รวบอดีตเจ้าชายเนปาลครอบครองกัญชารอบ2

รวบอดีตเจ้าชายเนปาล ครอบครองกัญชารอบ 2 กลางโรงแรมดังย่านทองหล่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 01.00น. ของวันที่ 10 ก.ค. ขณะที่ ร.ต.อ.สมดี ชาลีละหาน รอง สวป.สน.ทองหล่อ กำลังปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ รับแจ้งเหตุมีชายชาวต่างชาติส่งเสียงก่อความรำคาญภายในโรงแรม เดอะ เดวิส กรุงเทพ ซอยสุขุมวิท 24 แขวงและเขตคลองเตย กทม. ที่เกิดเหตุเปิดเป็นโรงแรมหรูให้พักรายวันใจกลางเมือง ด้านในพบ น.ส.เอ (นามสมมติ) ยืนอยู่ด้วยความตื่นตระหนก พร้อมให้การว่า ก่อนหน้านี้ตนและนายแฟนหนุ่มพักอยู่บนห้อง 718 ชั้น 7 ของโรงแรมดังกล่าว แล้วมีปากเสียงกัน ก่อนลงไม้ลงมือ น.ส.เอ จึงรีบหนีลงมาที่ล็อบบี้ของโรงแรม เพื่อให้ รปภ.ช่วย
เนื่องจากลืมของสำคัญไว้ที่ห้อง แต่ทางรปภ. ไม่กล้าที่จะขึ้นไป จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ จากนั้นตำรวจจึงขึ้นไปตรวจสอบบนห้องพักพบนาย นายปาราส เบอ บิคแรม ซาร์ อายุ43 ปี ชาวเนปาล หรืออดีตมกุฎราชกุมารปาราส แห่งประเทศเนปาล อยู่ในอาการมึนเมา จากการตรวจสอบพบถุงพลาสติก ภายในบรรจุกัญชา จำนวน 2 ห่อ รวมน้ำหนักประมาณ 13 กรัม และอุปกรณ์การเสพ จึงรวบรวมหลักฐานก่อนนำตัวสอบสวนที่ สน.ทองหล่อ
จากการสอบสวน นายปาราส ให้การด้วยอาการมึนเมากัญชา วกไปวนมา จับใจความได้เพียงว่าไม่มีงานทำ เป็นศิลปิน มีอะไรให้โทรสอบถามญาติตน โดยหมายโทรศัพท์ที่นายปาราสให้ไม่สามารถติดต่อได้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ?มียาเสพติดให้โทษเสพติดประเภท 5 (กัญาชา) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย? ก่อนนำตัวส่ง ร.ต.ท.ศิริพงษ์ กิตติภิวัฒน์ พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ก่อนนำตัวส่งศาลอาญากรุงเทพใต้ ฝากขังในวันรุ่งขึ้น ดำเนินตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป ทั้งนี้การจับกุมครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ที่อดีตมกุฎราชกุมารถูกจับกุมในประเทศไทยในข้อหาเดียวกันเมื่อปี2555
ขณะที่ พ.ต.อ.ชูตระกูล ยศมาดี ผกก.สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่า นายปาราส เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยโดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยว ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อเดือนตุลาคม ปี2554 นายปาราส เคยถูกจับกุมที่ จ.ภูเก็ต ฐานครอบครองกัญชาน้ำหนักราว 3 กรัม มาแล้วหนึ่งครั้งก่อนจะมาถูกจับกุมอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า สำหรับประวัตินายปาราส ชาร์ เป็นอดีตมกุฎราชกุมารผู้ไม่ได้รับความนิยมชมชอบจากชาวเนปาล เนื่องจากทรงใช้ชีวิตแบบหนุ่มเจ้าสำราญ เมื่อปี 2001 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นองค์รัชทายาทครองบัลลังก์เนปาลใน ปี 2001 หลังจากพระเชษฐา อดีตมกุฎราชกุมารทิเพนทรา เกิดเมายาคลุ้มคลั่งสังหารหมู่สมาชิกในราชวงศ์ถึง 9 พระองค์ ซึ่งรวมถึงพระราชชนก และพระราชชนนีของพระองค์เอง ก่อนทรงพยายามกระทำอัตวินิบาตกรรม ซึ่งเคยถูกจับกุมในความผิดฐานทำลายทรัพย์สินของอพาร์ตเมนต์หรู ในกรุงเทพมหานคร
โดยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2013 ที่ผ่านมา นายปาราส เคยเข้ารักษาในห้องไอซียู ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในประเทศไทย ภายหลังมีอาการหัวใจวาย ทั้งนี้เนปาลได้เปลี่ยนแปลงการปกครอง และล้มล้างราชวงศ์ เมื่อปี 2008




