“ฉีดวัคซีน” สังคมคือผู้กำหนด

“ฉีดวัคซีน” สังคมคือผู้กำหนด

การจูงใจให้ประชาชนที่ยังไม่ฉีดวัคซีนเป็นโจทย์ที่ต้องมองรอบด้าน ผู้ที่ปฏิเสธวัคซีน อาจเป็นภัยกับสังคม กระทรวงสาธารณสุขจะต้องมุ่งเรื่องจิตสำนึก สังคมจะเป็นคนกำหนดเอง จะไม่มีมาตรการบังคับไม่ล็อกดาวน์ ดังนั้นใครก็ตามที่จะจุดชนวนความขัดแย้งในสังคม ควรหยุดทันที

ทันทีที่บริษัทไฟเซอร์ ซึ่งทำข้อตกลงกับองค์กรสิทธิบัตรยาร่วม (เอ็มพีพี) ประกาศเปิดทางให้บริษัทผู้ผลิตยาใน 95 ประเทศ สามารถผลิตและจำหน่าย ยาแพ็กซ์โลวิด ยารักษาโควิด-19 ในประเทศได้ กลายเป็นกระแสดราม่าในสังคมไทย ประเด็นคือทำไมประเทศไทยไม่ติดโผ 95 ประเทศ เรื่องนี้ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ให้เหตุผลที่ทำให้ประเทศไทยไม่ได้อยู่เกณฑ์ที่บริษัทไฟเซอร์ จะให้สูตรผลิตยาแพ็กซ์โลวิด ใน 95 ประเทศ เนื่องจากเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลาง-สูง 

เราเห็นว่า ไม่มีใครปฏิเสธการได้สิทธิผลิตและจำหน่าย ยาแพ็กซ์โลวิด แบบไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ เป็นเรื่องที่ดีเพราะได้ต้นทุนในราคาถูก เนื่องจากไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ แต่หากไม่ได้สิทธิพิเศษดังกล่าวก็ไม่ใช่เรื่องร้ายแรง ยาแพ็กซ์โลวิด เป็นเพียงหนึ่งในทางเลือก ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมียาโมลนูพิราเวียร์ เป็นยาเสริมความมั่นคงอยู่แล้ว ที่สำคัญมีสรรพคุณดูแลรักษาผู้ติดเชื้อได้มีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน

สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศวันนี้ มีสัญญาณดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากยอดผู้ติดเชื้อใหม่ลดลงอยู่ในหลักพัน และยอดผู้เสียชีวิตต่ำกว่าร้อย ขณะที่ยอดการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นตามลำดับ ในระยะสั้นรัฐตั้งเป้า 100 ล้านโดส ก่อนสิ้นปี 2565 ไม่น่าจะเป็นเรื่องเกินกำลังเพราะคนไทยได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 สะสมล่าสุด 86 ล้านโดส ปัญหาที่ ศบค.พบในขณะนี้คืออัตราการฉีดวัคซีนโควิดไม่ได้รวดเร็วเหมือนที่ผ่านมา สวนทางกับยอดวัคซีนที่เข้ามามากขึ้น เบื้องต้นสันนิษฐานกลุ่มคนที่อยากฉีดได้ทำการฉีดไปแล้ว คนที่ยังไม่ตัดสินใจเกิดความลังเลในชนิดและสูตรไขว้มากขึ้น 

กระทรวงสาธารณสุขกำลังจะจัดกิจกรรมสัปดาห์การฉีดวัคซีนโควิดในช่วงวันที่ 27 พ.ย.จนถึงสิ้นปี เป็นการสร้างแรงจูงใจให้คนมาฉีดวัคซีน อาจจะให้โชว์เอกสารการฉีดวัคซีน เมื่อฉีดแล้วให้จับสลากเป็นของรางวัล พร้อมให้กระทรวงมหาดไทยช่วยกันหาคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน ประเด็นดังกล่าวถูกขยายผลไปไกลขนาดที่ว่ารัฐจะมีการล็อกดาวน์คนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน การล็อกดาวน์คนไม่ฉีดวัคซีนเกิดขึ้นจริงในโลก เช่น ที่กรุงเวียนนา รัฐบาลให้เหตุผลหลักอัตราการฉีดวัคซีนของประชากรออสเตรีย 65% ต่ำที่สุดในยุโรปตะวันตก 

การล็อกดาวน์เฉพาะกลุ่มคนที่ไม่ฉีดวัคซีนเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทว่าการขยายประเด็นจนเกินจริงเป็นเรื่องที่พึงตระหนัก ในวันที่ประเทศไทยเริ่มมีความมั่นคงทางวัคซีน การจูงใจให้ประชาชนที่ยังไม่ฉีดมาฉีดวัคซีนเป็นโจทย์ที่ต้องมองรอบด้าน เราเห็นว่าผู้ที่ปฏิเสธวัคซีน เปรียบเสมือนทำตัวเสี่ยงอาจเป็นภัยกับสังคม เพราะโอกาสติด และแพร่เชื้อมากกว่าคนอื่นๆ ทว่ามีทางออกร่วมกันได้ วันนี้ชัดเจนแล้วว่ากระทรวงสาธารณสุขจะมุ่งเรื่องจิตสำนึก สังคมจะเป็นคนกำหนดเอง จะไม่มีมาตรการบังคับไม่ล็อกดาวน์ ดังนั้นใครก็ตามที่จะนำเรื่องนี้ไปจุดชนวนความขัดแย้งในสังคม ควรหยุดทันที