"รมว.พม." เร่งแก้ความเดือดร้อน ปชช. จากโครงการ "รถไฟรางคู่" จ.พิษณุโลก

"รมว.พม." เร่งแก้ความเดือดร้อน ปชช. จากโครงการ "รถไฟรางคู่" จ.พิษณุโลก

"รมว.พม." ประชุม ทีม "พม. One Home" จ.พิษณุโลก เร่งแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยให้ชาวบ้านเดือดร้อนจากโครงการก่อสร้าง "รถไฟรางคู่" สร้างอาชีพ "กลุ่มเปราะบาง" ครอบคลุม เด็ก สตรี "แม่เลี้ยงเดียว" เด็กชาติพันธุ์ ฯลฯ

วันนี้ (26 ก.ย. 64) นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมการติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานการขับเคลื่อนตามภารกิจกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ของจังหวัดพิษณุโลก ครั้งที่ 2/2564 ร่วมกับคณะผู้บริหารกระทรวง พม. พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก และหัวหน้าหน่วยงาน ทีม พม. One Home จังหวัดพิษณุโลก

 

โดย รมว. พม. ระบุว่า ที่ประชุมมีการรายงานเกี่ยวกับโครงการก่อสร้าง "รถไฟราง" คู่ตามแผนการพัฒนาระบบรางของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งคาดว่าจะทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในแนวเขตที่ดินการรถไฟจังหวัดพิษณุโลกทั้งสองฝั่งของทางรถไฟรวม 11 สถานี ได้รับผลกระทบ จำนวน 11 ชุมชน รวม 1,907 หลังคาเรือน

 

ซึ่งขณะนี้ กระทรวง พม. โดย สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. ได้ดำเนินกระบวนการสำรวจพบผู้เดือดร้อน จำนวน 261 หลังคาเรือน และใช้กระบวนการขับเคลื่อนแบบมีส่วนร่วมกับผู้เดือดร้อน เพื่อแก้ไขปัญาหาที่อยู่อาศัยดังกล่าว ทั้งนี้ มีการเตรียมแผนรองรับไว้ช่วยเหลือแล้ว โดยใช้รูปแบบของโครงการบ้านมั่นคงของ พอช. และโครงการบ้านเคหะสุขประชาของการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ซึ่งแบ่งออกเป็น

 

1) ทำสัญญาเช่าบนที่ดินเดิมกับการรถไฟฯ ระยะยาว 30 ปี

2) ย้ายไปยังที่ดินใหม่ ไม่ไกลจากที่ดินเดิมภายในระยะทาง 5 กิโลเมตร

 

ทั้งนี้ ได้กำชับให้ พอช. เร่งสำรวจผู้เดือดร้อนเพิ่มเติม ทำความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการและผลกระทบที่เกิดขึ้น และหาแนวทางข้อเสนอการปรับปรุงที่อยู่อาศัยร่วมกับชุมชน

อ่านข่าว : ‘ในหลวง’ พระราชทานรถไฟฟ้า ถวายแด่ พระครูมงคลจันโทภาส จ.พิษณุโลก

  • เสริมอาชีพกลุ่มเปราะบาง 

 

นายจุติ กล่าวต่อไปว่า เรื่องการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางอย่างมีประสิทธิภาพ จะใช้ข้อมูลจากสมุดพกครอบครัวที่มีข้อมูลในมิติต่างๆ ของ กลุ่มเปราะบาง อาทิ เด็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้ป่วยติดเตียง แม่เลี้ยงเดี่ยว และคนด้อยโอกาส ทำให้ทราบปัญหาและความต้องการ เพื่อให้ความช่วยเหลือต่างๆ อย่างเร่งด่วน โดยคาดว่าจะสามารถเก็บข้อมูลทั้งจังหวัดพิษณุโลกภายในเดือนพฤศจิกายน 2564

 

สำหรับ กลุ่ม "แม่เลี้ยงเดี่ยว" จะให้การส่งเสริมอาชีพทักษะพิเศษที่หุ่นยนต์ทำไม่ได้ อาทิ Hair Specialist ที่เป็นมากกว่าช่างทำผม แต่มีความสามารถทำผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผมจากพืชสมุนไพรเพื่อมูลค่าเพิ่ม โดยจะส่งเสริมให้กลุ่มเปราะบางในนิคมสร้างตนเองปลูกพืชสมุนไพรเป็นวัตถุดิบ จากนั้น จะส่งให้ พอช. นำไปทำเป็นผลิตภัณฑ์เสริมความงาม แล้วจะส่งขายไปยังตลาดของ กคช. ที่มีผู้อยู่อาศัยจำนวนหลายแสนครอบครัวในโครงการต่างๆ ทั่วประเทศ

 

นอกจากนี้ จะสนับสนุน อาชีพ เชฟ (Chef) ทำอาหาร โดยจะเปิดสอนหลักสูตร Master Chef จำนวน 2 รุ่น ภายในปี 2564 และอีก 5 รุ่น ในปี 2565 รวมทั้ง เปิดสอนหลักสูตรบาร์เทนดี้

  • หนุนเด็กชาติพันธุ์เข้าเรียน

 

นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องการช่วยเหลือเด็ก โดยเฉพาะเด็กชาติพันธุ์จะสนับสนุนให้มีโอกาสได้เข้าเรียนในกลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย โดยมีเป้าหมายพัฒนาให้เป็นนักวิทยาศาสตร์ นักการเกษตรสมัยใหม่ และช่างสมัยใหม่

 

สำหรับ "เด็กออทิสติก" จะให้ อปท. ทุกแห่ง ลงพื้นที่สำรวจข้อมูลครอบครัวเด็กออทิสติก เพื่อทำแผนที่ทางสังคมสำหรับให้ความช่วยเหลือต่างๆ ต่อไป  อีกทั้ง สำรวจจำนวนครูที่มีความพร้อม เป็นครูจิตวิทยาที่สามารถดูแลเด็กออทิสติกได้ ในโรงเรียนร่วมทั้ง 461 แห่ง นอกจากนี้ จะส่งเสริมให้ทุกตำบลมีห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ โดยดึงสภาเด็กและเยาวชนเข้ามาช่วยด้วย