ทพ.เตือนซื้อ'เครื่องฟอกฟันขาว'สำเร็จรูปเสี่ยงอันตราย

ทพ.สุธา เจียรมณีโชติชัย รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงกรณีมีการโฆษณาขายเครื่องเลเซอร์ฟอกฟันขาวพร้อมอุปกรณ์ฟอกฟันทางเฟชบุ๊คว่า กรณีที่มีอุปกณ์ฟอกสีฟันขายโดยเฉพาะในอินเตอร์เน็ต เชื่อว่าจะมีสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์สูงกว่า6 % อาจจะสูงถึง15 % ซึ่งตามปกติหากสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์สูงกว่า6%ต้องได้รับความควบคุม โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทันตแพทย์ไม่แนะนำให้ใช้โดยเด็ดขาดเพราะการใช้สารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ที่มีความเข้มข้นสูงมากจะกัดกร่อนเนื้อฟัน ทำให้เนื้อฟันเสียหาย และเสียวฟันมากขึ้น ถือว่าเป็นอันตราย อีกทั้ง ถาดครอบฟันควรเป็นถาดครอบที่พิมขึ้นโดยแพทย์ เพื่อให้เฉพาะตัวบุคคลที่ใช้เท่านั้น เพราะจะมีความพอดีกับฟันของเรา ถาดที่มีขายทั่วไปพร้อมอุปกรณ์ฟอกฟันจะไม่พอดีกับทุกคน ทำให้สารที่ฟอกฟันโดนเหงือกอาจทำให้เหงือกบวม อักเสบขึ้นมาได้ ยิ่งการมีเครื่องเลเซอร์ให้ไปทำเองที่บ้านอาจจะใช้โดยผิดวิธีจนเกิดอันตรายได้

ทพ.สุธา กล่าวอีกว่า ปกติสีของฟันที่เปลี่ยนไปเกิดขึ้นเนื่องจากกินยาปฏิชีวนะ ชากาแฟจนทำให้ฟันค่อยๆมีสีที่เข้มขึ้น และการที่สีเนื้อฟันมีลักษณะไม่ขาวมาตั้งแต่เกิด การฟอกฟันขาวนั้นทำได้ 2 กรณี คือ 1.ทำด้วยทันตแพทย์ เป็นผู้ฟอกสีฟันโดยใช้สารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ เข้มข้นสูง6 %หรือมากกว่าฟอก หลังจากนั้นจะใช้เลเซอร์ฉายที่ฟันเพื่อให้สารดังกล่าวซึมซาบที่ฟันง่ายมากขึ้น และ2.เมื่อฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์แล้วคนไข้บางรายอาจจะต้องพิมฟันเพื่อทำถาดครอบฟันแล้วนำสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ชนิดไม่เข้มข้นจากทันตแพทย์กลับไปฟอกต่อเองที่บ้าน 4-5 ครั้ง แต่หลังฟอกไปครั้งแรกภายใน6เดือน – 1 ปี ฟันก็จะกลับมามีสีเดิมอีก

“การฟอกสีฟันทางที่ดีที่สุดควรทำโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น การจะซื้ออุปกรณ์ต่างๆมาใช้เองอาจจะไม่ได้ผลที่เท่าที่ควร หรืออันตรายต่อตัวผู้ใช้ได้ ซึ่งการฟอกฟันจะต้องมีการฟอกซ้ำๆทุก6เดือน – 1ปี แม้จะไม่มีวิจัยออกมาว่ามีอันตราย หากฟอกบ่อยอาจจะทำให้เนื้อฟันเสียหรือเกิดอาการเสียวฟันได้ หากไม่มีความจำเป็นก็ไม่ควรไปฮิตตามเทรนที่อยากให้ฟันขาวๆ ปกติสีฟันของคนเรานั้นจะเปลี่ยนไปได้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องฟอกสีฟันแต่อย่างใด”ทพ.สุธากล่าว