เรื่องของ'ไก่บ้าน' ที่ไม่ได้มีแค่ไก่

เรื่องของ'ไก่บ้าน' ที่ไม่ได้มีแค่ไก่

เคยคำนวณไหมว่า ปีหนึ่งคุณกินไก่กี่ตัว มีโอกาสกิน "ไก่บ้าน" บ้างไหม แล้วทำไมชีวิตมีทางเลือกน้อยมาก และนี่คือเรื่องของ "ไก่" ที่ไม่ได้มีแค่ไก่

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก รายงานไว้ว่า ในแต่ละปีไก่กว่า 6 หมื่นล้านตัวทั่วโลกถูกเลี้ยงเพื่อการบริโภค โดย 2 ใน 3 ถูกเลี้ยงในระบบอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และมีไก่จำนวนน้อยมากได้รับการเลี้ยงดูโดยคำนึงถึงสวัสดิภาพสัตว์เป็นหัวใจสำคัญ

ว่ากันว่า 90% ของไก่ที่บริโภคเป็น ไก่เนื้อ โดยส่วนประกอบหลักของอาหารไก่ ก็คือ ข้าวโพด ซึ่งปลูกในพื้นที่ป่ากว่า 50 % และมีข้อมูลอีกว่า ถ้าไก่หนักหนึ่งกิโลกรัมจะกินข้าวโพดประมาณ 800 กรัม

นอกจากนี้อุตสาหกรรมไก่เนื้อ ยังมีทั้งเรื่องการฉีดวัคซีน ยาปฏิชีวนะ ยาเร่งการเติบโต ฯลฯ เพื่อทำให้ไก่เติบโตเร็ว อกโต น่องใหญ่

โครงการกินเปลี่ยนโลก ระบุเกณฑ์ที่ไก่จะเจริญเติบโตได้ดีไว้ว่า  อัตราแลกเนื้อที่ 1.64-1.66 กก. ก็คือ ให้อาหารไก่ไป 1.64 กก.ไก่ต้องได้น้ำหนัก 1 กก. 

162926205651

ภาพจากเฟซบุ๊ก food 4 change (กินเปลี่ยนโลก) เมนูทางเลือกการทำอาหารจากไก่บ้าน

นอกจากนี้ไก่เนื้อยังมีหลายสายพันธุ์ ทั้งพันธุ์อาเบอร์เอเคอร์ พันธุ์คอป พันธุ์รอส โดยไก่พวกนี้จะมีขนสีขาว เป็นสายพันธุ์ที่พัฒนามาให้โตเร็ว เลี้ยงแค่ 35 วัน ก็ได้น้ำหนักสองกิโลกรัมกว่าๆ

ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ กลุ่มกินเปลี่ยนโลก ได้จัดเสวนาออนไลน์เรื่อง “ใครว่าเป็นแค่เรื่องไก่ ตอนนี้เราล้วนเป็นผู้ประสบภัย COVID19 ” คุยกันเรื่อง เมนูอาหารจากไก่บ้านของเชฟหลายคน และเล่าถึงการเลี้ยงไก่ และ การกินไก่ 

กิ่งกร นรินทรกุล ณ อยุธยา จากโครงการกินเปลี่ยนโลก เล่าถึง ที่มาที่ไปกระบวนการกินไก่และเลี้ยงไก่ว่า เนื่องจากมูลนิธิชีววิถี ร่วมกับ อ๊อกแฟมประเทศไทย ทำเรื่องห่วงโซ่อาหารยั่งยืนมานาน ล่าสุดเน้นเรื่องที่เกี่ยวกับไก่

"การเลือกว่า เราจะกินไก่แบบไหน มีส่วนทำให้ปัญหาสิ่งแวดล้อมลดลง เพราะอาหารไก่มาจากข้าวโพด  80%มาจากการเพาะปลูกในพื้นที่สูงในภาคเหนือ และมีการเผาพื้นที่ เกิดควันส่งผลกระทบต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม

ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ใช้วัตถุดิบที่ทำอาหารสัตว์จากการเผาพื้นที่ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่  จึงสร้างกิจกรรมทางเลือกให้คนหันมาไก่ออร์แกนิค และไก่พืันบ้าน ฯลฯ 

