ปศุสัตว์ยันโรงผลิตไก่27แห่งปลอดภัย

ติง สธ. ระมัดระวังการให้ข้อมูล แนะปรุงให้สุกก่อนบริโภค ด้านสธ.สงสัย "น้ำเกลือ" ต้นตอเชื้อในเลือดไก่ ขณะที่กรมวิทย์ฯชี้คนงานอาจเป็นพาหะ ส่วนที่โคราช ยอดข้าวมันไก่ตก 25% ร้านค้าติดป้าย "งดขายเลือดตุ๋น"

วานนี้ (15 ม.ค.) กรมปศุสัตว์ และสัตวแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ แถลงข่าว "เลือดไก่อันตรายจริงหรือ" โดยนายสัตวแพทย์ (น.สพ.) อยุทธ์ หรินทรานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า การเก็บตัวอย่างเลือดของโรงงานไก่ 27 แห่ง ใน จ.นครราชสีมา ผลการตรวจสอบพบว่า ไม่มีการปนเปื้อนของเชื้ออหิวาต์เทียม หรือวิบริโอ พาราฮิโมไลติคัส (Vibrio parahaemolyticus) ดังนั้นจึงให้โรงงานเหล่านี้สามารถผลิตและจำหน่ายเลือดไก่ต่อไปได้

ทั้งนี้ กระบวนการผลิตไก่จนถึงการแปรรูปของไทยถือว่า มีมาตรฐานดีที่สุด โอกาสการปนเปื้อนเชื่อดังกล่าวจะมีน้อยมาก จะมีเพียงเชื้อที่ไม่ก่อให้เกิดโรค และเมื่อนำเลือดดังกล่าวออกมาจำหน่าย จะต้องผ่านกระบวนการต้มให้สุกก่อน

เขากล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจจนถึงขณะนี้ที่กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า มีการตรวจพบเชื้ออหิวาต์เทียมในเลือดไก่นั้นอาจมีความเป็นไปได้ที่เลือดไก่จะปนเปื้อนในขั้นตอนอื่น เช่น ระหว่างการนำไปจำหน่ายไม่มีการต้มให้สุกอีกครั้ง

"ปกติเชื้อชนิดนี้จะพบในสินค้าทะเลมากกว่า แต่ความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นในไก่ที่ผ่านกระบวนการเชือดไม่ดีนัก เพราะเชื้อนี้มีอยู่ตามธรรมชาติที่สามารถทำให้ตายได้ด้วยการทำให้สุก ด้วยอุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส ซึ่งการนำเลือดไก่ออกจำหน่ายจะต้องผ่านอุณหภูมิสูงถึง 80 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 5 นาที เพื่อให้ใจกลางของก้อนเลือดมีอุณหภูมิที่ 72 องศาเซลเซียลตามมาตรฐาน HACCP จึงมั่นใจได้ว่า เลือดไก่ทุกโรงงานที่มีสัตวแพทย์ประจำอยู่นั้น จะไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค" นายอยุทธ์ กล่าว

กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ปลอดโรคแน่

น.สพ.อยุทธ์ กล่าวด้วยว่า เพื่อความปลอดภัยในการบริโภคอาหาร ควรยึดหลัก "กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ" เพราะทุกอย่างมีโอกาสที่จะปนเปื้อนได้ทั้งนั้น หากไม่มีการระวัง กรณีข้าวมันไก่มีข้อเสี่ยงหลายอย่างที่น่าตั้งข้อสังเกตว่าจะทำให้เกิดการท้องเสียได้ เช่น น้ำจิ้ม ไม่ควรทิ้งไว้นานหลายวัน หรือน้ำแข็ง น้ำดื่ม เป็นต้น ทั้งนี้กรมปศุสัตว์จะเฝ้าระวังเรื่องนี้ โดยการสุ่มเก็บตัวอย่างมาตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ

รับกระทบโรงผลิตไก่-ไม่กระทบส่งออก

"การที่กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า พบโรคอหิวาต์เทียมในเลือดไก่ครั้งนี้ ถือเป็นเคสแรกในรอบ 4,000 ปีที่มีโลกนี้เกิดขึ้น ซึ่งการให้ข้อมูลต่างๆเหล่านี้ทุกหน่วยควรให้ความระมัดระวัง โดยควรตรวจสอบตามหลักวิชาการให้เป็นที่ยอมรับในสาธารณะ”น.สพ.อยุทธ์ กล่าว

