เรียกร้องขอโบราณวัตถุบ้านเชียงกลับคืน

กรมศิลป์เร่งพิสูจน์โบราณวัตถุบ้านเชียง557รายการ ด้านชาวบ้านเรียกร้องขอนำกลับคืน เพราะเป็นมรดกโลกที่ควรรักษา
กรณีที่ถูกสำนักงานอัยการสหรัฐอเมริกา ตรวจพบว่า โบราณวัตถุบ้านเชียงที่อยู่ในครอบครองของพิพิธภัณฑ์ บาวเออร์ส (Bowers) เมืองซานตาอานา รัฐแคลิฟอร์เนีย จำนวน 557 รายการ ถูกลักลอบนำออกจากประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย และตามข้อตกลง กำหนดให้พิพิธภัณฑ์บาวเออร์ส ต้องส่งมอบโบราณวัตถุบ้านเชียงที่อยู่ในความครอบครองคืนให้กับประเทศไทย
ซึ่งจากการติดตามของสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ทราบว่า ทางพิพิธภัณฑ์บาวเออร์ส ได้จัดส่งโบราณวัตถุบ้านเชียงจำนวน 557 รายการ คืนประเทศไทยแล้ว และมาถึงท่าเรือกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ที่ผ่านมา
โดยทางกรมศิลปากรจะการดำเนินงานพิสูจน์ตามขั้นตอน ด้วยการส่งเจ้าหน้าที่ภัณฑารักษ์พิพิธภัณฑ์ กลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ พร้อมด้วยนักกฎหมาย กรมศุลกากร ไปร่วมกันพิสูจน์หลักฐานว่าเป็นโบราณวัตถุบ้านเชียงจริงหรือไม่
หากพิจารณาแล้วว่าเป็นโบราณวัตถุของไทย ก็จะรับมอบอย่างเป็นทางการและจะนำมาเก็บไว้ยังคลังโบราณวัตถุ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กาญจนาภิเษก จ.ปทุมธานี เพื่อทำการอนุรักษ์ และนำมาขึ้นทะเบียนตามลำดับอายุยุคสมัยของโบราณวัตถุแต่ละชนิด และไม่มีการระบุว่าจะนำโบราณวัตถุบ้านเชียงกลับมายังบ้านเชียง
ที่ สนง.เทศบลตำบลบ้านเชียง อ.บ้านเชียง อ.หนองหาน วันที่ 3 กันยายน นายอดิศักดิ์ เหมือนสีเลา รองนายกเทศมนตรีตำบลบ้านเชียง เปิดเผยว่า ความจริงแล้วบ้านเชียงเป็นแหล่งอารยธรรมและเป็นมรดกโลก เป็นยุคของมนุษย์ที่ออกจากถ้ำมาอยู่พื้นราบ มีอายุได้ประมาณ 5-6 พันปี โบราณวัตถุที่เขาพบ เก็บมาศึกษา อยู่ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติบ้านเชียงทั้งหมด มีการนำออกไปแสดงให้ทั่วโลกได้เห็น เมื่อนำไปแสดงก็นำกลับมาเก็บไว้ที่เดิม ให้ทางพิพิธภัฯฑ์ฯเก็บรักษา ตนในฐานะคนบ้านเชียง ขอพูดจากใจจริงว่า ของๆ เราที่ไปอยู่อเมริกานั้น เมื่อกลับมาแล้ว ก็ต้องกลับมาอยู่ที่บ้านเมืองของเรา เพราะว่าของเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราอนุรักษ์เราหวงแหน
“สิ่งที่แสดงออกถึงอารยธรรม 5 พันปี คงไม่มีใครที่จะไม่หวงแหน มันเป็นหัวใจของบ้านเชียง เป็นมรดกโลก เรารักษาวัฒนธรรมของบ้านเชียง ที่เป็นต้นกำเนิดของวัฒนธรรมไทพวน ที่พวกเราย้ายถิ่นมาจากเชียงขวางถึง 200 ปี ซึ่งเราก็ไม่รู้หรอกว่า ที่ใต้ดินที่เราอพยพมาอยู่บนแผ่นดิน มันเป็นแหล่งมรดกโลกที่มาค้นพบทีหลัง เราต้องรักษาทั้งมรดกโลก และวัฒนธรรม นี่เป็นหัวใจของคนบ้านเชียง ที่ต้องการดำรงรักษาหวงแหนไว้ตลอด” นายอดิศักดิ์กล่าว
