แอนดี้ เขมพิมุก พิธีกรอารมณ์ดี...ติส

แอนดี้ เขมพิมุก พิธีกรอารมณ์ดี...ติส

'แอนดี้ เขมพิมุก' พิธีกรอารมณ์ดี ท่าทางนักเลงนิดๆ พูดจาเฮฮาเสียงดัง มีความเป็นธรรมชาติ เป็นตัวของตัวเอง เสน่ห์ของชายคนนี้ในจอกับนอกจอไม่ต่าง

หนุ่มหน้าตี๋อินเตอร์ 'แอนดี้ เขมพิมุก' แม้จะไม่โดดเด่นระดับพระเอกสุดฮอตแต่ก็มีผลงานอย่างต่อเนื่อง ด้วยบุคลิกที่เป็นเสน่ห์เอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็น ชายหนุ่มอารมณ์ดี มีความมั่นใจในตัวเองทั้งคำพูดและท่าทางมาดกวนนิดๆ เหวี่ยงหน่อยๆ ทำให้สิบกว่าปีที่ผ่านมาเขายังคงเป็นขวัญใจมหาชนและมีแฟนคลับเหนียวแน่น


๐ แท้จริงแล้วแอนดี้อารมณ์ดีไหม?
แน่นอน ผมเป็นคนอารมณ์ดีแต่ก็มีอารมณ์ติสด้วย อ่อนไหวง่าย เปลี่ยนไปมาง่ายด้วย น่าจะเป็นลักษณะของชาวเมถุนซึ่งเป็นราศีเกิดของผมคือ บุคลิกอารมณ์สองขั้ว ดีก็ดีแลย ถ้าเสียก็เสียเลย ก็เคยถามเพื่อนว่าผมเป็นคนอย่างไร คำตอบที่ออกมาก็ตามที่บอกไว้นั่นแหละ อารมณ์ดีด้วยติสด้วย ชอบอยู่คนเดียวก็มี ชอบอยู่กับเพื่อนๆ ก็มี ไปไหนมาไหนคนเดียวก็มี ดูหนังคนเดียวก็มี ดูหนังกับเพื่อนก็มี

๐ คิดว่าอะไรที่ทำให้ยืดหยัดอยู่ในวงการนี้มาได้ร่วม 20 ปี?
ความเสมอต้นเสมอปลาย ผมจะเลือกงานที่ชอบก่อน แล้วทำมันด้วยความซื่อสัตย์ในสิ่งที่เลือก ผมเป็นคนแบบนี้มาโดยตลอดตั้งแต่ไหนแต่ไรมา คนไม่ชอบผมก็จะไม่ชอบแบบนี้ตลอดไป คนที่ชอบก็จะชอบแบบนี้ตลอดไป เพราะว่าคุณไม่สามารถที่จะควบคุมหรือสั่งคนอื่นให้มาชอบคุณ
ผมทำงานเกินร้อย คุณจ้างร้อย ผมทำให้พันหรือหมื่น ผมตั้งใจทำงาน จริงใจกับคนรอบข้าง เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เข้าวงการจนถึงทุกวันนี้ ผมไม่เคยเปลี่ยนแปลงยกเว้นหน้าตากับรอยย่น

๐ รับมือกับแรงต้านหรือความเครียดอย่างไร?
ก็มีอ่อนไหวตามบ้าง ตัวผมเองเวลาทำงานจะชัดเจน ถ้าเป็นแบบนี้แล้วคุณไม่ชอบก็บอกมาตรงๆ คือด้วยอารมณ์และการทำงานของผม แต่ขณะเดียวก็อาจจะไปเหยียบหรือทับคนอื่น ในเรื่องอารมณ์ สำเนียงการพูดหรือว่าท่าทาง แต่ทั้งหมดนั้นคือการทำงานที่พยายามให้ดีที่สุด
สุดท้ายเมื่อเสร็จงาน ผมก็จะเดินมาขอโทษ ผิดหรือไม่ผิดไม่รู้แต่จะขอโทษทุกคน ขอโทษยกมือไหว้และขอบคุณที่รับผมได้ ขอบคุณที่ทำให้งานสำเร็จ และขอบคุณที่ตั้งใจทำงาน ผมไม่มีพวกพี่ผมก็ตาย พวกพี่ไม่มีผมงานก็ไม่สำเร็จ ผมใช้คำว่า อพริชิเอ็ท คือการเห็นคุณค่าของทุกคนที่ทำงาน ฉะนั้น คำพูดคำจา คำขอบคุณ ขอโทษและยกมือไหว้จึงสำคัญ

