รมว.สธ.รุดเยี่ยมอาการ'ป้าสังเวียน'

รมว.สธ.รุดเยี่ยมอาการ'ป้าสังเวียน'

"นพ.รัชตะ" รมว.สธ.เข้าเยี่ยมอาการ "ป้าสังเวียน" พร้อมส่งจิตแพทย์เยียวยาจิตใจญาติ

ที่หออภิบาลผู้ป่วยศัลยกรรม ไอซียู โรงพยาบาลวชิรพยาบาล นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข ได้นำกระเช้าดอกไม้เดินทางเข้าเยี่ยมอาการนางสังเวียน รักษาเพ็ชร์ อายุ 52 ปี ที่ก่อเหตุจุดไฟเผาตัวเอง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ระหว่างที่มายื่นหนังสือร้องทุกข์ที่ศูนย์บริการประชาชนตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล หลังนำโฉนดที่ดินไปค้ำประกัน ซึ่งสุดท้ายมีการเจรจาประนอมหนี้อยู่ที่ 1.5 ล้านบาท ทำให้เจ้าตัวเครียดก่อเหตุดังกล่าว โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก่อนเปิดเผยว่า การเดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจนางสังเวียน หลังทราบเรื่อง ถึงแม้ว่าทาง รพ.วชิรพยาบาลนั้นจะสังกัด กทม. แต่ทางกระทรวงสาธารณสุข ก็ได้ประสานกันเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยอย่างเต็มที่

โดยทางกระทรวงสาธารณสุขนั้น จะส่งแพทย์จากกรมสุขภาพจิต เข้าไปดูแลเรื่องสภาพจิตใจของญาตินางสังเวียน เนื่องจากเหตุการณ์แบบนี้ สร้างความสะเทือนใจให้กับญาติด้วยเช่นกัน โดยได้ส่งแพทย์ไปดูเรื่องสภาพจิดใจของสามีนางสังเวียนที่ จ.ลพบุรี แล้ว นอกจากนี้ก็จะให้แพทย์เข้ามาพูดคุยกับลูกของนางสังเวียน เพิ่มเติมอีกด้วย ส่วนเรื่องที่ว่าผู้ป่วยทราบหรือยังว่า ทางเจ้าหนี้ยกหนี้ให้แล้วนั้น ตอนนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับนางสังเวียน แต่อย่างใด ทั้งนี้ คาดว่าอาจจะทราบจากส่วนอื่นแล้ว

ด้าน นพ.พลเลิศ พันธุ์ธนากุล รองคณบดีฝ่ายบริการ ปฏิบัติหน้าที่ ผอ.โรงพยาบาลวชิรพยาบาล กล่าวว่า อาการของผู้ป่วยเมื่อคืนที่ผ่านมาค่อนข้างคงที่ สัญญาณชีพยังอยู่ในระดับปกติ มีปัญหาแค่ปัสสาวะออกมาน้อย ในวันนี้จึงเพิ่มสารน้ำ และสารสังเคราะห์ตัวหนึ่ง เพื่อให้เลือดไหลเวียนได้ดี และไหลเวียนไปที่ไตมากขึ้น ซึ่งผลปรากฏว่า ปัสสาวะออกมามากขึ้น ทั้งนี้เดิมทีจะให้ผู้ป่วยไปล้างแผลในห้องผ่าตัด แต่เนื่องจากผู้ป่วยยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ ทีมแพทย์จึงตัดสินใจล้างแผลในห้องไอซียูแทน อย่างไรก็ตาม จากเดิมที่ประเมินว่าผู้ป่วยมีแผลไฟไหม้อยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของร่างกายนั้น ความจริงแล้วอยู่ที่ 46.2 เปอร์เซ็นต์ แต่หลังจากที่ได้เข้าไปทำแผลในวันนี้ ก็พบว่าพื้นที่ผิวที่ถูกไฟไหม้นั้นอยู่ที่ 40 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าได้ตัวเลขที่ชัดเจนขึ้น

นพ.พลเลิศ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบบาดแผลไฟไหม้ พบว่า บาดแผลที่หน้าอกนั้น มีความลึกอยู่ในระดับ 3 คือลึกมาก ส่วนด้านหลังนั้น อยู่ในระดับ 2 ถือว่าค่อนข้างน่าเป็นห่วง ทั้งนี้จากการตรวจเลือดเพิ่มเติม พบว่า จำนวนเม็ดเลือดขาวสูงขึ้น อาจจะมีการติดเชื้อซ้ำซ้อน ดังนั้น จึงต้องเฝ้าระวังมากขึ้น ซึ่งทางแพทย์ได้ให้ตัวยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ส่วนเรื่องดวงตานั้น วันนี้ยังมีอาการบวมอยู่ แต่ลดลงบ้างแล้ว จึงยังไม่สามารถเปิดตาผู้ป่วยเพื่อตรวจการมองเห็นได้ ฉะนั้น คงต้องรอให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายให้มากกว่านี้ จึงจะสามารถสอบถามได้ว่า มองเห็นหรือไม่ และทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะดำเนินการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอต่อไป