ศบค. เตรียมเปิด "หนองคาย” พื้นที่ต้นแบบ Test & Go ทางบก

ศบค. เตรียมเปิด "หนองคาย” พื้นที่ต้นแบบ Test & Go ทางบก

ศบค. เตรียมเปิด “หนองคาย” พื้นที่ต้นแบบ "Test & Go" ทางบก แห่งแรก วันที่ 24 ธ.ค.นี้ รับนักท่องเที่ยว ติดต่อเศรษฐกิจ พัฒนารูปแบบที่ มุกดาหาร นครพนม และอุบลราชธานี นักท่องเที่ยวเข้าไทย ธ.ค. สะสม 122,363 ราย พบติดเชื้อ 226 ราย เฉลี่ย 0.18%

วันนี้ (17 ธ.ค. 64) ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. ช่วงระยะใกล้นี้ จะมีการลงพื้นที่เยี่ยม สถานที่กำหนดให้จัดงานปีใหม่ใหญ่ๆ เช่น เชียงใหม่ นครราชสีมา รวมทั้งลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมหนองคาย เพราะ 24 ธ.ค. นี้ จะมีการเปิด ต้อนรับให้มีการผ่านเข้าออก ประเทศไทยช่องทางบก แห่งแรก จะทำให้อีกหลายจังหวัด ที่มีการพัฒนา เปิดการต้อนรับนักท่องเที่ยวหรือการค้าแนวชายแดนทางเศรษฐกิจ ตามหนองคาย

 

ซึ่งในส่วนของรายงานที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กวันนี้ หนองคายเป็นต้นแบบ Test & Go ทางบก ที่แรก ที่จะเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยว และผู้ที่จะติดต่อเศรษฐกิจ กับ สปป.ลาว ซึ่ง สปป.ลาวจะมีการเปิดประเทศ อย่างเป็นทางการ 1 ม.ค. 65 และนอกจากหนองคายที่เป็นจังหวัดนำร่อง จะมีการนำไปพัฒนารูปแบบที่ มุกดาหาร นครพนม และอุบลราชธานี   
 

เป็นตัวอย่างที่หนองคายร่วมไม้ร่วมมือกันในส่วนของประชาชน ผู้ประกอบการ และภาครัฐ มีความพยายามรณรงค์ให้ประชาชน นักท่องเที่ยว รวมทั้งประชาชนในพื้นที่ให้ความสำคัญ ทางมาตรการสาธารณสุข

 

ขณะเดียวกัน ในที่ประชุม วันนี้ จ.ตราด มีความพร้อมของเกาะกูดด้วย ที่สรุป คือ เกาะกูด จ.ตราด จะยังไม่เปิดเป็นพื้นที่ท่องเที่ยว ถึงแม้จะเป็นพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจ แต่มีการหารือทางภาครัฐ ประชาชน ว่าเปิดเมื่อพร้อม แม้ความจริงแล้ว เกาะกูด มีการฉีดวัคซีนครอบคลุมสูงในจังหวัดตราด ซึ่ง ศบค. ชุดเล็ก ในที่ประชมก็ขอขอบคุณ และชื่นชม ว่าทางจังหวัดมีการปรึกษาหารือกัน แม้ว่าศบค. จะมีมติให้ผ่อนคลายมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ยังอยู่ที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และความต้องการของภาครัฐ และเอกชนในพื้นที่ด้วย อย่างกรณีหนองคาย มีหลายภาคส่วน ร่วมด้วยช่วยกัน 

  • เตรียมพร้อม จังหวัดที่กำลังจะเปิด

 

ในส่วนของบางจังหวัด บางพื้นที่ แม้การประกาศของ ศบค. ที่ผ่านมา ยังไม่ได้เปิด ก็ต้องเริ่มต้นเตรียมความพร้อมตั้งแต่วันนี้ และสิ่งสำคัญ ที่ศบค. อยากเห็นคือ ความร่วมมือ โดยเฉพาะสถานประกอบการ การที่จังหวัดของท่านจะเปิด หรือ ไม่ อยู่ที่ความพร้อมของสถานประกอบการ ที่ง่ายที่สุด ขอให้ทุกท่านยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย SHA หรือ SHA+ เปรียบเสมือนตราสัญลักษณ์

 

