เห็นชอบ! ฉีดเข็ม 3 กระตุ้นผู้รับ "วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า" 2 เข็ม เริ่มพ.ย.

เห็นชอบ! ฉีดเข็ม 3 กระตุ้นผู้รับ "วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า" 2 เข็ม เริ่มพ.ย.

เปิดเป้าหมายฉีดวัคซีนโควิด-19 ช่วงพ.ย. ฉีดเข็ม 3 ผู้ได้รับวัคซีนแอสตราเซนเนก้า 2 เข็ม แล้ว 6 เดือน กระตุ้นด้วยวัคซีนไฟเซอร์

    เมื่อเวลา14.15 น. วันที่  15 ต.ค.2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงมติ ศบค. เมื่อวันที่ 14 ต.ค. กรณีการอนุมัติวัคซีนป้องกันโควิด-19 สูตรไขว้เพิ่ม ว่า คณะกรรมการวิชาการ กระทรวงสาธารณสุข เสนอให้ ศบค.พิจารณาอนุมัติวัคซีนสูตรไขว้ เพิ่มเติม 2 สูตร ได้แก่ 1..สูตรวัคซีนแอสตราเซเนกากับวัคซีนไฟเซอร์ ระยะห่าง 4-12 สัปดาห์ 2.สูตร วัคซีนซิโนแวคกับวัคซีนไฟเซอร์ ระยะห่าง 3-4 สัปดาห์ ทั้งนี้การนำไปใช้ก็ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เนื่องจากเป็นวัคซีนที่ได้มีการจัดหา การบริหารจัดการก็จะต้องให้สอดคล้องกับวัคซีนที่มี เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยการให้วัคซีนนั้นเป็นหน้าที่ของสถานบริการนั้นๆ เป็นผู้จัดให้เหมาะสมต่อไป
        อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ศบค. ได้เคยอนุมัติสูตรไขว้ คือ วัคซีนซิโนแวคกับวัคซีนแอสตราเซเนกา ระยะห่าง 3-4 สัปดาห์ที่มีการใช้อยู่ในปัจจุบัน นับว่า ศบค.อนุมัติสูตรไขว้แล้ว รวม 3 สูตร ที่สามารถใช้ได้ และการจะฉีดให้กับประชาชนนั้น เป็นการบริหารจัดการตามสถานการณ์และตามจำนวนวัคซีนที่มีอยู่ในขณะนั้นๆ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้วัคซีนที่รัฐบาลจัดหามาให้นั้นใช้ได้ดีทุกตัว

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการเห็นชอบให้มีการฉีดเข็มกระตุ้นเข็มที่ 3 ในผู้ที่ฉีดแอสตร้าเซนเนก้าครบ 2 เข็มด้วย นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า  ใช่

        ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมศบค.วันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา มีการเห็นชอบเป้าหมายในการฉีดวัคซีนในเดือน พ.ย.จำนวน 25 ล้านโดส ครอบคลุมประชากรอย่างน้อย 70% ทุกจังหวัด โดยแต่ละจังหวัดจัดสรรให้เพิ่มความครอบคลุมกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค และหญิงตั้งครรภ์  80 %  วัคซีนในเด็ก 12-17 ปีได้รับเข็มที่ 1 อย่างน้อย 70%  ส่วนการฉีดเข็มกระตุ้นให้ในผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนชนิดเชื้อตายครบ  2 เข็ม   ในผู้ที่ฉีดวัคซีนแอสตราเซนเนก้าครบ 2 เข็ม ห่างจากเข็มที่ 2 ราว 6 เดือน โดยตามคำแนะนำของคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2564 ให้กระตุ้นด้วยไฟเซอร์

  ทั้งนี้ วัคซีนแอสตาเซนเนก้า เข้ามาประเทศไทยล็อตแรกเมื่อเดือน ก.พ. 2564  จำนวน 1.2 แสน โดส โดยกลุ่มเป้าหมายที่ฉีดในช่วงเวลาดังกล่าวคือผู้มีอายุ 60 ขึ้นไป กลุ่มที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค และผู้ที่มีความเสี่ยงสูงในการสัมผัสโรค ซึ่งจะเป็นผู้ที่ฉีดเข็ม 2 ปะมาณ เดือน มิ.ย. 2564 ดังนั้น เมื่อถึงเดือนพ.ย.เท่ากับมีการฉีดเข็มที่ 2 มาแล้วราว 5-6 เดือน  ส่วนการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าแบบปูพรมในคนจำนวนมากนั้น เริ่มเข็ม 1 ในช่วงเดือนมิ.ย.และได้รับเข็มที่ 2 ในราวส.ค.-ก.ย. ห่างนับเวลาห่างจากเข็ม 2 ราว 6 เดือน จึงน่าจะได้รับการฉีดเข็ม 3 ในปี 2565