นศ.ราชมงคลอีสานเร่งต่อเรือให้นร.บ้านกุดหิน

นศ.ราชมงคลอีสานเร่งต่อเรือให้นร.บ้านกุดหิน

อาจารย์ นักศึกษา ม.เทคโนฯราชมงคลอีสาน ช่วยกันต่อเรือลำใหม่ให้กับเด็กนร.บ้านกุดหิน เดินทางไปเรียนที่ร.ร.ท่าลาด

หลังจากกระแสข่าวความเดือดร้อนของนักเรียน บ้านกุดหิน ต.หว้าทอง อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น จำนวน 38 คน ที่ต้องนั่งเรือเก่าลำเดียวไปกลับเพื่อไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนบ้านท่าลาด อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู ทำให้ผู้ปกครอง ครูอาจารย์ โดยเฉพาะ นางวลักขณา สาระกิจจานนท์ ผอ.โรงเรียนบ้านท่าลาด เกิดความวิตกกังวลเกรงว่าจะเกิดอันตราย จนมีผู้ให้ความสนใจเข้าไปช่วยเหลือ บริจาคเงินสมทบเป็นกองทุนในการต่อเรือ รวมทั้งอาจารย์จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ซึ่งได้เสนอขอเป็นผู้ต่อเรือให้

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 2 กันยายน 57 ที่อาคารช่างท่อและประสานของสาขาวิชาวิศวกรรมท่ออุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล นายประสาท ภูปรื้ม หัวหน้าสาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหกรรม คณะวิศวกรรมศาสตร์ และนายประณต แก้วทอง สาขาวิชาวิศวกรรมท่ออุตสาหกรรม คณะคุรุศาสตร์อุตสาหกรรม พร้อมด้วยนักศึกษาปี 4 สาขาวิศวกรรมท่ออุตสาหกรรม ได้ช่วยกันต่อเรือ เพื่อจะนำไปมอบให้นักเรียนโรงเรียนบ้านลาด

นายประสาท เปิดเผยว่า หลังจากได้ทราบข่าวความเดือดร้อนของเด็กนักเรียนชาวบ้านกุดหิน ที่ต้องเดินทางไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนบ้านท่าลาด จึงได้ติดต่อไปที่ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่าลาด เสนอให้ความช่วยเหลือต่อเรือลำใหม่ให้ โดยมีอาจารย์หลายคน รวมทั้งนักศึกษาปี 4 มาร่วมมือกันทำ

สำหรับเรือที่ทำให้นักเรียน เป็นเรือที่ทางมหาวิทยาลัยมีอยู่แล้ว มีขนาดความยาว 3.6 เมตร กว้าง 1.5 เมตร สูง 0.5 เมตร ความจุด 2.7 ตัน จำนวน 2 ลำ เคยนำไปช่วยเหลืออุทกภัยเมื่อปี 2554 จำนวน 2 ลำ นำมาต่อให้เป็นลำเดียว โดยนำเอาแผ่นเหล็กขึ้นรูปหนา 2.5 มิลลิเมตร ยาว 1.5 เมตรมาเชื่อมต่อตรงกลาง ทำให้เรือมีความยาวเพิ่มขึ้นอีกเกือบ 9 เมตร จากความจุเดิมได้ 2.7 ตัน จะสามารถจุเพิ่มได้เป็น 6 ตัน ทำให้สามารถรองรับผู้โดยสารหรือเด็กนักเรียนได้ 40-42 คน นอกจากนี้ยังได้ต่อโครงใส่ผ้าใบหลังคา เพื่อให้เด็กนักเรียนได้บังแดดบังฝน ตามที่เด็กนักเรียนอยากได้ด้วย

ด้านนายประณต แก้วทอง หัวหน้าสาขาวิศวกรรมท่ออุตสาหกรรม เปิดเผยว่า หลังรู้ว่าจะได้ให้ความช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านท่าลาด ก็วางแผนขึ้นโครงรูปเรือ พร้อมกับสั่งซื้อวัสดุอุปกรณ์ที่จะต้องนำมาใช้ทั้งแผ่นเหล็ก ท่อพีวีซี อุปกรณ์รัดทุ่น รวมทั้งสั่งซื้อเครื่องยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ขนาด 1,300 แรงม้า และหางเสือที่จะต้องมาใช้อีกด้วย ซึ่งจะใช้เวลาในการต่อเรือเสร็จสมบูรณ์ทุกอย่างประมาณ 3 วัน

ทั้งนี้การต่อเรือที่จะนำไปให้เด็กนักเรียนได้นั่งโดยสาร คำนึงถึงความปลอดภัยที่สุด นอกจากจะใช้วัสดุเหล็กขนาด 2.5 มิลลิเมตร แล้ว ยังเสริมทุ่นด้วยท่อพีวีซีขนาด 12 นิ้ว ขนาดความยาว 8 เมตร ดัดแปลงท่อปิดหัวท้าย ที่กาบเรือทั้งสองข้าง อีกส่วนหนึ่งหาวัสดุเช่นแกลลอนน้ำมันมาทำเสริมทุ่นลอยตรงกลาง ในส่วนที่เชื่อมต่อเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความปลอดภัยให้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย

สำหรับงบประมาณทั้งหมดที่ใช้สำหรับการต่อเรือ เนื่องจากเดิมมีตัวเรืออยู่แล้ว ค่าใช้จ่ายในปัจจุบันจึงมีแค่ค่าแผ่นเหล็ก เครื่องเรือ ท่อพีวีซีทำทุ่น อุปกรณ์รัดทุ่น ประมาณ 40,000 บาท ซึ่งเป็นเงินจากการกองทุนรวมน้ำใจ ที่โรงเรียนบ้านท่าลาดได้รับการสนับสนุนจากผู้มีจิตกุศลให้มา แต่ถ้ารวมทั้งตัวถังเรือที่มีอยู่แล้ว จะใช้งบประมาณทั้งสิ้นไม่เกิน 80,000 บาท ส่วนหลังคาซึ่งได้ทำเสร็จแล้วนั้นได้รับการสนับสนุนจากศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยคณะวิศวกรรมศาสตร์

หัวหน้าสาขาวิศวกรรมท่ออุตสาหกรรม กล่าวว่า การต่อเรือครั้งนี้ต้องการทำให้ดีที่สุด ให้เด็กนักเรียนได้นั่งเรือที่สบายและปลอดภัย ลดความวิตกกังวลของทั้งผู้ปกครอง และครูอาจารย์ แต่เพื่อความปลอดภัยและความสบายใจของทุกฝ่าย ก่อนจะส่งมอบเรือ จะต้องได้รับการรับรองและออกใบอนุญาตจากกรมเจ้าท่าเสียก่อน ซึ่งคาดว่าการต่อเรือจะแล้วเสร็จภายในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ ส่วนการตรวจของกรมเจ้าท่าจะตรวจในวันเสาร์ และน่าจะสามารถส่งเรือให้กับโรงเรียนบ้านท่าลาดได้ภายในสัปดาห์หน้า