โดยเฉพาะ ผู้ประกอบการการท่องเที่ยว ของพื้นที่ได้มีการเตรียมความพร้อม ปรับปรุงสินค้า บริการให้ตรงกับมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด ถือว่าเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้สินค้าและบริการด้วย หากย้อนกลับไป ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ มีการใช้ SHA และ SHA+ ตั้งแต่ 1 ก.ค. 64 จนเมื่อเปิดประเทศ 1 พ.ย. 64 จะเห็นได้ว่าสถานประกอบการมากขึ้นที่เข้าร่วมได้สัญลักษณ์ SHA+ 

 

  • เปิดประเทศ ธ.ค. ติดเชื้อสะสม 226 ราย 

 

รายงานผู้เดินทางเข้าประเทศทางท่าอากาศยาน ณ ดอนเมือง สุวรรณภูมิ ภูเก็ต สมุย และอื่นๆ วันที่ 16 ธ.ค. 64 ทั้งสิ้น 11,060 ราย พบติดเชื้อ 16 ราย เดินทางสะสมตั้งแต่ 1 – 16 ธ.ค. 64 ทั้งสิ้น 122,363 ราย พบติดเชื้อ 226 ราย เฉลี่ย 0.18% ทั้งนี้ เมื่อเทียบแล้วในเดือน พ.ย. ทั้งเดือนตัวเลขคนเข้ามา 133,061 ราย ถือว่า ธ.ค. มีคนเข้าประเทศมากขึ้น และตอนนี้ยืนยันการติดเชื้อโอมิครอน 14 ราย โดยส่วนใหญ่เข้ามา Test & Go โดยปัจจุบัน กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พยายามตรวจคัดกรอง เชื้อโอมิครอนอย่างต่อเนื่อง และมีเคสที่ยังต้องรอยืนยันซ้ำ และต้องติดตามกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ต่อไป 

 

ศบค. เตรียมเปิด \"หนองคาย” พื้นที่ต้นแบบ Test & Go ทางบก

โดยรวมแล้ว แม้ว่านักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา โดยส่วนใหญ่เป็น Test & Go ถึงจะติดเชื้อไม่สูง แต่เราต้องเตรียมรองรับ กรณีที่นักท่องเที่ยวจะเข้ามาเพิ่มมากขึ้น ชัดเจนว่า ธ.ค. นักท่องเที่ยวเพิ่มอย่างมาก เมื่อกิจการ กิจกรรมต่างๆ มีการผ่อนคลายมากขึ้น นักท่องเที่ยวมากขึ้น ก็อาจจะมีความเป็นไปได้ที่เราจะคัดกรองพบคนติดเชื้อมากขึ้น ต้องเตรียมการเฝ้าระวัง 
ประเทศที่เข้ามาสูงสุด ได้แก่ เยอรมนี สหราชอาณาจักร รัสเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ฝรั่งเศส สวีเดน สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ นอร์เวย์ และอิสราเอล

 

ศบค. เตรียมเปิด \"หนองคาย” พื้นที่ต้นแบบ Test & Go ทางบก

 

  • นทท. ไม่ปฏิบัติตามมาตรการ ปฏิเสธให้บริการได้  

 

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวต่อไปว่า เน้นย้ำว่า ผู้ที่เดินทางเข้ามาเหล่านี้ ต้องตรวจ RT-PCR ประเทศต้นทาง ผลเป็นลบ ถึงจะสามารถเดินทางได้ แสดงให้เห็นว่าแม้จะมีการตรวจแล้วในระยะแรก แต่เป็นไปได้ว่ากลายเป็นผลบวกในบ้านเรา และในหลายประเทศ ค่อนข้างจะมีท่าทีปฏิเสธต่อการสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งตรงนี้ต้องเน้นย้ำพี่น้องประชาชน โรงแรม ที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวเหล่านี้ว่าการที่เขาเดินทางเข้ามา ต้องปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขประเทศไทยอย่างเคร่งครัด หากไม่สวมหน้ากากอนามัย มีความผิด สามารถปรับได้สูงสุด 20,000 บาท และ หากไม่ปฏิบัติตามมาตรการ สามารถปฏิเสธการให้บริการได้

 

  • เตรียมมาตรการจัดงานปีใหม่

 

