เปลี่ยน 'ขยะ' พลาสติกเป็น 'วัสดุก่อสร้าง' แก้ปัญหาขยะล้นทะเลฝั่งตะวันออก

เปลี่ยน 'ขยะ' พลาสติกเป็น 'วัสดุก่อสร้าง' แก้ปัญหาขยะล้นทะเลฝั่งตะวันออก

ชุมชนบ้านอำเภอ สัตหีบ จ.ชลบุรี ร่วมกับ มทร.ธัญบุรี - แมกโนเลีย - และ พรีเชียส พลาสติก เปิดตัววิสาหกิจชุมชนเพื่อสังคมเป็นชุมชนอัพไซคลิ่ง (Upcycling) แปรรูปขยะพลาสติก แก้ปัญหาขยะล้นทะเลฝั่งตะวันออก

เมื่อเร็วๆ นี้ ชุมชนบ้านอำเภอ เทศบาลตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบจังหวัดชลบุรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ธัญบุรี ร่วมกับ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) และ บริษัท พรีเชียส พลาสติค แบงค็อก จำกัด ร่วมกันเปิดตัว วิสาหกิจชุมชนแปรรูปขยะพลาสติคช่วยแก้ปัญหาขยะพลาสติคล้นทะเลฝั่งตะวันออก โดยเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมเป็นชุมชนอัพไซคลิ่ง (Upcycling) ที่นำขยะพลาสติกจากทะเลมาแปรรูปเป็นวัสดุก่อสร้างได้สำเร็จพร้อมจำหน่ายเพื่อใช้งานเป็นแห่งแรกของประเทศไทย นำร่องต้นแบบแห่งแรกที่ชุมชนบ้านอำเภอ เทศบาลตำบลนาจอมเทียน จังหวัดชลบุรี และมีเป้าหมายภายใน 5 ปี จะแปรรูปขยะทะเลเป็นวัสดุก่อสร้างทั้งหมด พร้อมขยายผลสู่ชุมชนอื่นในพื้นที่ โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรือ EEC

วิสาหกิจชุมชนเพื่อประกอบกิจการเพื่อสังคม แปรรูปขยะ ได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญจากหลายภาคส่วน เช่น สนับสนุนงบประมาณในการออกสูตรผสมสำหรับทำบล็อกจากเศษขยะพลาสติกทะเล จากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ภายใต้แผนงานวิจัยทะเลไทยไร้ขยะ รวมไปถึงได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชน อาทิ MQDC ช่วยด้านการสนับสนุนองค์ความรู้ด้านการพัฒนาวัสดุก่อสร้างไปใช้งานจริง ในภาคอสังหาริมทรัพย์โดยมีพันธมิตร บริษัท พรีเชียส พลาสติค แบงค็อก จำกัด สนับสนุนการจัดเวิร์คช้อปสาธิตการใช้อุปกรณ์อัดบดขยะ ผลักดันให้เกิดความเข้มแข็งของชุมชนบ้านอำเภอให้สามารถผลิตสินค้าและได้มีการนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง

การจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนบ้านอำเภอเพื่อแปรรูปขยะพลาสติคจากทะเลมาเป็นวัสดุก่อสร้างสำเร็จรูปพร้อมใช้งานนี้ ถือว่าเป็นกลไกหนึ่งในการบริหารจัดการขยะพลาสติคในทะเล ที่เริ่มต้นจากความร่วมมือของชุมชนบ้านอำเภอ กับ เทศบาลนาจอมเทียน ที่ช่วยกันเก็บขยะพลาสติคจากทะเลไว้ ซึ่งขยะเหล่านี้มีมากถึง 1,140 ตัน/ปี และขยะจากกิจกรรมการประกอบอาชีพประมงในพื้นที่ 18.18 ตัน/ปี เหาทางทำให้มีมูลค่า

เนื่องจากปัญหาขยะพลาสติคในทะเลได้ทำลายสิ่งแวดล้อมชายฝั่งทะเล สัตว์และพืขทะเลมีความลำบากในการดำรงชีวิตฉะนั้น การเปิดวิสาหกิจชุมชนที่ได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วนแบบบูรณาการนี้จึงเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เป็นการยกระดับการบริหารจัดการขยะพลาสติคอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และกำหนดเป้าหมายให้ชายหาดบ้านอำเภอ เป็นสถานที่ทำกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม แบบครบวงจร อันดับต้นๆ ของประเทศ

เวคิน ตั้งกุลวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) กล่าวว่า ชุมชนบ้านอำเภอถือเป็นชุมชนที่เข้มแข็งในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มีความตั้งใจในการร่วมหาแนวทางต่างๆ เพื่อลดปริมาณขยะในพืนที่และนำมาเป็นวัสดุทดแทนที่เกิดประโยชน์ โดยขอความร่วมมือจากศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISCbyMQDC)ต่อยอดในการแปรรูปผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐานเป็นวัสดุก่อสร้างเพื่อใช้งานในโครงการอสังหาริมทรัพย์

