'ยาประคบ' คู่หูนวดไทย

'ยาประคบ' คู่หูนวดไทย

การประคบสมุนไพรเป็นวัฒนธรรมการรักษาพยาบาลที่อิงอยู่กับชุมชน

การประคบสมุนไพรเป็นวัฒนธรรมการรักษาพยาบาลที่อิงอยู่กับชุมชน ซึ่งอาจเรียกแตกต่างกันไปในแต่พื้นที่ เช่น ยาตั้ง ยาตำ ยาจู้ ยาซอง เป็นต้น ในทางการแพทย์แผนไทยการประคบเป็นวิธีการบำบัดรักษาที่สามารถนำไปใช้ควบคู่กับการนวดไทย โดยมักจะทำการประคบหลังจากทำการนวดเสร็จเรียบร้อย

ประสิทธิภาพของการักษาด้วยการประคบสมุนไพรเกิดจากความร้อน และผลจากการที่ตัวยาสมุนไพรซึมผ่านชั้นผิวหนังเข้าสู่ร่างกาย ความร้อนจากการประคบจะมีผลต่อการรักษา ช่วยลดอาการบวมที่เกิดจากการอักเสบของกล้ามเนื้อ เอ็นและข้อต่อหลังจากผ่านไป 24-48 ชั่วโมง ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ส่วนสมุนไพรที่ใช้ในตำรับยาลูกประคบ ส่วนใหญ่จะมีสรรพคุณในการแก้เคล็ด ขัดยอก ฟกช้ำ ทำให้เส้นเอ็นหย่อน เมื่อผสานกับความร้อนจากลูกประคบแล้ว จึงเป็นการเสริมฤทธิ์ซึ่งกันและกันในการรักษา

ลูกประคบมีทั้งชนิดสด และแห้ง โดยทั่วไปลูกประคบสดจะมีสรรพคุณดีกว่าลูกประคบแห้ง เพราะมีน้ำมันหอมระเหยมากกว่า ลูกประคบส่วนใหญ่จะมัดเป็นก้อนกลมๆ เพื่อประคบเป็นจุดๆ แต่ก็มีการทำลูกประคบเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมเพื่อใช้ประคบกล้ามเนื้อตามแผ่นหลังและบ่าด้วย

การให้ความร้อนแก่สมุนไพรในลูกประคบมีอยู่หลายวิธี เช่น การนึ่งด้วยไอน้ำแล้ว อาจใช้หินเป็นตัวให้ความร้อน โดยใส่หินเผาไฟในลูกประคบแล้วพรมน้ำแทนการนึ่ง หินที่เหมาะสมที่สุด คือ หินเขี้ยวม้า(หินควอตซ์) แต่จะใช้หินอย่างอื่นหรือแม้แต่ก้อนอิฐก็ได้ วัสดุอื่นๆ ที่สามารถใส่ในลูกประคบเพื่อช่วยเก็บความร้อนให้นานขึ้น เช่น ข้าวเหนียว ทราย ข้าวเปลือก

ในการประคบ บางครั้งจะมีการใช้น้ำกระสายยาเข้ามาช่วย เช่น มีการทาน้ำมันบนตัวก่อนการประคบ นิยมใช้กับอาการที่เอ็น หรืออัมพฤกษ์อัมพาต มีการนำลูกประคบไปจุ่มในน้ำข้าวหม่า (น้ำแช่ข้าวเหนียว) ส่วนที่นอนก้น แล้วจึงนำลูกประคบไปนึ่ง หรือนำลูกประคบไปนึงในน้ำต้มข้าวหม่าเลยก็ได้ นอกจากนี้ยังมีการนำลูกประคบไปจุ่มในน้ำส้มก่อนนำไปนึ่ง ซึ่งนิยมใช้กับอาการที่เอ็นตึงหรืออัมพฤกษ์อัมพาต หรือการพรมเหล้าบนลูกประคบก่อนนำไปนึ่ง ซึ่งจะใช้กับคนที่มีอาการปวดบวม

