รวบ18มงกุฎอ้างเป็นลูกสุลต่านตุ๋นเหยื่อหมด15ล้าน

รวบ18มงกุฎอ้างเป็นลูกสุลต่านตุ๋นเหยื่อหมด15ล้าน

"กองปราบฯ" รวบแก๊ง18มงกุฎ อ้างเป็นลูกสุลต่าน บูรไน ตุ๋นเหยื่อหมดเงิน15ล้าน ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 28 ส.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) พ.ต.อ.วัชรพล ทองล้วน ผกก.5 บก.ป. ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ บก.ป. พ.ต.ท.พรศักดิ์ พิทยรัตน์ รอง ผกก.5 บก.ป. เข้าควบคุมตัว นายเดชา สุรินทร์ฤทธิ์ อายุ 52 ปี นางอมราพร สุรินทร์ฤทธิ์ อายุ 54 ปี สองสามีภรรยา น.ส.สโรชา หรือสรัญรัชต์ เสถียรพักตร์ อายุ 21 ปี ลูกติดของนายเดชา และนางพรรณระวี ทาระปัญญา อายุ 50 ปี รวม 4 คน มาสอบสวนดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง และพยายามฉ้อโกง

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อปี 2556 นางเอ (นามสมมติ) และกลุ่มผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป.ว่าถูกนายเดชา กับพวกหลอกลวงว่า นางอมราพร เป็นลูกสาวสุลต่านประเทศบรูไน ก่อนจะอ้างว่านางอมราพร มีเงินสดและทรัพย์สินมีค่าต่างๆ มากมาย รวมมูลค่านับแสนล้านบาท แต่ถูกศาลอายัดทรัพย์สินทั้งหมดไว้ตรวจสอบ หากทางผู้เสียหายนำเงินมาช่วยเหลือจำนวน 1 ล้านบาท เพื่อไถ่ถอนเงินออกมาได้ จะให้ส่วนแบ่งจากทรัพย์สินดังกล่าวเป็นการตอบแทน 100 ล้านบาท เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปให้ กลับไม่ได้รับเงินตอบแทนตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด

นอกจากนี้ มีผู้เสียหายบางรายได้ยืมเงินจากผู้ที่รู้จักมาโอนให้กับกลุ่มของนายเดชา เพิ่มเติมอีก จึงส่งผลให้มีมูลค่าความเสียหายเกิดขึ้นกว่า 15 ล้านบาท ต่อมาทางผู้เสียหายที่หลวมตัวถลำลึกสูญเงินไปเป็นจำนวนมากและเชื่อว่าถูกหลอกลวงแล้ว จึงรวมตัวกัน 8 ราย เข้าแจ้งความดำเนินคดี กระทั่งทางชุดสืบสวน กก.5 บก.ป.ได้ซ้อนแผนให้ผู้เสียหายอ้างว่าจะโอนเงินให้อีก 400,000 บาท เมื่อดำเนินการแล้วจึงเข้าจับกุมตัวนางพรรณระวี ได้ที่ห้างสรรพสินค้าเทสโกโลตัส สาขาลาดพร้าว ส่วนที่เหลือได้ติดต่อเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อต่อสู้คดี

จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ โดยขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่า บัญชีธนาคารที่ถูกใช้ในการโอนเงินเป็นของนายเดชา น.ส.สโรชา และ นางพรรณระวี ซึ่งขณะนี้ได้อายัดบัญชีไว้ตรวจสอบแล้ว แต่พบว่ายอดเงินมีเหลือไว้เพียงหลักร้อยเท่านั้น คาดว่าน่าจะมีการถอนเงินออกไปนับตั้งแต่เหยื่อได้โอนเงินเข้ามา

ทั้งนี้ ในส่วนเส้นทางของเงินที่ได้จากการกระทำผิดนั้น ทางเจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนขยายผลเพื่อติดตามกลับคืนมาให้ผู้เสียหายต่อไป