ป่วยไข้เลือดออกกว่า1แสน ตาย102ราย ยันไม่มีสายพันธุ์ใหม่

คร.ชี้ปีนี้ไทยป่วยไข้เลือดออก กว่า1แสนราย ตายแล้ว102ราย พีคสุดช่วงเดือนส.ค. พบป่วย 7,000 รายต่อสัปดาห์
แนะกำจัดลูกน้ำยุงลายจากบ้านอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ระบุลูกน้ำจากยุงลายอก็มีเชื้อไข้เลือดออก
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนถึงสถานการณ์โรคไข้เลือดออกว่า ไข้เลือดออกเป็นโรคประจำถิ่นของแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลายประเทศก็มีการระบาด เช่น มาเลเซีย จนถึงเดือน ก.ย. 2558 พบผู้ป่วย 80,000 ราย เสียชีวิต 200 กว่าราย
ส่วนสถานการณ์ในประเทศข้อมูลตั้งแต่ต้นปีจนถึงต้นเดือน พ.ย. พบผู้ป่วย 102,000 ราย เสียชีวิต 102 ราย เมื่อเทียบกับปี 2556 ซึ่งถือเป็นปีที่มีการระบาดของโรคไข้เลือกออกหนักนั้นมีผู้ป่วย 150,000 ราย เสียชีวิต 150 ราย ในปีนี้ถือว่าระบาดแต่ไม่รุนแรงเท่าปี 2556 อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาในช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย. มากขึ้นกว่าปีก่อน แต่ถือว่าผู้ป่วยเริ่มชะลอตัวลง โดยพบผู้ป่วยรายใหม่ 3,000-4,000 รายต่สัปดาห์ จากช่วงที่มีการระบาดสูงสุดในเดือน ส.ค.มีผู้ป่วย 7,000 ต่อสัปดาห์
“ที่น่าสังเกตคือปีนี้อากาศร้อนค่อนข้างมาก ซึ่งเอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสเดงกี่ บวกกับฝนตกๆ หยุดๆ ทำให้ลูกน้ำยลายมีปริมาณมาก และเจริญเติบโตได้ดี โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ เมื่อมีฝนตกมากคนอยู่รวมกันหนาแน่น โอกาสที่จะแพร่ระบาดก็เพิ่มมากขึ้น เช่น โคราช เชียงใหม่ กทม. ซึ่งในการป้องกันที่สำคัญที่สุดต้องกำจัดลูกน้ำยุงลาย เพราะลูกน้ำที่เกิดจากยุงลายที่มีเชื่อไข้เลือดออกก็จะมีเชื้ออยู่ในตัวเลย แต่ที่เป็นปัญหาในการกำจัดลูกน้ำยุงลาย นอกจากเจ้าของบ้านจะไม่กำจัดทุกสัปดาห์แล้ว เมื่อมีเจ้าหน้าที่จะเข้าไปกำจัดให้ภายในบ้าน ก็ไม่อนุญาตให้เข้าไปภายบ้าน ให้ทำได้แค่บริเวณท่อระบายน้ำ ซึ่งเป็นการกำจัดที่ไม่ตรงจุด เพราะลูกน้ำที่อยู่ตามท่อน้ำนั้นเป็นยุงรำคาญ ไม่ใช่ยุงลาย” นพ.โอภาส กล่าว
นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า โรคไข้เลืดออกเป็นโรคที่มีความรุนแรงสูง ถ้าหากมีผู้ป้ฝ่วย 1,000 ราย จะเสียชีวิต 1 ราย จาก 2 สาเหตุ 1. ภาวะเลือดออก 2.เลือดรั่วจากเส้นเลือดและเกิดภาวะช็อค และเสียชีวิตได้ โดยไวรัสเดงกี่ที่เป็นสาเหตุของไข้เลือดออกมี 4 สายพันธุ์ คือ เดงกี่ 1, 2, 3 และ 4 ย้ำว่าไม่มีสายพันธุ์ใหม่แต่อย่างใด และความรุนแรงของทั้ง 4 สายพันธุ์ไม่ต่างกันมาก ในการระบาดในประเทศไทยจะพบทั้ง 4 สายพันธุ์โดยอาจจะวนเวียนกันไป บางปีสายพันธุ์ อาจจะระบาดมากในภาคใต้ สายพันธุ์ที่ 3 อาจจะระบาดมากในภาคเหนือ เป็นต้น ดังนั้นคนหนึ่งคนจะสามารถเป็นไข้เลือดออกได้ 4 ครั้ง แต่จะไม่ได้เกิดจากสายพันธุ์เดิม เนื่องจากร่างกายจะมีภูมิต้านทานไวรัสเดงกี่สายพันธุ์นั้นๆ ทั้งนี้การป่วยไข้เลือดออกครั้งแรกจะไม่ค่อยรุนแรงมาก แต่หากเป็นครั้งที่ 2 จะเกิดความรุนแรงมากขึ้น เลือดออก และช็อคได้
สำหรับอาการของผู้ป่วยไข้เลือดออกระยะแรกจะมีไข้ ปวดศีรษะ ปวดตัว อาเจียน เลือดออกที่ผิวหนัง แต่หากอาการรุนแรงไข้จะลดลง ตัวเย็น ซึม กินอาหารไม่ได้ เวียนศีรษะ ไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว หมดสติ ซึ่งระยะติดเชื้อและรุนแรงจะอยู่ในช่วง 48 ชั่วโมง หากรักษาตามอาการจนพ้นระยะ 7 วันก็จะหายจากโรค การวินิจฉัยแรก จะแยกจากอาการไข้ทั่วไปค่อนข้างยาก ต้องเจาะเลือดตรวจซึ่งหากป่วยเพียง 1-2 วัน การเจาะเลือดตรวจอาจจะไม่พบเชื้อ ต้องใช้เวลา 3-4 วัน จึงจะเจาะเลือดและตรวจรู้ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนบุคคลด้วย การเจาะเลือดครั้งแรกจึงอาจไม่เจอเชื้อไข้เลือดออกก็ได้ ซึ่งการรักษายังไม่มียาเฉพาะ ต้องให้การรักษาแบบประคับประคองมีไข้ ส่วนวัคซีนยังอยู่ในขั้นตอนการขอขึ้นทะเบียนยา
“จากการสำรวจของกรมควบคุมโรค คนไทยรู้จักไข้เลือดออกกว่า 80 % แต่มีส่วนร่วมในกาป้องกันโรค กำจัดลูกน้ำยุงล่ยเพียง 20% เท่านั้น คนไทยจึงควรป้องกันโรคด้วยการสำรวจบ้านตัวเองและกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย เทน้ำทิ้งสัปดาห์ละอย่างน้อย 1 ครั้ง” นพ.โอภาสกล่าว