ถ้าเรากินไก่พื้นบ้าน ไก่ออร์แกนิค เราก็ไม่ต้องกินไก่ 29 กิโลกรัมต่อปี กินแค่ครึ่งเดียว ค่าใช้จ่ายพอๆ กัน แต่มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีส่วนร่วมในการจัดการสิ่งแวดล้อม มีส่วนในการสร้างความเป็นธรรมในห่วงโซ่อาหารมากขึ้น จึงอยากให้คนรู้จักไก่พื้นบ้านมากขึ้น ”  

 

เลือกกินไก่แบบไหน ช่วยลดภาระโลก

ข้อมูลจากกลุ่มกินเปลี่ยนโลก อุตสาหกรรมไก่เนื้อใช้เวลาเลี้ยง 40-45 วัน แต่ละตัวจะมีน้ำหนักเฉลี่ย 2.5 กิโลกรัม เลี้ยงในโรงเรือนขนาดใหญ่กว่าหมื่นตัว แน่นและแออัด

การเลี้ยงลักษณะนี้ผูกกับบริษัทขนาดใหญ่ ซึ่งทำทั้งกระบวนการ ตั้งแต่พันธุ์ไก่ อาหาร วัคซีน ยารักษาโรค พร้อมจับไปเชือดแปรรูปขายเสร็จสรรพ 

อาหารที่บริษัทจัดหามาก็จะเป็นสูตรหนึ่ง สูตรสอง สูตรสาม เปลี่ยนไปตามอายุไก่ ซึ่งไก่เนื้อตัวขาวๆ จะอกโต น่องใหญ่ แต่เวลาวางขายจะแยกชิ้นส่วนแล้วเป็น อก สะโพก น่อง ปีก

162926224275

เกียรติไก่บ้าน ทางเลือกของการเลี้ยงไก่บ้านคุณภาพ ให้อาหารธรรมชาติ และปล่อยให้ไก่เติบโตในที่พื้นที่กว้างๆ รวมถึงมีร่องน้ำให้ไก่เล่น 

ส่วนไก่ไข่ปลดระวาง เวลาวางขายในตลาดจะดูเหมือนไก่บ้าน หนังหนาวาว ๆ ออกเหลืองๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ไก่ไข่อายุเกินสิบแปดเดือนถึงสองปีที่ไม่ค่อยจะไข่แล้ว ปลดประจำการมาเชือดขาย

ไก่ประเภทนี้ เนื้อเหนียวกว่าไก่บ้าน  เหมาะสำหรับคนฟันแข็งแรง หรือทำเมนูต้มตุ๋นนานๆ บางทีก็มาในรูปแบบไก่บ้านต้มน้ำปลา สิ่งที่แตกต่างระหว่างไก่บ้านกับไก่ไข่ปลดระวาง นอกจากตัวโตๆ อวบๆ เนื้อเยอะๆ แล้วราคายังไม่แพง

ส่วนไก่บ้าน ก็คือ ไก่พันธุ์พื้นเมือง มีอยู่ 4 พันธุ์ใหญ่ๆ คือ ไก่อูหรือไก่ชน ไก่แจ้ ไก่ตะเภา และไก่ลูกผสมหรือไก่กลายพันธุ์ ผสมสองสามสายพันธุ์ แล้วแต่เกษตรกรแต่ละพื้้นที่

ไก่แบบนี้ในท้องตลาดจะมีสองสามแบบ ไก่บ้านที่เลี้ยงแบบไก่เนื้อ คนเลี้ยงก็จะบำรุงอาหารให้เพียงพอ เช่น อาหารข้น : ข้าวโพดบด ผสมถั่วเหลือง ข้าว เปลือกไข่ ปลาป่น ผสมกับอาหารหยาบ เช่น หญ้าอิสราเอล หยวกหมัก เป็นต้น ผสมกับปล่อยไก่ให้คุ้ยเขี่ยหาอาหารเอง ได้ออกกำลังกายไม่แออัด 

ไก่พวกนี้จะเลี้ยงกันประมาณ 120 วัน ก็จับขายได้ น้ำหนักเฉลี่ยประมาณตัวละ 1.2 -1.5 กก. 

