อย่าหลงป่าติดหล่มเพราะ ‘โควิด-19’

อย่าหลงป่าติดหล่มเพราะ ‘โควิด-19’

เวลานี้หากไม่อยากตกไปอยู่ในสภาพหลงป่าติดหล่ม "โควิด-19" ต้องพยายามพลิกฟื้นสถานการณ์ให้ได้ อย่ารอที่จะเปลี่ยน รวมถึงธุรกิจต้องเปลี่ยน งานต้องเปลี่ยน คนทำงานต้องเปลี่ยนทักษะ รีสกิล อัพสกิล ซึ่งทักษะที่ตอบโจทย์อนาคต

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 เข้าสู่ช่วงที่น่าจับตามองอีกครั้ง และทำให้เกิดการตั้งคำถามถึงภาพอนาคตของสถานการณ์ว่าจะเป็นเช่นไร แนวทางการบริหารจัดการสถานการณ์ช่วงวิกฤติในระยะนี้

ภาพอนาคตที่จะเกิดขึ้น ขึ้นอยู่กับความสามารถในการควบคุมโรคและความไม่แน่นอนของการมีวัคซีน สถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ในตอนนี้ ทำให้เราคนไทยคงต้องยกการ์ดขึ้นสูงอีกครั้ง เราต้องประเมินสถานการณ์และร่วมกันป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เลวร้ายลงไป จนเกินจะรับมือไหวทั้งทางด้านสุขภาพและด้านเศรษฐกิจ

ปีที่ผ่านมา สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ร่วมกับมูลนิธิสถาบันอนาคตไทยศึกษา (Thailand Future Foundation) ร่วมกันดำเนินการศึกษาจัดทำ “มองภาพอนาคตประเทศไทย แนวทางการรับมือหลังวิกฤติโควิด-19” ตั้งแต่ช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 ช่วงแรก

ผลการศึกษานี้ดังกล่าว เราได้วิเคราะห์ภาพอนาคตประเทศไทยที่มีโอกาสเกิดขึ้นหลังเผชิญวิกฤติโควิด-19 และข้อเสนอแนะแนวทางการกำหนดทิศทางการพัฒนาประเทศหลังสถานการณ์คลี่คลาย เพื่อรองรับภาพอนาคตที่อาจเป็นไปได้ หากเปรียบเทียบภาพอนาคตประเทศเป็นเสมือนการเดินทางแล้ว เส้นทางต่างๆ ที่ประเทศไทยอาจต้องเผชิญบนเส้นทางสายโควิดนี้ มี 4 เส้นทาง คือ

 ซิ่งทางด่วน (Rosy Scenario) ประเทศไทยสามารถควบคุมโรคได้เบ็ดเสร็จและเศรษฐกิจฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

 ลากเกียร์ต่ำ (Slow but Sure) ประเทศไทยควบคุมโรคระบาดได้เบ็ดเสร็จ แต่ระบบเศรษฐกิจไม่ฟื้นตัว ภาพรวมประเทศเดินหน้าได้เรื่อยๆ อย่างช้าๆ ด้านสุขภาพค้นพบวัคซีนและยารักษาโรคได้ผล

 วิ่งเลียบผา (Risky Business) ประเทศไทยยังมีการระบาดซ้ำ แต่เศรษฐกิจสามารถฟื้นตัวได้ ภาคส่วนต่างๆ เคลื่อนตัวไปได้แต่ยังอยู่บนความเสี่ยง ทำให้ธุรกิจและประชาชนต้องใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวัง

 หลงป่า ติดหล่ม (Doomsday Scenario) เป็นภาพอนาคตที่เลวร้ายที่สุด ประเทศยังมีการระบาดซ้ำในขณะที่เศรษฐกิจหดตัว ทุกอย่างในประเทศหยุดชะงัก ต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวนาน

(ดาวน์โหลดหนังสือ “มองภาพอนาคตประเทศไทย แนวทางการรับมือหลังวิกฤติโควิด-19” ได้ที่ www.nxpo.or.th/th/report/6300/)

