มิณทร์ กามิกาเซ่ อ่านอย่างไรให้สอบติดหมอ

มิณทร์ กามิกาเซ่ อ่านอย่างไรให้สอบติดหมอ

เติมเต็มกับอีกหนึ่งความฝันของนักร้องหนุ่มจากค่ายกามิกาเซ่ เมื่อสอบติดแพทย์ศิริราชได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วในวัย 16 ปีเท่านั้น

ย้อนไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ในวัย 11 ปีของ มิณทร์ ยงสุวิมล คว้าแชมป์ในการแข่งขันเรียลลิตี้ร้องเพลงสำหรับเด็ก ถือเป็นใบเบิกทางเข้าสู่วงการเพลงและเป็นที่รู้จักในชื่อ “มิณทร์ กามิกาเซ่” “เต็มที่” คือนิยามที่เด็กหนุ่มตั้งเอาไว้ในใจ เพื่อทำทุกสิ่งทุกอย่างให้เต็มที่สุดๆ

มิณทร์ บอกว่า การร้องเพลงแต่ละครั้งสนุกและมีความสุขมาก แต่ก็มีความท้าทายเพราะยังต้องเรียนหนังสือและไม่อยากทิ้งการเรียน จึงสัญญากับตัวเองว่าเกรดต้องไม่ตกจากที่เคยได้ 3.7-3.8 ขณะที่งานก็ต้องเต็มที่ด้วยเช่นกัน เพราะไม่ใช่แค่ตัวเอง แต่มีทั้งทีมงาน ผู้ใหญ่ที่คอยสนับสนุนรวมถึงแฟนคลับ

เขาผมสอบติดคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล รายงานตัวเรียบร้อยแล้วครับ ผมอยากจะเป็นหมอมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะช่วงที่เข้าวงการใหม่ๆ คุณตาคุณยายเข้าโรงพยาบาลบ่อยมาก จุดประกายให้คิดว่า ถ้าสามารถช่วยท่านได้มากกว่าแค่มานั่งรอเฉยๆ ก็คงจะดี เมื่อวางแผนที่จะเป็นหมอ จึงต้องเตรียมตัวเยอะมาก อ่านหนังสือเยอะมาก ขณะที่งานคอนเสิร์ตก็กำลังฮอต

“ช่วงที่กำลังขึ้นเกรด 10 หรือเทียบเท่าชั้น ม.4 ที่เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ผมเห็นเพื่อนๆ อ่านหนังสือกันแล้ว ก็เริ่มเอาข้อสอบวิชาเฉพาะแพทย์มาลองทำดูบ้าง มันยากมากขนาดที่ทำไม่ได้ซักข้อเดียว เลยเริ่มคิดว่า ต้องเตรียมความพร้อมให้ดี และตั้งใจจะสอบเทียบเพื่อไปลองสนามสอบก่อน 1 ปี”

“เคล็ดลับการเรียนขึ้นอยู่กับแต่ละคน บางคนอ่านก่อนเข้าห้องสอบเพราะจำได้มากกว่า บางคนอ่านตุนระยะยาวเพราะเป็นความทรงจำระยะยาว แต่ผมจะค่อยๆ อ่าน ค่อยๆ เก็บไปทีละหน้าหรือทีละบท แล้วก็กลับมาทบทวนบทที่อ่านไปครั้งที่แล้วทุกครั้ง แต่ถ้าเป็นวิชาคณิตศาสตร์จะฝึกด้วยการทำโจทย์ให้มากๆ”

ด้วยความชอบฟังเพลงของตัวเอง เขาก็จะฟังเพลงเร็วและทำโจทย์เลขให้เร็วตามจังหวะเพลง ทำให้ทำข้อสอบแต่ละข้อได้เร็วขึ้น แต่ความเร็วอาจขาดความรอบคอบ จึงต้องกลับมาทวนคำตอบอีกครั้ง เพื่อให้ถูกต้องและใช้เวลาน้อย

“ตอนประกาศรายชื่อคนที่สอบผ่าน ตื่นเต้นเหมือนขึ้นคอนเสิร์ตครั้งแรก แต่พอหาชื่อตัวเองไม่เจอ รู้สึกเฟลมาก เสียใจที่ทำเต็มที่แล้วแต่ไม่ผ่าน จนคุณแม่มาหารายชื่อเพื่อนๆ เพื่อแสดงความยินดี แล้วเจอชื่อเรา ตอนนั้นอึ้งและดีใจ แต่ที่ตามมาคือ เจ็บ เพราะทุกคนรุมตีที่เราสะเพร่าหาชื่อตัวเองไม่เจอ และไม่หาซ้ำ (หัวเราะ)”

**อ่านบทสัมภาษณ์ในมุมอื่นๆของ มิณทร์ ได้ใน กรุงเทพธุรกิจ (กายใจ) ฉบับวันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม 2559