๐ แอนดี้จะยึดเส้นทางเอาดีทางพิธีกรเลยไหม?
ผมยังอยากร้องเพลงเหมือนเดิม แม้จะผ่านมาหลายบทบาททั้งพิธีกร ดีเจ อะไรก็แล้วแต่ สุดท้ายก็ยังอยากร้องเพลง ผมออกอัลบั้มเดี่ยวสองสามอัลบั้มแต่ก็ไม่สำเร็จเท่าที่ควร ตอนนี้เริ่มคุยกับโปรดิวเซอร์วางแผนจะทำงานเพลงชุดใหม่ ทุกวันนี้บอกได้ว่างานพิธีกรมีน้อยลงด้วยความที่ลูกค้ามีออฟชันมากขึ้น แต่หลักคิดสำคัญสุดของผมคือ ต้องไม่หวั่นไหวกับงานที่น้อย แต่ตัวเองต้องไม่น้อยตาม
ผมมีงานพิธีกรมากแต่งานอีเว้นท์ก็สำคัญเพราะได้เงินก้อนใหญ่ แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไรเพราะเราอายุมากขึ้น ความสดในการทำงานก็น้อยลง ขณะที่ลูกค้าต้องการอะไรที่ใหม่ ผมก็เลยกลับมาเรื่องร้องเพลง คือคนเราเมื่อขึ้นไปสุดก็ลงมาต่ำสุด ฉะนั้น เมื่อถึงจุดต่ำสุดก็ต้องสร้างตัวเอง สร้างเครดิตบิลิตี้ของเราให้ขึ้นมา เพิ่มพลังตัวเอง สร้างภาพลักษณ์ขึ้นมาใหม่ ให้คนอื่นรู้สึกว่าเราไม่ตายนะเว้ย เราไม่เก่า ค่าตัวก็เรียกขึ้นได้อีกด้วย
ผมพูดถึงความเป็นจริงที่ว่าวันนี้มาถึงขนาดนี้ ค่าตัวเราแค่นี้ แต่ถ้าวันหนึ่งค่าตัวขยับขึ้นไปอีกเราก็สามารถคุยกันได้ เราต้องมองกว้างๆ อย่ามองแคบ ต้องมองว่าเราเป็นอย่างไร พยายามประเมินและพัฒนาตัวเอง ให้คะแนนว่าอยู่ในระดับไหนเมื่อเทียบกับคนอายุเท่ากันนี้

๐ ดูแลสุขภาพฟิตร่างกายอย่างไรบ้าง?
ผมให้ความสำคัญกับเรื่องของอาหารการกินมากที่สุด ดูว่าจะใส่อะไรเข้าไปในปากมีประโยชน์มีโทษมากน้อยแค่ไหน อะไรที่กินไปแล้วเพิ่มคอเลสเตอรอลเพิ่มไขมันในร่างกาย ก็ต้องลดหรือไม่กินเลยยิ่งดี แล้วก็พึ่งพาอาหารเสริมบ้าง ส่วนการออกกำลังกายก็ทำได้เรื่อยๆ แต่ไม่หักโหมเกินไป
หลักคิดในการดูแลตัวเองของผมคือ คุณอย่าพยายามอยู่นิ่ง คุณอยู่นิ่งได้ก็ตอนเฉพาะที่นอนหลับและใช้ความคิดเท่านั้น เวลานอกเหนือจากนั้นพยายามขยับเคลื่อนไหวให้มากที่สุด อย่างคนที่เป็นสาวออฟฟิศมีหน้าท้อง นิ้วล็อค ไม่ว่าจะทำอะไรเราต้องรู้จักร่างกายตัวเอง รู้ว่าตัวเองทำอะไรอยู่ ถ้าเราฝืนมันหรือทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผลกระทบมันรออยู่แต่จะยาวหรือสั้นก็ขึ้นอยู่กับสรีระหรือโครงสร้างร่างกายของคนๆ นั้น บางคนอาจทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่ก็ไม่เป็นอะไร ก็ถือว่าโชคดีไป
หลายคนมักจะอ้างว่าไม่มีเวลาที่จะออกกำลังกาย ลองคิดดูให้ดีๆ ถ้าที่บ้านเลี้ยงสุนัข คุณก็พามันออกไปวิ่ง ออกไปเดินเล่น ก็เป็นการออกกำลังแล้ว ใช้ทุกช่วงเวลาที่คุณคิดว่าไม่มีเวลาแต่มันมี ลองคิดดูให้ดี ก่อนนอนคุณสามารถวิดพื้นได้อย่างน้อยทำไปเลยสิบยี่สิบครั้ง ให้หัวใจรู้สึกฮาร์ดเบรก ทำได้จากทุกกิจกรรมโดยไม่ต้องอ้างว่าไม่มีเวลา
บ้านผมไม่มียิม ผมอยู่คอนโดอยู่ตึกแถวก็พยายามใช้ทุกส่วนของบ้านเป็นที่ออกกำลังกาย ยกตัวอย่างคานบ้านถ้าแข็งแรงก็ใช้แทนบาร์โหน บันไดมีสิบสเตป ผมก็วิดพื้นแบบเอาหัวลงบ้างเอาหัวขึ้นบ้างทำได้หมด มีโต๊ะมีเก้าอี้ก็เล่นต่างระดับได้ ก็ขึ้นอยู่กับคุณ ผมไปกองถ่ายก็เล่นได้ มีขวดน้ำพลาสติกก็ยกแทนเวท
ผมเป็นคนที่ฟิตตลอดแต่ไม่ได้เล่นจริงจัง ถ้าวันไหนมองกระจกหรือชั่งน้ำหนักแล้วรู้สึกอ้วนกว่าเดิม ชั่งน้ำหนักเสร็จขึ้นก็วิ่งเลย ต้องควบคุมตัวเอง อย่าให้ตัวเองเหลิง