ส่วนอีกประเภทเป็นไก่บ้านเลี้ยงปล่อยกึ่งธรรมชาติ คือ ปล่อยให้ไก่หาอาหารเอง หว่านรำ หว่านข้าวเปลือก เศษอาหารไปตามเรื่อง ไก่พวกนี้ก็จะโตช้า กว่าจะมีน้ำหนักพอได้กินอาจเกินห้าเดือน เนื้อน้อยกว่าและอาจเหนียวบ้าง 

ไก่บ้านเนื้อเหนียวแค่ไหน

การเลี้ยงไก่บ้านต้องใช้ทั้งความใส่ใจและความปราณีต จึงไม่สามารถทำเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ 

เกียรติศักดิ์ ฉัตร์ดี เจ้าของเกียรติไก่บ้าน บอกว่า หลายคนกินไก่บ้านแล้วบอกว่าเนื้อเหนี่ยว เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับอายุผู้บริโภค ไก่บ้านที่เนื้อไม่เหนียวจะมีการปรับปรุงสายพันธุ์

“ผมเองเลี้ยงไก่สายพันธุ์พม่าผสมสายพันธุ์พื้นบ้าน เลี้ยง120 วัน น้ำหนักเฉลี่ย 1.3-1.5 กิโลกรัม ระยะเวลาสี่เดือนไก่ตัวเมียจะน้ำหนักตัวจะน้อยกว่าไก่ตัวผู้”

กระบวนการเลี้ยงไก่บ้านของ เกียรติศักดิ์ จะผลิตอาหารไก่เอง มีทั้งข้าวโพดพันธุ์พื้นเมือง ถั่วเหลือง หญ้าหวานอิสราเอล ทำเป็นอาหารเสริม และข้าวพันธุ์สันป่าตอง 

"ผมเลี้ยงไก่ไม่เยอะ มีพื้นที่ให้ไก่เดินเล่น มีร่องน้ำให้ไก่เล่น มีแมลงให้จับกินอย่างมีความสุข  ผมไม่ต้องให้ยาไก่ เพราะมันไม่ป่วย สายพันธุ์ที่ผมเลี้ยงเคยเลี้ยงในหมู่บ้านมาร้อยกว่าปี มีการปรับสภาพและมีภูมิคุ้มกัน

เคยลองเลี้ยงไก่กลุ่มหนึ่งฉีดวัคซีน อีกกลุ่มไม่ฉีดวัคซีน ผลที่ออกมาไม่แตกต่างกัน 4-5 ปีที่ผ่านมา จึงไม่ใช้วัคซีนหรือยาเลย ผมเลี้ยงประมาณ 500-600 ตัว ส่งตามออเดอร์ไม่เกิน 50 ตัวต่อเดือน เพราะมีพื้นที่ปลูกพืช เลี้ยงไก่แค่สามไร่ พื้นที่ผมเลี้ยงได้ไม่เกิน 800 ตัวต่อปี 

ผมให้กินไก่กินหยวกหมักด้วย ช่วยเรื่องลำไส้ เพราะส่วนใหญ่ไก่มักเป็นโรคเกี่ยวกับลำไส้และการหายใจ ก็เลยให้กินพวกจุลินทรีย์ อาหารสัตว์จะมีปลาป่นเพิ่มปริมาณโปรตีนแค่ 5% 

และเคยมีคนถามว่าทำไมไม่เอาไก่พื้นบ้านพันธุ์นี้ไปให้เพื่อนที่อื่นเลี้ยง เราพบว่า ไก่แต่ละสายพันธุ์เหมาะกับบางพื้นที่ เคยเอาลูกไก่ไปให้เพื่อนบ้านเลี้ยงต่างพื้นที่พบว่าอ่อนแอลง  แต่ละสายพันธุ์มีความต้องการอาหารต่างกัน"

ธุรกิจเล็กๆ ของเกียรติศักดิ์ ทำแบบพอเพียงพอกิน มีกำไรไม่มาก 

"ผู้บริโภคต้องได้กินอาหารที่เป็นธรรมและเข้าถึงได้ ผมขายไก่บ้านกิโลกรัมละ 210 บาท  มีต้นทุนอาหารกิโลกรัมละ 90-100 บาท และมีต้นทุนแรงงานผม ภรรยา พ่อและแม่ รวมถึงอื่นๆ อีก"

.........................

ฟาร์มเล็กๆ ไก่บ้าน

-แทนคุณออร์แกนิคฟาร์ม นครปฐม (เฟซบุ๊ก : แทนคุณ ออร์แกนิค)

-เกียรติไก่บ้าน เชียงใหม่ (เฟซบุ๊ก : เกียรติไก่บ้าน /โทร : 085 709 8035 )

-เพชรอันนาฟาร์ม จ.นครสวรรค์ (โทร/ไลน์ 0816884443)

-ไก่บ้านคุณสายฝนจ.บึงกาฬ เบอร์ 085-2681288 เฟซบุ๊ก :ตลาดบ้านป่า peasant market