เช็คไทม์ไลน์ การฉีด “วัคซีนไฟเซอร์” ให้แก่นักเรียนในสังกัดศธ.

เช็คไทม์ไลน์ การฉีด “วัคซีนไฟเซอร์” ให้แก่นักเรียนในสังกัดศธ.

ศธ.เปิดไทม์ไลน์ เตรียมพร้อมฉีด "วัคซีนไฟเซอร์" ให้แก่เด็กนักเรียนในสถานศึกษาสังกัด ศธ. พื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด เริ่ม 4 ต.ค.นี้ ย้ำไม่มีการบังคับ ต้องเป็นไปตามความยินยอมของนักเรียน ผู้ปกครอง

ใกล้เข้ามาทุกทีสำหรับการฉีด วัคซีนไฟเซอร์ ให้แก่นักเรียน เด็กและเยาวชนในกลุ่มอายุ 12-17 ปี ทั่วประเทศ ตามที่คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) อนุญาตให้วัคซีนไฟเซอร์ฉีดกับเยาวชนอายุ 12-17 ปี 11 เดือน 29 วัน หรือ 18 ปีบริบรูณ์ได้

 

โดยจะครอบคลุมนักเรียนในระดับชั้น ม.1-6 ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรือเทียบเท่า รวมถึง ชั้น ป.6 ที่มีอายุ 12 ปี ตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป ซึ่งจะเริ่มฉีดให้แก่นักเรียนนักศึกษา ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) จำนวน 29 จังหวัดก่อนจะขยายไปสู่นักเรียนนักศึกษาทุกคน ทุกสังกัด จำนวนกว่า 4.5 ล้านคน

อ่านข่าว : กทม.ตั้งเป้าฉีด "วัคซีนไฟเซอร์" นักเรียน ม.1-6 ครบ 2 เข็มก่อนเปิดเทอม

 

  • ไทม์ไลน์ฉีดวัคซีนไฟเซอร์แก่นร.

โดยล่าสุด กระทรวงศึกษาธิการ ได้เปิดไทม์ไลน์ในการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้นักเรียนของ ศธ.มีดังนี้

วันที่ 10-17 กันยายน โรงเรียน/สถานศึกษา จัดเตรียมรายชื่อ และจำนวนนักเรียน โดยระหว่างนั้น ศธ.และ สธ.จัดประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น ศึกษาธิการจังหวัด(ศธจ.) สำนักงานเขตพื้นที่มัธยมศึกษา (สพม.)และอาชีวศึกษาจังหวัด (อศจ.) ซักซ้อมความเข้าใจการฉีดวัคซีน และการทำความเข้าใจกับผู้ปกครอง

วันที่ 17-22 กันยายน โรงเรียน/สถานศึกษาจัดประชุมทำความเข้าใจ ให้ข้อมูลกับผู้ปกครองในการฉีดวัคซีนให้เด็ก

วันที่ 21-24 กันยายน โรงเรียน/สถานศึกษาเชิญผู้ปกครองลงนามแจ้งความประสงค์ (ยินยอม) ให้นักเรียนเข้ารับวัคซีน และหาก สธ.จัดทำแบบสำรวจ และใบยินยอมบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับนักเรียน/ นักศึกษา ศธ.จะเร่งเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ เพื่อให้สถานศึกษานำไปให้ผู้ปกครองกรอกต่อไป

เช็คไทม์ไลน์ การฉีด “วัคซีนไฟเซอร์” ให้แก่นักเรียนในสังกัดศธ.

วันที่ 25 กันยายน โรงเรียน/สถานศึกษา นำส่งบัญชีรายชื่อนักเรียนที่ประสงค์รับวัคซีนไฟเซอร์แก่ผู้อำนวยการ สพม.หรือ อศจ.แล้วนำส่ง ศธจ.

วันที่ 26 กันยายน ศธจ./ ผู้อำนวยการ สพท. / อศจ./ ผู้แทนหน่วยงานการศึกษาในจังหวัดประชุมสรุปจำนวน และรายชื่อนักเรียนเพื่อนำส่งสาธารณสุขจังหวัด

วันที่ 28-30 กันยายน สาธารณสุขจังหวัด วางแผนการรับวัคซีน และกำหนดการฉีดวัคซีนรายโรงเรียน

วันที่ 1 ตุลาคม  โรงเรียน/สถานศึกษา รับทราบกำหนดการ และจัดเตรียมสถานที่

วันที่ 4 ตุลาคม เริ่มการฉีดวัคซีนแก่นักเรียน

 

  • "วัคซีนไฟเซอร์"เพียงพอฉีดเด็ก4.5ล้านคน

ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า จะมีวัคซีนเพียงพอให้เด็กอายุ 12-18 ปี ที่อยู่ในระบบการศึกษา ทั้งใน และนอกสังกัด ศธ.ประมาณ 4.5 ล้านคน ในเดือนก.ย.และต.ค.นี้

การฉีดวัคซีนให้แก่เด็กครั้งนี้ จะเป็นไปตามความยินยอมของนักเรียน และผู้ปกครอง ไม่เป็นการบังคับ

ส่วนเรื่องของวัคซีนที่ได้รับนั้น เพียงพอสำหรับการฉีดทั้ง 2 เข็มให้นักเรียน หากเด็กได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 วันช่วงสัปดาห์ที่ 1 ของเดือนตุลาคม จะสามารถฉีดเข็มที่ 2 ในช่วงสิ้นเดือนตุลาคมได้ ซึ่งจะทำให้การเปิดภาคเรียน On-Site ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ตามลำดับ

สำหรับรูปแบบการดำเนินงาน ดังนี้

  • กำหนดให้บริการวัคซีนไฟเซอร์ผ่านสถานศึกษาเป็นหลัก
  •  โดยได้ประสานไปยังกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) หากสถานศึกษามีพื้นที่จำกัด ขอให้ให้มหาวิทยาลัยเป็นฐานในการฉีดให้นักเรียนด้วย

ส่วนแผนการฉีดวัคซีน มีดังนี้

  • สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และ กทม.จะบริหารจัดการวัคซีนภายใต้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หรือคณะอนุกรรมการการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กทม.ภายใต้คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร
  • ประสานงาน ศธ., ศธจ.หรือหน่วยงานต้นสังกัดของสถานศึกษาในพื้นที่ เพื่อเตรียมการดำเนินงานให้วัคซีนนักเรียน
  • สำรวจเป้าหมาย จัดทำแผนจัดสรร และกำหนดช่วงเวลาเข้ารับวัคซีน กำหนดสถานบริการฉีดวัคซีนให้กับแต่ละโรงเรียน โดยประสานผู้บริหารโรงเรียนเพื่อนำนักเรียนเข้ารับวัคซีน พร้อมกับกำกับติดตามรายงานผลการให้ให้บริการในระบบ MoPH IC

นอกจากฉีดวัคซีนให้กับนักเรียนแล้ว ศธ.ได้ประสานของให้ สธ.เร่งฉีดวัคซีนให้ครูครบทุกคน

จากข้อมูลขณะนี้ พบว่า ครูและบุคลากรทางการศึกษา ในสถานศึกษารัฐ และเอกชน ได้รับวัคซีนไปแล้ว 72% เหลือประมาณ 1.7 แสนคน ที่รอฉีดวัคซีนอยู่ โดยน.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการ ศธ.หารือกับกรมควบคุมโรคไปแล้ว โดยขอให้กรมควบคุมโรคจัดสรรการฉีดวัคซีนครูควบคู่กับการฉีดวัคซีนเด็ก