๐ ความฟิตนี้เกี่ยวกับพิธีกรรายการ Fat Fighter?
เป็นรายการเรียลลิตี้แข่งลดน้ำหนักโดยใช้ศิลปะแม่ไม้มวยไทยทุกรูปแบบ ชิงรางวัล 1 ล้านบาทของสิบสาวไซส์ XL น้ำหนัก 90 กิโลกรัมขึ้นไป มีพิธีกร 2 คน ผมทำหน้าที่ร่วมกับคุณสลิตา พรรณลึก (น้องเฟรม) ก็ได้รับการติดต่อมาจากทางทีมงานของรายการ อาจจะเห็นถึงความเหมาะสมจากไลฟ์สไตล์ของผมที่เข้ากับคอนเซปต์ของรายการในเรื่องกีฬาซึ่งโดยส่วนตัวก็ชอบกีฬามวยด้วย แล้วก็มีเรื่องของความฟิตของร่างกาย
คุณเห็นถึงความพร้อมและความตั้งใจของสิบสาวว่าหนักแน่นแค่ไหน ทั้งยังมีสาระความสนุกจากเทรนเนอร์ซึ่งเป็นนักมวยที่เรารู้จักกันดี ก็มีสมจิตร จงจอหอ นักมวยฮีโร่โอลิมปิกขวัญใจชาวไทย สามารถ พยัคฒ์อรุณ ปรมาจารย์มวยเพรชฆาตหน้าหยก สมรักษ์ คำสิงห์ นักมวยฮีโร่โอลิมปิกและเขาทราย กาแล็คซี่ ซ้ายทะลวงไส้

๐ รายการ Fat Fighter ให้อะไรแก่ผู้ชม?
เยอะแยะมาก ทุกวันนี้เห็นได้ว่าคนส่วนใหญ่แทบจะไม่มีการออกกำลังกาย คนส่วนใหญ่มีปัญหาน้ำหนักเกิน มีปัญหากับการควบคุมน้ำหนัก รายการนี้จะช่วยให้คุณลดน้ำหนักรีดไขมันได้อย่างถูกวิธี ถูกต้องและได้ประสิทธิภาพ ที่สำคัญยังสร้างแรงบันดาลใจให้กับสาวไซส์เอกซ์แอลทุกคนที่จะฮึด จะลุกขึ้นมาดูแลตัวเอง
สิบสาวที่ผ่านการคัดเลือกในรายการนี้มาจากทุกอาชีพการทำงาน ทั้งนักศึกษา พนักงานออฟฟิศ คุณแม่บ้าน คุณอยากได้อาชีพไหนมีหมด มีบางคนก็เป็นเกษตรกร ฉะนั้น คุณผู้ชมที่มีไซส์โอเวอร์เวทหรือว่าไม่ควรจะน้ำหนักเท่านี้ จะเห็นว่าทุกคนสามารถฟิตและลดน้ำหนักได้ (อย่างถูกวิธี)
ถ้าคุณดูรายการนี้ จะได้เห็นวิธีการลดน้ำหนักที่ถูกต้อง แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือ คุณจะได้แรงบันดาลใจที่จะเอาชนะตัวเอง เพราะคู่ต่อสู้ก็คือตัวของคุณเอง
(ติดตามชมและเชียร์การลดน้ำหนักของสาวไซส์ XL ในรายการ "FAT Fighter เฟิร์มฟิต พิชิตล้าน" ทุกวันเสาร์ 19.00-20.00 น.ทีวีดิจิทัล ช่อง NOW26)