ในส่วนของ MQDC ได้ซื้อวัสดุก่อสร้างอัพไซคลิ่งจากวิสาหกิจชุมชนนี้ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของชุมชนให้ก้าวหน้าได้ตามเป้าหมาย เป็นการสร้างรายได้แก่ชุมชนในระยะยาว โดยซื้อวัสดุก่อสร้างแปรรูปจากขยะพลาสติค มาใช้ใน 2 รูปแบบ ได้แก่ ใช้ในพื้นที่บางส่วนของโครงการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และเพื่อพัฒนาสถานที่ต่างๆ ในชุมชนโดยรอบ โดยเริ่มจากการสั่งซื้ออิฐบล็อกมูลค่า 250,000 บาท เพื่อมอบให้โรงเรียนบ้านอำเภอ นำไปจัดสร้างกำแพงของโรงเรียน

วิสาหกิจชุมชนเพื่อสังคมนี้จัดตั้งขึ้นจากกลุ่มอาสาสมัครท้องถิ่นรักษ์โลก (อถล) ที่ทำงานด้านสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พบเห็นขยะทั้งจากชุมชนวันละ 37 ตัน และขยะตามฤดูการที่พัดมาจากทะเล เป็นปัญหาที่ยากต่อการแก้ไข 

อนุสรณ์ สายนภา ประธานกลุ่มอาสาสมัครท้องถิ่นรักษ์โลก ตัวแทนชุมชนบ้านอำเภอกล่าวว่าวิสาหกิจชุมชน บ้านอำเภอ และได้ประสานกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ที่คิดค้นงานวิจัยด้านวัสดุก่อสร้างที่ผลิตมาจากขยะพลาสติก นำขยะพลาสติกมาผ่านกระบวนการเปลี่ยนรูปเป็นวัสดุก่อสร้างเพื่อจำหน่าย แห่งแรกในประเทศไทย

วิสาหกิจชุมชน บ้านอำเภอ แห่งนี้มีเป้าหมายเป็นแหล่งเรียนรู้ สร้างงาน สร้างอาชีพ และห้องทดลองเพื่อพัฒนาวัสดุใหม่ๆ เป็นผู้นำในการรณรงค์เรื่องการจัดการขยะชุมชนคาดว่าภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ หากสถานการณ์โควิดผ่อนคลายลงทางวิสาหกิจชุมชนก็จะมี เครื่องจักรเข้ามาเพิ่มเพื่อดำเนินการอัพไซคลิ่งขยะพลาสติคต่อไป และจะมีการนำขยะพลาสติกทะเลรวมที่ไม่ต้องคัดแยกผลิตเป็นคอนกรีตบล็อกก่อกำแพงโรงเรียนบ้านอำเภอ และผลิตเป็นบล็อกปูพื้นสำหรับปูพื้นที่สาธารณะในแลนด์มาร์คของชุมชนบ้านอำเภอ และคาดว่าภายในระยะเวลา 5 ปี ขยะทะเลจะถูกนำไปใช้ผลิตเป็นวัสดุก่อสร้างทั้งหมด และชุมชนบ้านอำเภอ จะเป็นพี่เลี้ยงสามารถขยายผลไปสู่ชุมชนพันธมิตรอื่นๆ และอาจขยายผลในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรือ EEC ต่อได้

ดร.ประชุม คำพุฒ หัวหน้าหน่วยวิจัยวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และรองผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจเชิงพาณิชย์ สำนักความร่วมมืออุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ธัญบุรี กล่าวว่าสถาบันได้เข้ามาให้ความรู้ทั้งด้านวิชาการผ่านงานเสวนา กิจกรรมรณรงค์เก็บขยะทะเล แคมป์เยาวชนรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมถึงการฝึกสอนชุมชนในการทดลองทำอิฐจากวัสดุทดแทนรวมทั้งจัดหาอุปกรณ์เพื่อจัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชน โดยได้จัดหาเครื่องจักรในการบดขยะพลาสติกและอุปกรณ์สำหรับขึ้นรูปอิฐบล็อกและอิฐปูพื้นเพื่อช่วยสนับสนุนโครงการนี้อีกทางหนึ่ง

วิสาหกิจชุมชน บ้านอำเภอ ได้รับการสนับสนุนวัสดุก่อสร้างโรงเรือนมูลค่า 150,000 บาท จาก บริษัท พรีเชียส พลาสติค แบงค็อก จำกัด และสนับสนุนเครื่องจักรสำหรับบดและหลอมพลาสติกเพื่อขึ้นเป็นชิ้นงานต่างๆ ดอมินิก ภูวสวัสดิ์ จักรพงษ์ ผู้บริหาร บริษัท พรีเชียส พลาสติค แบงค็อก จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้จัดทำเวิร์คช้อปสาธิตการแปรรูปขยะพลาสติอัพไซคลิ่งให้กับเยาวชนและผู้ที่สนใจ เพื่อให้สามารถมีตัวอย่างและมุมมองในด้านการแปรรูปขยะโดยใช้เครื่องจักรขนาดเล็กที่เหมาะสมสามารถแปรรูปขยะพลาสติคในชีวิตประจำวันได้ตลอดเวลาชุมชน หรือ ผู้สนใจ ที่จะเข้ามาเรียนรู้หรือสนับสนุนด้านการจัดการขยะพลาสติคอัพไซคลิ่ง ติดตามข่าวสารได้ที่FB:รักษ์ทะเลเสน่ห์บ้านอำเภอ