอร์ แอสตร้าเซนเนก้าเทียบเคียงป้องกันเดลต้าได้ คาดมาถูกทาง เชื้อวัคซีนป้องกันโอมิครอน 50-60%

รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล  โพสผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว นิธิพัฒน์ เจียรกุล ตอนหนึ่งว่า เริ่มเบ่งบานขึ้นแล้วสำหรับผู้ป่วยจากเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน ล่าสุดเพิ่มเป็น 25 คนแล้วสำหรับรายที่เป็นการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ ที่ต้องจับตาคือคลัสเตอร์ร้านอาหารกึ่งสถานบันเทิงที่กาฬสินธุ์ เนื่องจากร้านเป็นระบบปิด จึงน่าจะเป็นส่วนสำคัญทำให้มีการแพร่กระจายเชื้อได้ง่ายทางละอองฝอยในอากาศ (aerosols) ตามมาด้วยการติดเชื้อของพนักงานบริการในร้านหลายคน รวมถึงนักดนตรีด้วย การกินอาหารร่วมกันแม้จะระมัดระวังตัว  แต่ก็ยังสามารถติดต่อได้ง่ายทางการหายใจเพราะเราจะไม่ได้ใส่หน้ากาก ยิ่งถ้ามีการพูดคุยสรวลเสเฮฮาเคล้าอาหารและเสียงเพลงไปด้วย สำหรับแผนการผ่อนผันสถานบันเทิงที่มีกำหนดในกลางเดือนหน้า

นอกจากการป้องกันการระบาดของโอมิครอนด้วยมาตรการควบคุมโรคที่ยังคงใช้ได้ดีไม่ว่าจะเป็นเชื้อสายพันธุ์ไหน ในส่วนเกราะกำบังจากวัคซีนนั้นจะช่วยได้อย่างไร  เริ่มมีข้อมูลสนับสนุนมากขึ้นว่าโอมิครอนสามารถหลุดรอดภูมิคุ้มกันที่พยายามเสริมสร้างกันอยู่ ทำให้หลายประเทศเร่งฉีดวัคซีนเข็ม3ไปจนถึงเข็ม4 ด้วยความหวังซื้อเวลาไว้จนกว่าจะได้วัคซีนใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

  • วัคซีนต่อโอมิครอนต้องอาศัยการเทียบเคียงเดลต้า

รศ.นพ.นิธิพัฒน์ กล่าวต่อว่าสำหรับใครที่ยังลังเลว่าจะฉีดดีไหมหลังได้ครบ2 เข็มไปแล้ว อย่างน้อยบุคลากรด่านหน้าและกลุ่มเปราะบาง  ควรเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น สำหรับคนที่ไม่อยู่ในข่ายนี้อาจรอดูข้อมูล  โดยส่วนตัวที่ได้รับวัคซีนของซิโนแว็คไปแล้ว1 ตามด้วยของไฟเซอร์1เข็ม ตั้งใจจะเลือกของแอสตร้าเป็นเข็ม4 เพราะประทับใจการสร้างภูมิชนิดพึ่งเซลล์ที่ช่วยลดอัตราการป่วยหนักและการเสียชีวิตได้ดี และจะได้เป็นการรับวัคซีนครบทุกรูปแบบไปในตัวด้วย

“ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลผลของวัคซีนต่อโอมิครอนในสถานการณ์จริง จึงต้องอาศัยการเทียบเคียงกับเดลต้าไปก่อน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญระบุว่าการฉีดวัคซีนเข็ม 3ประเภทเดียวกันกระตุ้นภูมิต่อเดลต้าได้กว่า 90% ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนของไฟเซอร์หรือของแอสตร้าเซนเนก้า ดังนั้นแผนการฉีดเข็ม 3 ของไทย ด้วยวัคซีนทั้งสองชนิดนี้น่าจะเป็นทิศทางที่ถูกต้องแล้วสำหรับการควบคุมเดลต้าที่ยังครองตลาดอยู่ แม้ว่าจะมีการติดเชื้อโผล่ผุด (breakthrough infection) เกิดขึ้น แต่อาการมักไม่รุนแรงและระยะเวลาการแพร่เชื้อก็สั้นลงเมื่อเทียบกับการติดเชื้อในคนที่ไม่ได้รับวัคซีน ส่วนผลของเข็มกระตุ้นที่เราหวังจะให้ครอบคลุมโอมิครอนนั้น คงต้องรอข้อมูลในสถานการณ์จริงที่กำลังเริ่มออกมามากขึ้น”รศ.นพ.นิธิพัฒน์ กล่าว

 

  • คาดฉีดวัคซีนป้องกันโอมิครอนได้ 50-60%

รศ.นพ.นิธิพัฒน์ กล่าวต่อไปว่า ข้อมูลเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.จากการสุ่มตรวจสายพันธุ์โอมิครอนในไทยมีสัดส่วนประมาณ 3% จะค่อยๆ ขึ้นแต่อาจจะไม่สูงเหมือนเช่นในต่างประเทศ คาดการณ์ว่าจะถึง 50% ของเชื้อทั้งหมดในราวครึ่งเดือนหลังของ ม.ค.- ก.พ.2565 อาจจะมียอดผู้ป่วยใหม่รายวัน 1-2 หมื่นคน เพียงแต่ผู้ป่วยอาการหนักจะอยู่ที่ราว 2% หรือ 200-400 คนต่อวัน จากเดิมอยู่ที่ 5% ซึ่งภาคการแพทย์ยังรับมือไหว

 ทั้งนี้ เป็นเพียงการประเมินคาดการณ์ช่วงเวลาอาจจะไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับว่าเราจะสามารถคุมสถานการณ์ในช่วงปีใหม่ได้ดีมากน้อยแค่ไหน รวมถึงช่องโหว่จากการเล็ดรอดเข้ามา ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีเล็ดรอดอยู่ ขึ้นอยู่ว่าจะตามจับได้หรือไม่

อย่างไรก็ตาม การฉีดวัคซีนจึงถือเป็นเกราะป้องกันโอไมครอนได้ แม้จะว่าจะมีประสิทธิภาพเหลือสัก 50-60% แต่ยังสามารถชะลอเชื้อไปได้จนกว่าจะมีวัคซีนที่จำเพาะในการป้องกันสายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งคาดว่าบริษัทผู้ผลิตวัคซีนน่าจะเร่งวิจัยให้เสร็จประมาณปลาย มี.ค.-เม.ย.2565

รศ.นพ.นิธิพัฒน์ กล่าวด้วยว่า รพ.ศิริราชยังไม่มีเคสผู้ป่วยโอมิครอนเข้ามารักษา ซึ่งทางโรงพยาบาลได้เตรียมการรองรับไว้ ทุกรพ.ในกทม.ก็เตรียมการไว้ เนื่องจากเชื้อโอมิครอนประมาณ 50-60% อยู่ในกทม. แม้ว่าผู้ป่วยจะมีอาการไม่หนัก แต่การรับเข้ามารักษาในรพ.เพื่อไม่ให้เกิดการกระจายในชุมชน จนกว่าจะรับไม่ไหวหรือกลายเป็นเชื้อหลักก็คงต้องปรับวิธีการรักษาด้วยระบบโฮมไอโซเรชั่น แต่คาดว่าจะไม่รุนแรง