กรมอนามัย แนะล้างตลาด-ลอกท่อระบายน้ำ ลดเสี่ยงโรค

กรมอนามัย แนะล้างตลาด-ลอกท่อระบายน้ำ ลดเสี่ยงโรค

กรมอนามัย แนะเจ้าของ-ผู้ประกอบการตลาด ล้างทำความสะอาดตลาด เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรค ในช่วงฤดูฝน

นพ.ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัยเปิดเผยว่า ในฤดูฝนนี้อาจมีน้ำท่วมและน้ำขังในบริเวณตลาด ทำให้เกิดความสกปรก เฉอะแฉะ ส่งผลต่อความสะอาดของอาหารที่จำหน่าย เพื่อป้องกันความสกปรกปนเปื้อนลงสู่อาหารและเป็นการป้องกันโรคที่เกิดจากอาหารและน้ำเป็นสื่อ เจ้าของและผู้ประกอบการควรมีการล้างตลาดตามหลักสุขาภิบาลอย่างน้อยเดือนละครั้ง หรือหากมีการระบาดของโรคควรล้างตลาดเพิ่มเป็น2-3ครั้งต่อเดือน โดยเน้น 3จุดสำคัญ ได้แก่ พื้น เขียง แผง เพราะเป็นจุดที่อยู่ใกล้ชิดและสัมผัสอาหารมากที่สุด ซึ่งการล้างตลาดที่ถูกหลักสุขาภิบาลมี 2ขั้นตอนสำคัญ คือ ขั้นตอนที่ 1 การทำความสะอาด โดยการปัดกวาดหยากไย่ สิ่งสกปรกบนเพดาน ฝาผนัง โคมไฟ พัดลม ฯลฯ กวาดเศษขยะตามพื้น ทางเดิน ระบายน้ำ แผงและเขียงจำหน่ายอาหาร จากนั้นขัดด้วยผงซักฟอกหรือโซดาไฟเพื่อกำจัดคราบสกปรกตามพื้น ทางเดิน รางระบายน้ำ เขียง หรือแผง แล้วใช้น้ำฉีดล้างให้สะอาด ขั้นตอนที่ 2 การฆ่าเชื้อโรค โดยใช้น้ำผสมผงปูนคลอรีน 60เปอร์เซ็นต์อัตราส่วน1 ช้อนชาต่อน้ำ 20 ลิตร ใส่ลงในฝักบัวรดน้ำ และรดบริเวณพื้น ทางเดิน เขียง แผงทางระบายน้ำเสียให้ทั่ว จากนั้นปล่อยทิ้งไว้เพื่อให้คลอรีนฆ่าเชื้อโรค นอกจากนั้นควรมีการสำรวจท่อระบายน้ำรอบตลาดอยู่เสมอ หากอุดตันหรือสกปรก มีขยะไปสะสมควรทำการลอกท่อระบายน้ำดังกล่าวทันที 

รองอธิบดีกรมอนามัยกล่าวต่อไปว่า บริเวณห้องน้ำ ห้องส้วม อ่างล้างมือ ที่ปัสสาวะและก๊อกน้ำสาธารณะที่ใช้ในตลาดต้องทำความสะอาดโดยใช้น้ำยาทำความสะอาดหรือผงซักฟอกช่วยและล้างด้วยน้ำสะอาด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายโรคที่เกิดจากอาหารและน้ำเป็นสื่อได้โดยเฉพาะจุดเสี่ยง ได้แก่ สายฉีดชำระ พื้นห้องส้วม ที่รองนั่งส้วมแบบนั่งราบ ที่กดน้ำ ก๊อกน้ำ และกลอนประตู ที่สามารถติดต่อจากการสัมผัสสิ่งขับถ่ายที่ปนเปื้อนเชื้อโรค จึงต้องมีการทำความสะอาดเป็นประจำ และขณะเดียวกันผู้ใช้บริการควรมีพฤติกรรมการใช้ส้วมสาธารณะอย่างถูกต้อง ไม่ขึ้นไปเหยียบบนโถส้วมแบบนั่งราบ ไม่ทิ้งวัสดุอื่นใดนอกจากกระดาษชำระลงโถส้วม ราดน้ำหรือกดชักโครกทุกครั้งหลังการใช้ส้วม และล้างมือด้วยสบู่และน้ำให้สะอาดทุกครั้งหลังใช้ส้วมเพื่อช่วยกันดูแลรักษาความสะอาดของส้วมในสถานบริการและลดจุดเสี่ยงของการเป็นแหล่งแพร่ระบาดของโรค

“ทั้งนี้การที่ประชาชนจะได้รับอาหารสดที่สะอาด ปลอดภัย ต้องเลือกซื้อสินค้าจากตลาดสดที่ได้มาตรฐานตลาดสดน่าซื้อของกรมอนามัยเพราะมีการพัฒนาแล้วทั้ง3 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม เช่น โครงสร้างตลาดต้องมีความมั่นคงแข็งแรง สะอาด อากาศถ่ายเทสะดวก มีการจัดการขยะ น้ำเสีย และจัดวางสินค้าเป็นระเบียบเรียบร้อย แผงจำหน่ายอาหารต้องอยู่สูงจากพื้นไม่น้อยกว่า 60เซนติเมตร ผู้ขายหรือพ่อค้าแม่ค้าแต่งกายสะอาด ผู้ปรุงใส่ผ้ากันเปื้อนที่สะอาด สวมหมวกหรือเน็ทคลุมผม 2) ด้านความปลอดภัยของอาหาร มีการตรวจสอบและไม่พบสารปนเปื้อนในอาหาร5 ชนิด ได้แก่ สารฟอร์มาลีน สารกันรา สารบอแรกซ์ สารฟอกขาว และยาฆ่าแมลง และ 3) ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคผู้ประกอบกิจการตลาดต้องจัดบอร์ดให้ความรู้แก่ผู้บริโภคในเรื่องเกี่ยวกับ อาหารปลอดภัย จัดจุดทดสอบสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และมีเครื่องชั่งกลางที่ได้มาตรฐานไว้บริการซึ่งในปัจจุบันมีตลาดสดทั่วประเทศได้รับการรับรองมาตรฐานตลาดสดน่าซื้อถึง1,351แห่ง”นพ.ดนัยกล่าวในที่สุด