สืบสานประเพณี'บั้งไฟไม้ไผ่ถักหวาย'

ประชาชน จ.อุตรดิตถ์ พร้อมใจสืบสานประเพณีบั้งไฟไม้ไผ่ถักหวายในวันออกพรรษา
วันนี้ (8 ต.ค.) ซึ่งจะตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 หรือวันออกพรรษา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนจาก 8 หมู่บ้านของตำบลห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมใจนำรถไทยแลนด์ที่ใช้ในภาคการเกษตร ตกแต่งอย่างสวยงามด้วยผลผลิตทางการเกษตรที่ขึ้นชื่อและสร้างรายได้ คือ สับปะรดห้วยมุ่น โดยแต่ละขบวนร่วมแห่ "บั้งไฟไม้ไผ่ถักหวาย" พร้อมข้าวสาร อาหารแห้ง ปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ที่วัดห้วยมุ่นในวันออกพรรษา
โดยประเพณี "บั้งไฟไม้ไผ่ถักหวาย" เป็นบุญใหญ่ที่ชาวตำบลห้วยมุ่นสืบทอดกันมาในวันออกพรรษา โดยบั้งไฟจะทำจากกระบอกไม้ไผ่ ลำไม่ใหญ่มาก อัดดินปืนในกระบอกไม้ไผ่ที่ถักด้วยหวาย เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดมาแต่บรรพบุรุษ จุดวิถีจะไม่ไกล ไม่เป็นอันตราย เชื่อว่าหลังถวายข้าวสาร อาหารแห้ง ปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ที่วัด เพื่อบำเพ็ญกุศลแก่พระสงฆ์ที่ตั้งใจจำพรรษา และตั้งใจปฏิบัติธรรมมาตลอดจนครบพรรษา หรือ 3 เดือน และเพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษผู้ล่วงลับ เพื่อความเป็นสิริมงคล
สำหรับการจุดบั้งไฟในวันออกพรรษาเป็นอีกวิธีหนึ่งที่แสดงความเคารพไปยังเทวดาฟ้าดิน โดยเฉพาะ พญาแถน เทพผู้เป็นใหญ่ดูแลเรื่องความอุดมสมบูรณ์ เพื่อให้ผลผลิตสับปะรดห้วยมุ่นที่ใกล้จะเก็บเกี่ยวได้ผลดี โดยชาวบ้านจะเอาบั้งไฟของแต่ละคุ้มแต่ละหมู่บ้านมาจุดแข่งกัน ถ้าของใครทำมาดีจุดขึ้นได้สูงสุดก็จะชนะแต่ถ้าของใครแตกหรือถือว่าแพ้ ต้องโดนลงโทษโดยการจับโยนลงโคลนหรือตม
นายวันชัย พิมพ์อูป นายกอบต.ห้วยมุ่น กล่าวว่า ประเพณี “บั้งไฟไม้ไผ่ถักหวาย” ยังเป็นการเสี่ยงทายถึงการทำมาหากินของชาวตำบลห้วยมุ่น ปีนี้บั้งไฟที่จุดขึ้นสู่ฟ้าไม่ค่อยสูง เสี่ยงทายว่าจะเกิดภัยแล้งรุนแรง ขาดน้ำในการเกษตร ภายในงานได้ ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านเตรียมพร้อมรับมือ เก็บกักน้ำตามหัวไร่ปลายนา และลดพื้นที่การเพาะปลูกจะได้ไม่เดือดร้อน







