ชาวนาบุกโรงสีขายข้าวไรซ์เบอรี่ไม่ได้เงิน

ชาวนาบุกโรงสีขายข้าวไรซ์เบอรี่ไม่ได้เงิน

ชาวนาหนองกุลา จ.พิษณุโลก บุกโรงสีขายข้าวไรซ์เบอรี่ไม่ได้เงิน ขณะที่เกษตรอ.บางระกำ รับเรื่องเตรียมเจรจาหาทางออก

ที่โรงสีท่าข้าววังเป็ดเกษตรยนต์ ตั้งอยู่เลขที่ 160/1 หมู่ 2 ต.บางระกำ อ.เมือง จ.พิษณุโลก นายวินัย ครุฑพาหะ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100 หมู่ 4 ต.หนองกุลา อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ตัวแทนเกษตรกรชาวนาผู้ปลูกข้าวไรซ์เบอรี่ พร้อมด้วยชาวนาบ้านหนองกุลา จำนวน 30 ราย เดินทางมาทวงถามเงินค่าข้าวไรซ์เบอรี่ที่ได้ขายให้กับทางโรงสีแห่งนี้ ตั้งแต่เดือน ส.ค. 2557 ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันเป็นเวลาถึง 6 เดือน แต่ชาวนายังไม่ได้รับเงินแต่อย่างใด

ด้านนางเฉลิม อยู่พ่วง อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/2 ม.18 ต.หนองกุลา อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก หนึ่งในเกษตรกรที่ปลูกข้าวไรซ์เบอรี่ กล่าวว่า เมื่อเดือน มิ.ย.2557 ผ่านมา นายอัมพร พลท้าว นายหน้ารับซื้อข้าวไรซ์เบอรี่ ได้มาชักชวนตนเองพร้อมกับเพื่อนบ้านอีกจำนวนกว่า 30 ราย ให้ร่วมลงทุนปลูกข้าวไรซ์เบอรี่ และตกลงว่าจะเป็นผู้รับซื้อข้าวไรซ์เบอรี่เอง ในราคาสูงถึงเกวียนละ 13,000 บาท จนกระทั่งเก็บเกี่ยวผลผลิตไปเมื่อ ส.ค.2557 ที่ผ่านมา ทางนายอัมพรได้นำข้าวไรซ์เบอรี่มาฝากขายไว้ที่โรงสีท่าข้าววังเป็ดเกษตรยนต์ แต่สุดท้ายทางโรงสีหักค่าความชื้นข้าวเหลือเกวียนละ 11,000 บาท แต่ก็ยังไม่สามารถจ่ายเงินให้กับชาวนาได้ โดยอ้างว่าโรงสีต้องจำหน่ายข้าวไรซ์เบอรี่ที่มีอยู่ในโกดัง 600 ตันให้หมดก่อน จึงจะสามารถจ่ายเงินให้กับชาวนาได้ ทำให้ตนเองและชาวนาที่ปลูกข้าวไรซ์เบอรี่ได้รับความเดือดร้อน เพราะมีภาระต้องใช้จ่ายในครอบครัว ค่าหนี้สิน ค่าปุ๋ย ค่ายา ที่ลงทุนปลูกข้าวไรซ์เบอรี่ไปเป็นจำนวนมาก

ในเวลาต่อมา นายดิเรก ยิ้มห้อย เกษตรอำเภอบางระกำ พร้อมด้วย นายกฤษฏิ์ สิทธิยศ ปลัดอำเภอบางระกำ ได้เดินทางมารับเรื่องพร้อมกับชี้แจงว่า ขณะนี้มีเกษตรกรชาวนาที่ลงทุนปลูกข้าวไรซ์เบอรี่ในพื้นที่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก จำนวนกว่า 100 ราย คิดเป็นพื้นที่จำนวน 2,000 ไร่ โดยมีนายอัมพร พลท้าว อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1044 ม.2 ต.นิคมพัฒนา อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นเอกชนที่มาติดต่อให้ชาวนาปลูกข้าวไรซ์เบอรี่ นำข้าวมาฝากขายไว้กับทางโรงสีทั้งสิ้นจำนวน 600 ตัน และได้ติดต่อหาพ่อค้ามารับซื้อข้าวไรซ์เบอรี่แล้ว จำนวน 200 ตัน แต่ยังเหลือข้าวอีก จำนวน 400 ตัน ที่ยังขายออกไม่ได้ จึงไม่สามารถจ่ายเงินให้กับชาวนาได้ทั้งหมด

ขณะนี้ทางเกษตรอำเภอได้รับเรื่องร้องทุกข์ที่เกิดขึ้นแล้ว อีกทั้งยังต้องรอเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไรซ์เบอรี่อีกบางส่วน ที่ยังไม่ได้นำเอกสารมายื่นกับทางเกษตรอำเภอ ว่าได้ลงทุนปลูกข้าวไรซ์เบอรี่ขายให้กับนายอัมพรไปจำนวนเท่าใด ซึ่งถ้าหากได้เอกสารครบทุกอย่างแล้ว และสามารถหาตลาดมารับซื้อข้าวไรซ์เบอรี่ที่เหลืออยู่อีก จำนวน 400 ตัน ก็จะสามารถดำเนินการจ่ายเงินให้กับชาวนาได้ทันที ทำให้เกษตรกรชาวนาผู้ปลูกข้าวไรซ์เบอรี่คลายข้อสงสัย และพึงพอใจในที่สุด ก่อนแยกย้ายกันเดินทางกลับภูมิลำเนา

ดังนั้น จึงอยากขอเตือนเกษตรกรที่คิดจะลงทุนปลูกข้าวไรซ์เบอรี่ ให้เข้ามาปรึกษากับทางเกษตรอำเภอก่อน เนื่องจากจะได้ดูเอกสารสัญญาที่ทำร่วมกันกับทางเอกชนรายนั้นๆ และควบคุมเรื่องคุณภาพของการปลูกข้าว หรือตลาดที่รับซื้ออย่างแน่นอน ไม่ใช่เห็นแต่ว่ามีการชักชวนให้ปลูกเพราะได้ราคาดี ก็รีบๆ ปลูกข้าวขายกัน จนสุดท้ายข้าวก็มากองรวมกันอยู่ที่โรงสีจำนวนมาก และก็หาผู้รับซื้อไม่ได้ ในที่สุดจึงเกิดเป็นปัญหาต่างๆ ตามมา