การทำลูกประคบ จะนำสมุนไพรมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ตำให้เข้ากันพอหยาบ ยกเว้นสมุนไพรบางชนิดที่ไม่ต้องตำ เช่น ใบมะขาม การบรู เกลือ ให้นำมาคลุกรวมกับสมุนไพรที่ตำเสร็จแล้วภายหลัง สามารถใช้ได้ทั้งสมุนไพรสดและสมุนไพรแห้ง ลูกประคบที่ทำจากสมุนไพรแห้งทั้งหมดจะเก็บได้นาน แต่ปริมาณน้ำมันหอมละเหยก็จะน้อยลงไปด้วย จากนั้น ให้นำสมุนไพรที่คลุกเข้ากันแล้วมาห่อด้วยผ้า ได้แก่ ผ้าครามหม้อนิล ผ้าม่อฮ่อม ผ้าดำมะเกลือ และผ้าขาว ผ้า 3 ชนิดแรก จะมีคุณสมบัติดีกว่าผ้าขาว เนื่องจากตัวผ้าเองมีฤทธิ์เป็นยาด้วย เมื่อทำลูกประคบเสร็จแล้วควรเก็บไว้ในตู้เย็น ในช่องแช่เย็นธรรมดา โดยสามารถเก็บไว้ได้ 7 วัน แต่ถ้าแช่ช่องแช่แข็งจะเก็บไว้ได้นานเป็นเดือน ส่วนลูกประคบแห้งควรทำจากสมุนไพรที่แห้งสนิท เสร็จแล้วให้เก็บในที่โปร่ง ไม่อับชื้น

วิธีประคบ

1.นำลูกประคบ 2 ลูกไปนึ่ง ถ้าลูกประคบแห้งเกินไป อาจพรมด้วยน้ำหรือเหล้าโรงก่อนนำไปนึ่ง

2.จัดท่าของผู้ถูกประคบให้เหมาะสม เช่น นอนหงาย นอนคว่ำ หรือนอนตะแคง ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่จะทำการประคบ เมื่อลูกประคบอังไอน้ำจนร้อนดีแล้ว ผู้ประคบจับลูกประคบให้เต็มอุ้งมือ ยกขึ้นจากหม้อนึง ลองใช้ลูกประคบแตะบริเวณท้องแขนของตนเอง ถ้าลูกประคบยังร้อนมาก ให้ใช้ฝ่ามืออีกข้างแตะลูกประคบแล้วไปนาบบริเวณที่ต้องการประคบแทน เป็นการถ่ายเท่ความร้อน ผู้ถูกประคบจะไม่รู้สึกร้อนเกินไป ให้ทำหลายๆ ครั้ง จนลูกประคบคลายความร้อนลงบ้างแล้ว จึงเอาลูกประคบลงประคบโดยตรงได้

3.การประคบด้วยลูกประคบโดยตรงในตอนแรก ต้องทำด้วยความรวดเร็ว ไม่ว่างลูกประคบคาไว้บนผิวผู้ป่วย เพราะลูกประคบยังร้อนอยู่ และผู่ป่วยยังทนความร้อนได้ไม่มาก ผู้ประคบเพียงแต่แตะลูกประคบลงบนผิวหนัง แล้วยกขึ้น เลื่อนไปประคบตำแหน่งถัดไปตามแนวกล้ามเนื้อที่ทำการนวดได้

4.เมื่อลูกประคบคลายความร้อนลง ผู้ประคบสามารถวางลูกประคบให้นานขึ้นได้ พร้อมกับกดคลึงจนลูกคลายความร้อนไปแล้ว จึงนำลูกประคบใส่กลับไปในหม้อ แล้วนำอีกลูกที่นึ่งรออยู่ ออกมาทำการประคบซ้ำตามขั้นตอนที่กล่าวมา

5.โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที ต่อการประคบ 1 ครั้ง ถ้ามีอาการเคล็ดขัดยอก อาจประคบได้วันละ 2 ครั้ง

ข้อควรระวัง

1.อย่าใช้ลูกประคบที่ร้อนเกินไป โดยเฉพาะกับบริเวณผิวหนังที่อ่อน บริเวณที่มีกระดูกยื่น หรือบริเวณที่เคยเป็นแผลมาก่อน ควรใช้ผ้าขนหนูรองหรือใช้ลูกประคบอุ่นๆ

