เมื่อ "คนสูงวัย" ขี้เหงา รู้จักบริการ "หลานตามสั่ง" ธุรกิจมาแรงในสหรัฐ
![เมื่อ "คนสูงวัย" ขี้เหงา รู้จักบริการ "หลานตามสั่ง" ธุรกิจมาแรงในสหรัฐ](https://image.bangkokbiznews.com/uploads/images/md/2021/11/Gms3B0is0M7fH8ipdNSp.webp?x-image-process=style/LG)
หนึ่งในบริการที่เป็นดาวเด่นของกลุ่มธุรกิจดูแล "คนสูงวัย" ที่มาแรงในยุคนี้ก็คือ "สตาร์ทอัพ Papa" ในไมอามี่ สหรัฐอเมริกา ที่มีบริการ “หลานตามสั่ง” ผ่านแอพพลิเคชั่น ช่วยคลายเหงาให้ "ผู้สูงอายุ" ในยุคที่โลกมีเด็กเกิดใหม่น้อยลง
หน่วยงานด้านประชากรศาสตร์ในหลายประเทศ โดยเฉพาะแถบเอเชีย มีความกังวลกับตัวเลขประชากรกลุ่ม "คนสูงวัย" หรือกลุ่ม Baby Boomer (อายุ 60 ปีขึ้นไป) ที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็น “สังคมสูงวัยเต็มรูปแบบ”
หากมองผิวเผินอาจดูเหมือนว่าเรื่องนี้ไม่ส่งผลกระทบอะไรกับประเทศมากนัก แต่ถ้ามองเจาะลึกในภาคสังคมแล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่าภาวะดังกล่าวส่งผลกระทบในหลายมิติ ตั้งแต่การขาดแคลนแรงงาน รวมไปถึงงบประมาณรายจ่ายของภาครัฐจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
นอกจากนี้ เรื่องที่น่าเป็นห่วงอีกอย่างคือ สังคมผู้สูงวัยจะเต็มไปด้วยประชากรที่มีปัญหาทางสุขภาพกายและสุขภาพจิต เนื่องด้วยพฤติกรรมสังคมเดี่ยวและระบบทุนนิยมที่ผลักดันให้ลูกหลานต้องจากบ้านเข้าเมืองใหญ่เพื่อทำงานหารายได้ และปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่บ้านตามลำพัง (ยังไม่นับถึงกลุ่มผู้สูงอายุบางคนที่ไม่มีทายาท) การแก้ปัญหาความโดดเดี่ยวนี้ บางคนมองว่าสามารถแก้ได้ด้วยระบบ “บ้านพักคนชรา” แต่นั่นก็อาจจะไม่ใช่คำตอบสำหรับผู้สูงอายุทุกคน
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดธุรกิจใหม่ๆ มาตอบโจทย์ความเหงาและโดดเดี่ยวของ "คนสูงวัย" ในยุคนี้มากขึ้น เช่น บริการ “พาผู้สูงอายุไปโรงพยาบาล” หรือบริการในลักษณะ Day-Care (บริการดูแลรายวัน) สำหรับดูแลกลุ่มประชากรผู้สูงอายุโดยเฉพาะ
แต่มีบริการหนึ่งที่เป็นดาวเด่นในกลุ่มธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ นั่นคือ “สตาร์ทอัพ Papa” ในรัฐไมอามี่ สหรัฐอเมริกา ที่เกิดบริการ “หลานตามสั่ง” โดยใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่น สั่งหลานมาอยู่เป็นเพื่อนคลายเหงาได้ง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว
- คอมมูนิตี้ที่เพิ่มขึ้นของ "คนสูงวัย" ในโลกโซเชียล
หากคุณคิดว่าไลฟ์สไตล์ของกลุ่มผู้สูงอายุ มีแค่การส่งรูปดอกไม้พร้อมข้อความ "สวัสดีวันจันทร์" ผ่านกรุ๊ปไลน์แล้วล่ะก็ อาจจะต้องคิดใหม่! เพราะจากการสำรวจของ NRF พบว่า เบบี้บูมเมอร์กว่า 47% ใช้งานโซเชียลมีเดียสูงขึ้น โดย 75% มีบัญชีเฟสบุ๊คเป็นของตัวเอง และชื่นชอบการแชร์ข้อมูลไปยังกลุ่มเพื่อนๆ รวมถึงมีการใช้อินสตาแกรมสูงขึ้น ทั้งหมดนี้ถูกเรียกว่า “The Zoom Effect” หมายถึงพฤติกรรมของกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ในยุคนี้ ที่มีความมั่นใจในการใช้งานสื่อดิจิทัลเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
ด้วยความที่ผู้สูงอายุหันมาใช้สื่อโซเชียลเพิ่มมากขึ้น ช่องทางนี้จึงกลายเป็นพื้นที่ในการสื่อสาร และสามารถตอบสนองความต้องการของตัวเองได้โดยที่ไม่ต้องรอลูกหลานมาคอยทำให้