น.สพ.อยุทธ์ กล่าวถึงกระแสข่าวที่เกิดขึ้นว่า ส่งผลกระทบกับภาคเอกชนที่ผลิตไก่พอสมควร โดยเฉพาะ 27 โรงงานที่ไม่สามารถจำหน่ายเลือดไก่ได้ จนกว่าจะมีผลการตรวจสอบแล้วเสร็จ ส่วนการส่งออกคาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบและคงไม่มีผู้นำเข้ารายใดบ้าจี้ตามเรื่องนี้

ย้ำกระบวนการผลิตเลือดไก่ปลอดภัย

ด้าน นายสุเจตน์ ชื่นชม อาจารย์ประจำคณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน กล่าวว่า เลือดไก่นำออกจำหน่ายจะได้จากกระบวนการเชือดให้เลือดไหลผ่านรางสแตนเลสลงในถ้วยเพื่อเติมน้ำเกลือให้เลือดจับตัวเป็นก้อน

หลังจากนั้นจะนำไปต้มในอุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียล แล้วล้างน้ำเปล่าด้วยอุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส ก่อนจะบรรจุเป็นผลิตภัณฑ์ส่งจำหน่าย ทั้งกระบวนการของโรงงานจะต้องผ่านมาตรฐาน HACCP ทำให้มั่นใจได้ว่า เลือดที่ออกสู่การจำหน่ายนั้นมีคุณภาพปลอดภัยกับผู้บริโภคจริงๆ เว้นแต่ว่าผู้ที่ซื้อเลือดไปไม่ทำให้สุกอีกครั้ง

นางพัชนี ทองคำคูณ หัวหน้ากลุ่มแบคทีเรียและเชื้อรา สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ กล่าวว่า จากการติดตามและตรวจสอบกรณีสัตว์ติดเชื้อโรคเพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อโรค โดยการเก็บตัวอย่างส่งมาให้สถาบันฯ ยืนยันว่า ไม่พบเชื้ออหิวาต์เทียมของเลือดไก่ในขณะนี้

เชื่อ"น้ำเกลือ"ต้นตออหิวาต์เทียม

วันเดียวกัน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากการวิเคราะห์เชื้อ เห็นตรงกับกรมปศุสัตว์ว่า เชื้อไม่น่าจะเกิดขึ้นในตัวไก่อย่างแน่นอน แต่เกิดขึ้นหลังขั้นตอนการเชือดที่บริเวณราง กระบวนการขนส่ง ร้านขายเลือดไก่ และร้านขายข้าวมันไก่ เป็นสิ่งที่นักระบาดวิทยาต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ว่า เชื้อเกิดขึ้นได้อย่างไรในทุกเหตุการณ์ เพื่อยืนยันต้นตอการพบเชื้อ แต่หากพบเชื้อดังกล่าวตั้งแต่รางรองเลือดไก่ ทำให้สันนิษฐานว่า น้ำเกลือที่ใช้ในกระบวนการผลิตเป็นสาเหตุ

สืบค้นพิสูจน์หาต้นตอเชื้อระบาด

"การพิสูจน์หาต้นตอของเชื้อที่ทำให้เกิดการระบาด จำเป็นต้องมีหลักฐานให้ชัดเจน เหมือนการสืบสวนสอบสวนคดีต่างๆ ซึ่งกรมควบคุมโรค ทำงานร่วมกับกรมปศุสัตว์ ในการสืบหาสาเหตุที่แน่ชัดอยู่ ทั้งส่วนการขนส่ง การขายส่ง ขายปลีก โดยส่วนการผลิตด้านโรงงานที่พบเชื้ออหิวาต์เทียมขณะนี้ ปิดเพื่อปรับปรุงระบบสุขาภิบาลในการผลิตให้ได้มาตรฐานแล้ว ส่วนโรงงานอื่นก็มีการเข้าตรวจสอบและแจ้งเตือนเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการผลิตด้วย" นพ.โอภาส กล่าว

นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า หลังจากนี้กรมควบคุมโรค ได้ร่วมกับกรมอนามัย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบสุขลักษณะของร้านค้าต่างๆ ตรวจจับโรงงานกรณีผลิตอาหารไม่บริสุทธิ์ ซึ่งผิด พ.ร.บ.อาหารฯ

นอกจากนี้ กรมควบคุมโรคยังส่งหนังสือรายงานความคืบหน้าต่างๆ ไปยังปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อส่งต่อให้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ตรวจสอบในพื้นที่ว่ามีเข้าข่ายผลิตอาหารไม่บริสุทธิ์หรือไม่

ย้ำเมนูเลือดไก่ต้มสุกปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่าอาหารอื่นๆ ที่มีส่วนประกอบของเลือดไก่ไม่ต้องกังวล ทั้ง แกงกะทิ หรือน้ำเงี้ยว เพราะพวกนี้ต้มก็จะสุกอยู่แล้ว ส่วนข้าวมันไก่ยังบริโภคได้ เหลือเพียงเลือดไก่หากจะรับประทานก็ขอทำให้สุกเป็นพอ

ส่วน นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า เชื้อที่ทำให้เกิดโรคท้องร่วงมีหลายตัว โดยเฉพาะในอาหารทะเล ซึ่งมักจะ​สัมพันธ์กับฤดูกาลและเกี่ยวกับการปรุงอาหารว่าสุกหรือไม่

"ที่ผ่านมาในอดีตทุกครั้งที่มีการระบาดจะพบว่า เกิดจากคนที่ทำงานในโรงงานเชือดไก่เป็นพาหะคือ ตัวเองอาจได้รับเชื้อมาด้วยวิธีการต่างๆ หรือการรับประทานสัตว์ทะเล แต่ไม่ป่วย แต่เมื่อมา​​ทำงานแล้วควบคุมเรื่องสุขอนามัยไม่ดีก็จะปล่อยเชื้อเข้าไปนกระบวนการผลิตได้ ดังนั้น ถ้าพบว่าคนที่เป็นพาหะแล้วทำการรักษาคน จึงจะสามารถจัดการกับเชื้ออหิวาต์เทียมได้" นพ.อภิชัย กล่าว

ข้าวมันไก่โคราชยอดตก25%

ที่ จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลกระทบจากการพบผู้ป่วยโรคอหิวาต์เทียม จากการกินเมนูข้าวมันไก่ใส่เลือด โดยระบุแหล่งที่มาจากบริษัทแปรรูปไก่เนื้อในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ทำให้ยอดขายร้านขายข้าวมันไก่ในเขตเทศบาลนคร นครราชสีมา ผู้บริโภคส่วนหนึ่งต่างตื่นตระหนกหยุดรับประทานข้าวมันไก่ชั่วคราว หากจะสั่งเมนูดังกล่าวจะงดใส่เลือดไก่ เช่น ร้านค้าชื่อดังย่านโรงพยาบาลมหาราช จ.นครราชสีมา มีการติดป้าย "ช่วงนี้งดขายเลือดตุ๋น" ขณะที่ยอดขายลดลงเฉลี่ย 25 เปอร์เซ็นต์ แต่โชคดีที่ลูกค้าประจำยังมีความมั่นใจในคุณภาพอาหาร และไม่ตื่นตระหนกตามข่าว ยังมาใช้รับประทานตามปกติ

อหิวาต์เทียมไม่กระทบข้าวมันไก่ปทุมฯ

ส่วนที่ จ.ปทุมธานี กิจการร้านข้าวมันไก่ในพื้นที่ยังคงเป็นไปตามปกติ โดยเจ้าของร้านส่วนใหญ่ซึ่งเปิดกิจการับช่วงต่อมาอย่างยาวนาน มักเน้นเรื่องความสะอาด ถูกสุขลักษณะ ในการเลือกใช้วิธีการปรุงอาหาร ด้วยความร้อนในการต้มไก่เพื่อให้เนื้อไก่สุกทุกส่วน และที่สำคัญบางร้านเลือกที่จะไม่นำเลือดไก่มาเป็นส่วนประกอบในเมนูข้าวมันไก่ในช่วงนี้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า