2.ต้องระมัดระวังในกรณีที่ผู่ป่วยเป็นเบาหวาน อัมพาต เด็กหรือผู้สูงอายุ ซึ่งมักจะมีความรู้สึกตอบสนองช้า อาจทำให้ผิวหนังไหม้พองได้ง่าย ควรใช้ลูกประคบที่ไม่ร้อนจัด นอกจากนี้ ยังห้ามใช้การประคบสมุนไพรในกรณีที่มีการอักเสบ (ปวด บวม แดง ร้อน) ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก เพราะจะทำให้บวมและเลือดออกมากขึ้นได้

3.หลังการประคบสมุนไพรไม่ควรอาบน้ำทันที เพราะจะไปชะล้างตัวยาออกจากผิวหนัง และร่างกายยังปรับตัวไม่ทัน

ตำรับยาประคบนั้นมีมากมายหลากหลายตำรับ เพราะการตั้งตำยารับถือเป็นศิลปะเฉพาะตัวของพ่อหมอแม่หมอเลยก็ว่าได้ โดยตัวยาหลักๆ ในตำรับยาประคบ ได้แก่ ใบเปล้า ใบหนาด หรือใบพลับพลึง และพืชตระกูลขิง เช่น ไพล ข่า กะทือ เร่ว ขมิ้นชัน ขมิ้นอ้อย เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรที่มีรสร้อน เช่น เปลือกมะรุม สมุนไพรที่มีกลิ่นหอมจำพวกพืชตระกูลส้ม เช่น ส่องฟ้า มะกรูด ส้มโอ สมุนไพรที่มีรสเปรี้ยว เช่น ใบมะขาม ใบส้มป่อย และสมุนไพรที่มีรสฝาด เช่น เปลือกแดง เปลือกประดู่ เป็นต้น ในตำรับยาต่างๆ มักมีเกลือในปริมาณเล็กน้อยอยู่ด้วย แม้บางตำรับจะไม่ได้บันทึกไว้ก็ตาม ซึ่งทางโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรได้บันทึกตำรับยาประคบไว้อย่างน่าสนใจหลายตำรับ ในหนังสือบันทึกของแผ่นดิน 5 สมุนไพร ประคบ อบ อาบ นวด ได้แก่

ยาประคบแก้อาการเคล็ดขัดยอก

ใช้ไพล พลับพลึง ขมิ้นชัน ทั้งหมดเป็นสมุนไพรสด นำไปทำยาประคบเช้า

ยาประคบแก้ปวดเมื่อย

ใช้ไพล 500 กรัม ผิวมะกรูด 200 กรัม ตะไคร้บ้าน 100 กรัม ใบมะขาม 300 กรัม ขมิ้นชัน 100 กรัม เกลือ 1 ซ้อนโต๊ะ การบรู 2 ซ้อนโต๊ะ ใบส้มป่อย 100 กรัม นำไปทำยาประคบเช้าเย็น

ยาประคบเพื่อสุขภาพ

ใช้ไพลแห้ง ผิวมะกรูดแห้ง เปราะหอมแห้ง สมุลแว้ง ตะไคร้ ใบมะขาม อย่าง 100 กรัม การบรู 2 กรัม บดให้ละเอียด ทำเป็นลูกประคบแห้ง การตากแห้งสมุนไพรพืชหอมต้องตากในร่ม เพื่อรักษาน้ำหอมระเหยให้คงอยู่

ยาประคบแก้ปวดเมื่อย เคล็ดขัดยอก วิงเวียน บำรุงผิว

ใช้ไพล ขมิ้นชัน ผิวมะกรูด ใบมะขาม ใบส้มป่อย การบูร ใบเปล้า ใบหนาด ว่านซน และเกลือเล็กน้อย

ยาประคบแก้ปวดหัว

ใช้รากละหุ่งแดง ตะไคร้ต้น สีไคน้อย ตำห่อแพรขาว ประคบไว้บนหัว

ยาประคบแม่หลังคลอด (ทับหม้อเกลือ)

นำหม้อดิน เกลือเม็ด ใบบัวหลวงหรือใบพลับพลึง 3 ใบ โดยเอาเกลือใส่ในหม้อดิน แล้วนำไปตั้งไฟให้ร้อน ใช้บัวหลวง 3 ใบ รองที่ก้นหม้อ นำไปวางที่หน้าท้อง จะช่วยให้มดลูกแห้งเร็ว เข้าอู่เร็ว เหมาะสำหรับคนเพิ่งคลอดลูกใหม่ๆ