นายอดิศักดิ์ กล่าวอีกว่า ถ้านำเรื่องนี้ไปถามคนบ้านเชียง ทุกคนต้องตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูกนำไป ต้องนำกลับคืนมา ซึ่งตนขอเรียกร้องเลยว่า ของโบราณวัตถุทั้งหมด ต้องกลับมาหาพวกเรา ห้ามไปที่อื่นเลย หากทางกรมศิลฃปากรไม่นำกลับมาให้พวกเรา เราก็จะติดตามกลับคืนมาให้ได้ เพราะเป็นของๆเรา ที่เราจะต้องรักษา ของเหล่านี้ที่อายุ 5-6 พันปี ไม่มีอีกแล้ว ส่วนการจะคุยกับทางพิพิธภัณฑ์บ้านเชียง ยังไม่ได้พูดคุยกัน เพราะเรายังไม่มีรายละเอียด แต่ถ้าเป็นตามข่าว เราสันนิษฐานได้เลยว่า เราต้องการของของเรากลับคืนมา
ด้าน นางอังคณา บุญพงษ์ อดีตครู ชาวบ้านบ้านเชียง เปิดผยว่า ความรู้สึกส่วนตัว ในฐานะที่ตนเป็นคนบ้านเชียง อยากให้โบราณวัตถุทั้งหมดที่ได้รับคืน นำมาเก็บไว้ที่บ้านเชียง หากคลังของพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติบ้านเชียง มีสถานที่เก็บเพียงพอ แต่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กาญจนาภิเษก จ.ปทุมธานี ก็เป็นแหล่งที่เป็นคลังใหญ่ที่เก็บโบราณวัตถุของกรมศิลปากร ซึ่งได้นำเอามาจัดแสดงในยุคต่างๆ ซึ่งหากนำมาเก็บไว้ที่นี่ทางพิพิธภัณฑ์ฯบ้านเชียง มีการรักษาความปลอดภัย มีเวรยามเฝ้าดู กล้องวงจรปิดครบ รวมถึงความปลอดภัยคนบ้านเชียงส่วนมากก็เห็นกันอยู่ ช่วยกันดูแลอยู่แล้ว ไม่มีปัญหา แต่ในส่วนการรักษาก็ต้องอยู่ที่กรมศิลปากร ที่มีหน้าที่รักษาดูแลทรัพย์สมบัติของชาติ เป็นส่วนหนึ่งที่จะต้องดูแลรักษาเป็นอย่างดี
“ความรู้สึกของเราที่เห็นเป็นแหล่งโบราณคดีอยู่ที่นี่ เมื่อได้ของวัตถุโบราณจากที่นี่ไป ก็อยากให้สิ่งของเหล่านี้กลับมาอยู่ในพื้นที่เดิม ใจจริงแล้วเราก็อยากให้กลับอยู่ที่บ้านเชียง ที่พูดในฐานะคนบ้านเชียง ที่อยากให้กลับมา เพราะว่ามีพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติจัดแสดงเรื่องวัตถุโบราณเหล่านี้ ยังไงสิ่งของเหล่านี้ได้เดินทางไปอยู่ที่ต่างประเทศตั้งหลายปีด้วยฝีมือของพ่อค้า และนายทุน ที่ชอบสะสมของเก่า นำไปขายที่ต่างประเทศ ในเมื่อได้สิ่งของวัตถุโบราณกลับมา ก็อยากให้กลับมาอยู่ที่บ้านเชียง” นางอังคณา กล่าว
ส่วน นางนิภากรณ์ กลางพรหม แม่ค้าขายของที่ระลึก เปิดเผยว่า หลังจากตนทราบข่าวจะได้โบราณวัตถุยบ้านเชียงคืน ตนที่เป้นคนบ้านเชียงก็ได้อยากกลับคืนมาที่บ้านเชียงของเรา เพราะว่าสิ่งของเหล่านี้เป็นมรดกโลกของทุกคน และของทั้งประเทศ ที่เป็นของบ้านเชียงก็ควรที่จะกลับมาอยู่ที่เดิม หากได้โบราณวัตถุกลับมาอยู่ที่บ้านเชียงแล้ว ตนคิดว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก เมื่อมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวมาก ร้านค้าต่าง ๆ ก็จะได้ขายของมีรายได้
“อาคารที่เก็บของพิพิธภัณฑ์บ้านเชียง มีห้องจัดแสดงถึง 10 ห้อง ถ้าเอาโบราณวัตถุของบ้านเชียงที่ได้คืนมา นำมาไว้ที่นี่ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าเขาไม่คืนกลับมาให้ คงไม่น่ามีปัญหา ถ้าเขาอยากจะเอาไว้จัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ฯกาญจนาภิเษก ก็ควรแบ่งไว้จำนวนหนึ่ง ส่วนที่เหลือก็เอากลับมาไว้ที่บ้านเชียง วัตถุโบราณของบ้านเราก็เอากลับบ้านเรา ซึ่งฉันในฐานะคนบ้านเชียงภูมิใจอยากจะให้เอามาไว้ที่นี่ หลังจากที่โบราณวัตถุนี้ได้กระจัดกระจายไป ก็จะได้กลับเอามาไว้ที่เดิม” นางนิภากรณ์กล่าว