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ ข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 40) จะเน้นย้ำว่า เทศกาลปีใหม่ ต้องมีการขออนุญาตหากมีการรวมกลุ่มกัน 1,000 คน เน้นย้ำว่า หากมีการจัดงานในพื้นที่บางจังหวัด หากผู้ร่วมงานเกิน 1,000 คน ผู้จัดงานจะต้องมีผลฉีดวัคซีน กลุ่มผู้ให้บริการครบทุกราย และมีผลการตรวจ ATK ผลเป็นลบ 72 ชั่วโมง ก่อนเริ่มงาน รวมถึงผู้ร่วมงานด้วย ในกรณีผู้ร่วมงานเกิน 1,000 ราย ต้องมีหลักฐานการฉีดวัคซีนครบทุกราย และตรวจ ATK ใน 72 ชั่วโมงด้วยเช่นกัน 

 

แต่ในกรณีที่มีผู้ร่วมงานต่ำกว่า 1,000 ราย ผู้จัดงานต้องเคร่งครัดในการฉีดวัคซีนบุคลากรที่ให้บริการและตรวจ ATK เป็นลบก่อน 72 ชั่วโมง แต่ผู้ร่วมงานขอเพียงแสดงหลักฐานวัคซีนก็สามารถเข้าร่วมงานได้ 

 

 อย่างไรก็ตาม ที่ประชุม ศบค. ชุดเล็กได้มีการหารือกันในรายละเอียด โดยเฉพาะ กทม. ที่มีการรายงานว่ามีการพูดคุยกันในวันที่ 15 ธ.ค. ในที่ประชุม และ มีกาหารือในกลุ่มผู้จัดงาน มีผู้เข้าร่วมงานน้อยกว่า 1,000 คน ซึ่งมีรายละเอียดเล็กๆ น้อย ๆ  เช่นการจัดกิจกรรมในครอบครัว รวมทั้งอาจจะมีการจัดงานปีใหม่ ในนามบริษัท ห้างร้าน สถานประกอบการ หรืออาจจะเป็นการเคาน์ดาวน์ ของร้านอาหาร สถานที่กลางแจ้ง ทางกทม. กรมควบคุมโรค ศบค. ชุดเล็ก พยายามที่จะให้มีข้อปฏิบัติให้ง่ายต่อผู้จัดงาน และผู้ร่วมงานจะนำไปศึกษา เพื่อให้เข้าใจและทำให้ถูกต้อง

 

เช่น มีการนำเสนอ ว่า อาจจะให้ผู้จัดงานที่มีการวางแผนว่าจะมีคนเกิน 300 คนต้องขออนุญาตสำนักงานเขต หรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ขณะที่ ทางจังหวัดอาจจะกำหนดตัวเลข 100 ราย 200 ราย เป็นต้น  

 

การที่คนมารวมกัน พบปะสังสรรค์เทศกาลปีใหม่ ถือเป็นความเสี่ยง การร่วมงาน หรือข้อปฏิบัติจะเป็นอย่างไรขอให้ประชาชน และผู้เตรียมจะจัดงาน รอฟังรายละเอียดที่ทางกทม. และกระทรวงสาธารณสุข จะเน้นย้ำในฉบับที่เข้าใจง่าย ต้องดูในความแตกต่างของแต่ละจังหวัดด้วย เมื่อมีการจัดงานเฉลิมฉลองก็ต้องมีการกำหนดมาตรการสาธารณสุขอย่างปลอดภัย หากไม่ได้ติดตามประกาศของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และทำไม่ถูกต้องอาจจะถือได้ว่ามีความผิดได้ และสิ่งที่กว่านั้น อาจทำให้เกิดการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน และทำให้การฉลองปีใหม่ ทำให้ไม่ปลอดภัย 

 

ที่ประชุม ผอ.ศปก.ศบค. ได้เน้นย้ำว่า ผอ.ศบค. ได้ฝากให้กระทรวงสาธารณสุข โดยคณะกรรมการ EOC พิจารณาเรื่องของการใช้ ATK ตรวจด้วยตนเอง เป็นการยกระดับมาตรฐานการจัดงานต่างๆ รวมทั้งการจัดงานปีใหม่ ซึ่งมีพี่น้องประชาชน และผู้จัดงาน สถานประกอบการ ทำได้อยู่แล้ว ที่มีรายงานมาเป็นระยะ เช่น งานกฐิน งานเลี้ยง งานประชุมผู้ปกครอง กิจกรรมกีฬา ฟิตเนส ฯลฯ ผู้จัดบางแห่งมีมาตรการเข้มข้นที่ต้องให้ผู้เข้าร่วมมีผล ATK เป็นลบ ถึงจะเข้าร่วมได้ มีผู้ประกอบการทำอยู่แล้ว และมีประชาชนทำอยู่แล้ว ต้องย้ำในช่วงเทศกาลปีใหม่