สามประสาน วัคซีนคือคำตอบ

ช่วงเช้าวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม โพสต์เฟซบุ๊คเกี่ยวกับเป้าหมายวัคซีน ทางออกของโควิด-19 สาระสำคัญระบุว่า คณะทำงานพิจารณาการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) รายงานความคืบหน้าจากการหารือทุกฝ่าย ได้ข้อยุติ ประเทศไทยจะจัดหาวัคซีนอีก 2-3 ยี่ห้อเพิ่มเติมอีก 35 ล้านโดส นอกเหนือจากที่ดำเนินการไว้แล้ว 65 ล้านโดส ในจำนวน 35 ล้านโดส ภาคเอกชน นำโดยสภาหอการค้าไทย ก็จะช่วยรัฐบาลจัดหาให้แก่พนักงานลูกจ้างเองด้วยประมาณ 10-15 ล้านโดส ซึ่งก็จะช่วยลดงบประมาณของรัฐบาลลงไปได้

ความความคืบหน้าครั้งนี้ เริ่มจากนายกรัฐมนตรีกระชับอำนาจใหม่ในการแก้ปัญหาโควิด โดยมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานจัดหาวัคซีนใหม่ที่มีเอกชนจากโรงพยาบาลและผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมกับผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2564 ที่ผ่านมา มีการทำการบ้านก่อนประชุมระดมสมองเปิดทางสะดวก ในประเด็นให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมจัดหาวัคซีน ไม่ใช่แค่การประหยัดงบประมาณ การมีเอกชนเข้ามาช่วยวางยุทธศาสตร์ จัดการวางระบบและร่วมบริหาร ที่สำคัญหน่วยงานรัฐห้ามเกียร์ว่าง ที่สำคัญต้องไม่มีการแทรกแซงจากกลุ่มนักการเมืองเหมือนช่วงที่ผ่านมา

วันนี้ชัดเจนแล้วว่าการแก้ปัญหาโควิดในประเทศ วัคซีนคือคำตอบ ทำอย่างไรให้มีการกระจายมากกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งยอดล่าสุดจำนวนการได้รับวัคซีน ยอดสะสม (28 ก.พ.-20 เม.ย. 2564) 712,610 โดส ใน 77 จังหวัด จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 คือ 604,947 ราย จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 อยู่ที่ 107,663 ราย วันนี้รัฐบาลกำหนดเป้าหมายใหม่รวม 100 ล้านโดส โจทย์อยู่ที่ความรวดเร็วกว่านี้ ถ้าเป็นไปตามแผนเหล่านี้ ในอนาคตการเปิดประเทศก็จะทำจะเร็วขึ้น ความหวังให้เศรษฐกิจจะฟื้นตัวไม่ยาก ขณะเดียวกันระหว่างทาง รัฐบาลก็ต้องจัดสรรงบประมาณ อัดฉีดเงินเยียวยาหล่อเลี้ยงให้เศรษฐกิจมีสภาพคล่อง

เราเห็นว่าการที่รัฐเปิดทางให้มืออาชีพจากภาคเอกชนเข้ามา แล้วมีการรับลูก ทำงานรวดเร็วเข้าเป้าตรงประเด็น เป็นเรื่องที่ต้องยกย่องทั้งคณะทำงาน 16 อรหันต์ ผู้บริหารสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ประธานสภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรม สมาคมธนาคารไทย รวมถึงซีอีโอบริษัทชั้นนำกว่า 40 ชีวิต ที่นัดถกประเด็นปัญหา ยอมสละเวลาและเงินทุนเข้าร่วมจัดหาวัคซีนเพื่อแก้ปัญหาของชาติ เรายังเห็นว่ารัฐบาลจะต้องแก้ไขระเบียบและกฎหมายที่เป็นอุปสรรค ชั่วโมงนี้อย่าให้เสียของ ต้องตีเหล็กกำลังร้อน เราเชื่อมั่นในพลังสามประสาน ที่ประกอบด้วยรัฐ เอกชนและภาคประชาสังคม จะร่วมฝ่าฟันวิกฤตวัคซีนและมหันตภัยโควิดไปได้ จะกี่ 100 ล้านโดส จะไม่ใช่แค่ความฝัน