สธ.เผย6จังหวัดโควิด-19แนวโน้มพุ่ง เตือน 6 กิจกรรมงานศพจุดเสี่ยงระบาด

สธ.เผย6จังหวัดโควิด-19แนวโน้มพุ่ง เตือน 6 กิจกรรมงานศพจุดเสี่ยงระบาด

สธ.เผยค่าเฉลี่ยผู้ติดโควิด-19โลกแนวโน้มลดลง ไทยพบ 6 จังหวัดแนวโน้มติดเชื้อพุ่ง  ย้ำ 6 กิจกรรมเสี่ยงคลัสเตอร์งานศพ จุดเสี่ยงแพร่ระบาด

     เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 258 ต.ค. 2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข ในการแถลงสถานการณ์โควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.เฉวตสรร นามวาท  ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวว่า แนวโน้มจำนวนผู้ติดเชื้อรายวัน เฉลี่ย 7 วันของโลกประมาณ 4 แสนกว่ารายต่อวัน  ซึ่งจำนวนผู้ติดเชื้อปัจจุบันมีการลดลงมาต่อเนื่องระหนึ่ง แต่ปัจจุบันทรงตัว ต้องติดตามต่อว่าจะมีการยกตัวขึ้นหรือไม่
     ส่วน แนวโน้มผู้เสียชีวิตค่าเฉลี่ย 7 วันย้อนหลังราว  7,000 รายต่อวัน ซึ่งยังต้องระมัดระวัง แม้แต่ประเทศที่มีการฉีดวัคซีนครอบคลุมกว้างขวาง แต่การติดเชื้อกลับมาติดเชื้อสูงได้ เพราะฉะนั้น วัคซีนที่ฉีดทุกชนิดยังติดเชื้อได้แต่อาการจะไม่รุนแรง ลดความเสี่ยงเสียชีวิตได้มาก ทั้งนี้ ประเทศไทยผ่านจุดการพบผู้ติดเชื้อใหม่สูงสุดกว่า 2 หมื่นรายมาแล้ว

6จ.โควิด-19แนวโน้มเพิ่มขึ้น
        “สถานการณ์โควิด-19 ในไทย ภาพรวมประเทศพบว่าลดลง สอดคล้องกับกรุงเทพมหานคร(กทม). และปริมณฑล แต่ชายแดนภาคใต้จะต่างออกไปพบการติดเชื้อ 23% ขณะที่จังหวัดอื่นๆ 61 จังหวัด พบติดเชื้อ 60% ยังคงทรงตัว ไม่ได้ลดลงอย่างกทม.และปริมณฑลที่เห็นได้ชัดเจน โดยมี 6 จังหวัดที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ได้แก่ นครศรีธรรมราช ตาก ระยอง จันทบุรี ซึ่ง 4 จังหวัดนี้เป็นจังหวัดในWatch Listจาก10จังหวัดของสธ. และที่มีแนวโน้มเพิ่ม 2 จังหวัด คือ เชียงใหม่ และขอนแก่น พบคลัสเตอร์เกี่ยวกับตลาด”นพ.เฉวตสรรกล่าว  
6 คลัสเตอร์หลักต้องจับตา

          ผู้ป่วยโควิด-19 ที่เป็นกลุ่มก้อน ข้อมูลวันที่ 25 ต.ค.64 จะพบกลุ่มเล็กหลายจุด ไม่ใหญ่เหมือนการระบาดก่อนหน้านี้ โดยพบใน 1.บุคลากรการแพทย์ กทม.และปริมณฑล 15 รายต่างจังหวัด 52 ราย เนื่องจากสัมผัสกับผู้ที่มีความเสี่ยง จึงขอให้ประชาชนบอกเจ้าหน้าที่ว่าตัวเองมีความเสี่ยง เพราะเราไม่ต้องการให้เกิดผลกระทบต่อการดูแลผู้ป่วย 2.เรือนจำ พบที่ตรัง 163 ราย 3.โรงงาน พบที่ประจวบคีรีขันธ์ 31 ราย 4.กลุ่มแรงงาน พบที่แม่ฮ่องสอน 3 ราย แม้ดูไม่เยอะแต่ต้องติดตามว่าจะสะสมมากขึ้นหรือไม่ 5.ชุมชนและตลาด พบที่ลพบุรี 60 ราย เชียงใหม่ 119 ราย เพชรบุรี 10 ราย และ 6.แคมป์ก่อสร้าง พบที่เชียงใหม่ 4 ราย