แอนดรูว์ ปาร์เกอร์ ได้เล็งเห็นช่องทางนี้ จึงทำให้เขาปลุกปั้นธุรกิจด้านการบริการที่มีชื่อว่า Papa ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ Pain Point ของกลุ่มคนสูงวัยดังกล่าว โดยใช้คอนเซ็ปต์ว่า Grandkids-on-Demand
- หลานตามสั่ง : บริการที่สร้างความสัมพันธ์ระหว่าง Generation
“Grandkids-on-Demand” หรือบริการหลานตามสั่ง เป็นธุรกิจที่ดำเนินการโดยสตาร์ทอัพ Papa ในไมอามี รัฐฟลอริดา ได้แรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์ของ "แอนดรูว์ ปาร์เกอร์" ในการดูแลสมาชิกครอบครัวที่เป็นคนชรา
โดยเขามักจะแวะไปหาปู่เพื่อพาท่านไปทำธุระ เช่น พาไปหาหมอ หรือไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ต แต่มีวันหนึ่งเขาไม่ว่าง จึงลงประกาศหาคนมาทำหน้าที่แทนชั่วคราว มีผู้หญิงคนหนึ่งติดต่อมา และเมื่อให้ลองทำงาน พบว่าผลงานเป็นที่น่าพอใจ
แอนดรูว์จึงเห็นโอกาสทางธุรกิจ เขามองว่าคนชราจำนวนมากไม่ได้ต้องการแค่บริการประเภทพาผู้สูงอายุไปโรงพยาบาลเท่านั้น แต่พวกเขาต้องการมากกว่านั้น เช่น ไปเป็นเพื่อนทานข้าว พาไปซื้อของ และเป็นเพื่อนพูดคุยคลายเหงา
ก่อนตัดสินใจทำธุรกิจนี้จริงจัง แอนดรูว์ชิมลางด้วยการให้บริการคนในครอบครัวและญาติๆ ก่อน โดยรับเด็กนักศึกษาเข้ามาทำหน้าที่เป็นเพื่อนคนชรา เมื่อสมาชิกครอบครัวพึงพอใจ เขาก็เริ่มทดลองกับคนที่รู้จัก เมื่อผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ จึงตัดสินใจเปิดบริษัท Papa ขึ้นมาเมื่อ 2 ปีก่อน
พนักงานที่มาทำหน้าที่เป็น “หลานตามสั่ง” หรือที่เรียกว่า Papa Pal นั้น จะถูกคัดเลือกจากกลุ่มนักศึกษาช่วงวัยมิลเลนเนียล (Millennials) ที่ต้องการหารายได้เสริม และต้องมีคุณสมบัติตามที่บริษัทต้องการ
ปัจจุบันมี Papa Pal ในสังกัดราว 300 คน ที่พร้อมให้บริการ ลูกค้าติดต่อผ่านการโทร การส่งข้อความ หรือการจองผ่านแอพพลิเคชั่น พนักงานจะสอบถามข้อมูลว่าต้องการ Papa Pal หญิงหรือชาย บุคลิกประมาณไหน จากนั้นจะทำการคัดเลือกเพื่อให้ตรงกับที่ลูกค้าต้องการ
โดยมีบริการทั้งแบบสมาชิกรายเดือนและแบบเรียกเป็นครั้ง ซึ่งค่าบริการตามที่กำหนด เริ่มต้นที่ชั่วโมงละ 15 ดอลลาร์ หรือ 450 บาท อีกทั้ง บริการของ Papa Pal แบ่งเป็น 5 ประเภท คือ
- Transportation บริการรับส่งไปยังจุดหมายที่ลูกค้าต้องการ เช่น สนามบิน โรงพยาบาล ร้านตัดผม หรืออื่น ๆ
- Companionship บริการอยู่เป็นเพื่อนและทำกิจกรรม เช่น ไปกินข้าว ดูหนัง เล่นเกม อ่านหนังสือให้ฟัง ไปเดินเล่นในสวน หรือแค่นั่งพูดคุย
- House Help บริการช่วยงานในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นตัดหญ้า ทำสวน ทำความสะอาดบ้าน ซักผ้า ดูแลสัตว์เลี้ยง จัดบ้าน ไปจนถึงเข้าครัวปรุงอาหาร
- Grocery Shopping พาไปซื้อของกินของใช้ Papa Pal จะมารับถึงบ้าน พาไปซูเปอร์มาร์เก็ต ช่วยเลือกของ ถือของ ลำเลียงขึ้นรถ และพากลับมาส่งถึงบ้าน
- Technology Lesson บริการสอนการใช้เทคโนโลยี เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต แนะนำการใช้โซเชียลมีเดีย และการวิดีโอคอลเพื่อให้สามารถสื่อสารกับลูกหลานที่อยู่ทางไกลสะดวกขึ้น
ปัจจุบันทางบริษัทมีการปรับเปลี่ยนสโลแกน และมีการขยายฐานลูกค้ามากขึ้น เป็น "Family-on-Demand” เพื่อครอบคลุมบริการที่ไม่ใช่แค่เช่าหลาน แต่ให้เช่าเพื่อนหรือคนที่เป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของคุณได้
--------------------------------------
อ้างอิง : tcdc.or.th, joinpapa, grandkids-on-demand, dop.go.th, marketwatch.com, methailandclub