ช่วงก่อนหน้านี้เรามองว่าประเทศไทยคล้ายกับ “วิ่งเลียบผา (Risky Business)” คือเส้นทางมีความเสี่ยง ประเทศยังสามารถพอเคลื่อนไปได้ แต่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ยังมีการระบาดซ้ำ เศรษฐกิจก็พอจะเริ่มฟื้นตัวได้ เศรษฐกิจฟื้นตัวด้วยการใช้จ่ายภายในประเทศ ระบบเศรษฐกิจฟื้นตัวด้วยการบริโภคสินค้าบริการและการท่องเที่ยวภายในประเทศ

อย่างไรก็ตาม ณ จุดนี้เรามาถึงจุดที่น่ากังวลว่าเรากำลังจะไปสู่เส้นทางการหลงป่าหรือไม่ และเชื่อว่าคนไทยทุกคนคงไม่อยากให้เราไปสู่การหลงป่า ติดหล่มอย่างแน่นอน เพราะภาพหลงป่า ติดหล่ม หรือ Doomsday Scenario เป็นภาพอนาคตที่เลวร้ายที่สุด เพราะจะทำให้ประเทศไทยมีการระบาดซ้ำๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในขณะที่เศรษฐกิจหดตัว จนกระทั่งทำให้ทุกอย่างในประเทศหยุดชะงัก ถอยหลังไปอย่างมาก นั่นหมายความว่าเราจะต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวนาน

ในเวลานี้ หากเราไม่อยากตกไปอยู่ในสภาพหลงป่าติดหล่ม เราต้องพยายามพลิกฟื้นสถานการณ์ให้ได้ พลิกให้เราเหนือกว่าไวรัสโคโรนา เราต้องควบคุมโรคทำให้ได้มากที่สุด การฉีดวัคซีน การบริหารจัดการให้ได้จึงสำคัญ เพราะไม่ใช่นั้นแล้วหากเราไม่สามารถควบคุมโรคได้แล้ว นอกจากจะไม่สามารถหยุดยั้งการระบาดของเชื้อโรคได้แล้ว จะส่งผลกระทบต่อเนื่องกับเศรษฐกิจชนิดที่ว่าฉุดไม่อยู่

เราต้องปรับตัว บรรเทาผลกระทบและช่วยในการปรับตัว ช่วยเหลือเยียวยา เพิ่มสภาพคล่อง และให้เงินช่วยเหลืออย่างตรงจุดเป็นสิ่งจำเป็นและเร่งด่วน ณ เวลานี้ พร้อมๆ กันนั้นเราต้องสนับสนุนการจ้างงาน สร้างงานใหม่ให้ผู้ได้รับผลกระทบ

เราต้องเปลี่ยนแปลง เราอย่ารอที่จะเปลี่ยน เราต้องเปลี่ยนในตอนนี้เลย อย่าคิดชะล่าใจว่ารอสถานการณ์ดีขึ้น ธุรกิจต้องเปลี่ยน งานต้องเปลี่ยน คนทำงานก็ต้องเปลี่ยนทักษะ รีสกิล อัพสกิล ทักษะที่ตอบโจทย์อนาคต (Future Skill) ต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้

สิ่งหนึ่งที่สำคัญก็คือกระบวนทัศน์ การทำงานทุกภาคส่วน การใช้ชีวิต พฤติกรรมของประชาชนก็จำเป็นต้องปรับเปลี่ยน ทำให้โลกหลังโควิด-19 ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะเรากำลังเดิมพันด้วยความเป็นและความตาย ชีพจรชีวิตและชีพจรเศรษฐกิจของประเทศในเวลานี้ เราต้องปั๊มกลับคืนมาให้ได้ ทุกคนต้องร่วมกันลุกขึ้นมาสู้ ไวรัสยังปรับตัว เปลี่ยนแปลงกลายพันธุ์เล่นเกมกับเรา เราจะรอหวังว่าจะให้ไวรัสอ่อนแรงไปก่อนคงจะไม่ได้แล้ว