6กิจกรรมเสี่ยงแพร่โควิด-19ในงานศพ

          นพ.เฉวตสรร กล่าวอีกว่า การติดเชื้อในกลุ่มก้อนงานศพ  ทางทีมสอบสวนโรคของกองระบาดวิทยา  กรมคร.รวบรวม ข้อมูลมาวิเคราะห์ ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-19 ต.ค.2564 พบติดเชื้อที่มีประวัติชัดเจน 747 ราย ได้แก่ ขอนแก่น สะสม 4 คลัสเตอร์ ที่จบแล้ว 1 คลัสเตอร์ ชัยภูมิ 3 คลัสเตอร์ นครศรีธรรมราข 3 คลัสเตอร์ อุดรธานี 3 คลัสเตอร์ และจันทบุรี 2 คลัสเตอร์ โดยจำนวนติดเชื้อกระจายในหลายจังหวัด เช่น จันทบุรี 153 ราย อุบลราชธานี 119  ราย ปราจีนบุรี 79 ราย อุดรธานี 72 ราย สระแก้ว 39 ราย เป็นต้น ทั้งนี้ กิจกรรมที่เป็นปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้องานศพ ได้แก่ 1.การรับประทานอาหารรวมกัน  2.บางพื้นที่ดื่มสุรา วนแก้วหลายคน 3.สวมหน้ากากอนามัยผิดวิธีหรือไม่สวม 4.เล่นพนัน 5.ผู้ที่มาร่วมงานพักค้างแรมกับบ้านเจ้าภาพ และ 6.ผู้ที่มีอาหารป่วยแต่ไม่ได้คัดกรองแล้วเข้าร่วมงาน

    “สิ่งแหล่านี้ต้องใช้ความร่วมมือกัน ตัวท่านเองหากต้องไปร่วมงานต้องไม่มีอาการป่วยระบบทางเดินหายใจ ไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ ควรจะแจ้งเจ้าภาพว่า ไม่สบาย ขอไม่ไป เพราะโควิดอาจมีอาการน้อยมากๆ ความหนาแน่นเว้ยระยะห่างก็ต้องช่วยกันดูแล  และเมื่อไปอยู่รวมกันนานๆ ก็อาจจะอึดอัด ถอดหน้ากากบ้างก็เป็นความเสี่ยง ยิ่งดื่มสุรา ก็ทำให้มีการใกล้ชิด ยิ่งหย่อนการระวังตัว ดังนั้นหากสามารถจัดอาหารให้หิ้วกลับบ้านไปได้จะดีที่สุด   ส่วน การตรวจ ATK ข้อมูลวันที่ 25 ต.ค. ส่งตรวจ 3.6 หมื่นตัวอย่าง พบผลบวก 3 พันราย คิดเป็น 8-9% แต่เป็นการตรวจในวันที่มีการแกว่งตัวขึ้น หากดูย้อนหลังจะพบค่ากลางเฉลี่ยที่ 5%”นพ.เฉวตสรรกล่าว
ไทยฉีดวัคซีนโควิด-19สะสมทะลุ 70 ล้านโดส

       นพ.เฉวตสรร กล่าวด้วยว่า สำหรับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของไทยสะสม 70,505,802 โดส เข็ม 1 ฉีดแล้ว 39.9 ล้านโดสคิดเป็น 55.5% ซึ่งผ่านเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าปลายเดือน ต.ค. จะต้องฉีดได้ 50%  เข็ม 2 ฉีดแล้ว 28.37 ล้านโดสคิดเป็น 39.4% เมื่อแบ่งตามรายจังหวัด พบว่า จังหวัดที่ฉีดได้ 40-49% มี 36 จังหวัด ฉีดมากกว่า 50% มี 25 จังหวัด ฉีดมากกว่า 50-69% มี 56 จังหวัด และฉีดมากกว่า 70% มี 11 จังหวัด ได้แก่ กทม. ปทุมธานี สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา ชลบุรี กระบี่ พังงา ภูเก็ต ระนอง สุราษฏร์ธานี และ ตรัง
วัคซีนโควิด-19ใน 17จังหวัดนำร่องท่องเที่ยว
       ขณะที่พื้นที่สีฟ้านำร่องท่องเที่ยว 17 จังหวัด ในภาพรวม ฉีดเข็ม 1 แล้ว 76% มากที่สุดคือ กทม. 107.4% ภูเก็ต 82.7% ส่วนจังหวัดที่ฉีดเกิน 50% เพิ่มขึ้นหลายจังหวัด อย่างไรก็ตาม จังหวัดที่ต้องจับตา 10 จังหวัด ได้แก่ ตาก ราชบุรี จันทบุรี ระยอง นครราชสีมา นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา ภาพรวมเข็ม 1 ฉีดแล้ว 48.7% ส่วนสงขลาฉีดได้ 56.5% และระยอง 57.7% ส่วนการฉีดในกลุ่มผู้สูงอายุเข็ม 1 ฉีดแล้ว 54.9% มากที่สุดคือ สงขลา 59% ระยอง 66.3% และนครศรีธรรมราช 62.7% และการฉีดในกลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัว ภาพรวมฉีดแล้ว 63.6%

        อนึ่งจังหวัดนำร่องท่องเที่ยว 17 จังหวัด ฉีดวัคซีนเข็ม 1 แล้ว 76.2% ได้แก่ เชียงใหม่ 57.3% ประจวบคีรีขันธ์ 55.4% เพชรบุรี 57.8% ชลบุรี 79.3% สมุทปราการ 72.4% ระยอง 57.7% ตราด 53.2% เลย 45.6% หนองคาย 45.4% อุดรธานี 45% บุรีรัมย์ 54.4% ภูเก็ต 82.7% สุราษฏร์ธานี 49.2% กระบี่ 59.1% พังงา 63.7% ระนอง 62.1% และ กทม. 107.4%