ผู้ต้องหาฆ่าโหด'น้องเพลง'ยังปากแข็งปฏิเสธ

ผู้ต้องหาฆ่าโหด'น้องเพลง'ยังปากแข็งปฏิเสธ

ผู้การฯตรังชี้พยานหลักฐานมัดตัวแน่นหนาฆาตกรฆ่าโหด'น้องเพลง'ระบุโทษถึงประหารแม้เจ้าตัวปากแข็ง

พล.ต.ต.จีรวัฒน์ อุดมสุด ผบก.ภ.จว.ตรัง กล่าวถึงคดีที่ น้องเพลง เด็กหญิงวัย 11 ปี นักเรียนชั้น ป.6 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ตรัง ถูกลวงไปฆ่าอย่างโหดเหี้ยม เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 9 พฤษภาคม 2557 ก่อนที่คนร้ายจะนำร่างอันไร้วิญญาณไปยัดท่อระบายน้ำ ทางเข้าวัดพระงาม ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองตรัง เพื่ออำพรางคดี จนกระทั่งมีผู้ไปพบศพเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 12 พฤษภาคม 2557

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม นายประถมพงษ์ หมื่นบาน หรือ แต๋ม อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 ถ.ควนขัน ต.ทับเที่ยง เขตเทศบาลนครตรัง พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรที่ฆ่า น้องเพลง ซึ่งนับเป็นคดีที่โด่งดังอย่างมากในช่วงที่ผ่านมานั้น

ล่าสุด พล.ต.ต.จีรวัฒน์ ระบุว่า ขณะนี้ นายประถมพงษ์ หรือ แต๋ม ยังคงถูกฝากขังอยู่ที่เรือนจำ จ.ตรัง และทางพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัวมาโดยตลอด ซึ่งคาดว่าก่อนเดือน ก.ค.นี้ จะสามารถรวบรวมหลักฐาน โดยเฉพาะผลการตรวจสอบสภาพร่างกาย ทั้งของเหยื่อและผู้ต้องหา ตลอดจนหลักฐานอื่นๆ ในสถานที่เกิดเหตุ ให้แน่นหนามากที่สุด เพื่อนำส่งฟ้องต่อสำนักงานอัยการ จ.ตรังซึ่งจนถึงขณะนี้ นายประถมพงษ์ หรือ แต๋ม ก็ยังคงให้การปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่ทางพนักงานสอบสวนมั่นใจว่า ผู้ต้องหาจะไม่สามารถดิ้นหลุดได้แน่ เพราะมีพยานแวดล้อมซึ่งเป็นคนใกล้ชิดมัดตัวว่าน้องเพลงได้อยู่กับผู้ต้องหาก่อนจะเสียชีวิตจริงๆ

"วันเกิดเหตุ น้องเพลง ไปเอาแผ่น ซีดี.ที่บ้านของผู้ต้องหา ก่อนจะถูกทำร้ายอย่างทารุณ แล้วนำศพไปทิ้งในคูระบายน้ำ ซึ่งขณะนั้น หลังของผู้ต้องหาได้ครูดกับปากท่อ แต่เมื่อนำผิวหนังไปตรวจ กลับไม่พบดีเอ็นเอ เพราะกว่าจะพบศพ น้องเพลง ก็เป็นวลาถึง 3 วันแล้ว ประกอบกับมีฝนตกหนัก ทำให้ชะล้างหลักฐานบางอย่างไป แต่ก็โชคดีที่พบกางเกงขาสามส่วนตัวหนึ่งตกอยู่ในที่เกิดเหตุ แม้จะไม่รู้ว่าเป็นของใคร แต่เมื่อนำไปตรวจแล้วพบดีเอ็นเอของผู้ต้องหา รวมทั้งพบคราบเลือดบางส่วนในบ้านของผู้ต้องหา แม้จะเจือจางเพราะถูกทำลายหลักฐาน แต่ก็ตรวจพบดีเอ็นเอของ น้องเพลง ทั้งหมดนี้จึงนำไปสู่การออกหมายจับ นายประถมพงษ์ หรือ แต๋ม ในที่สุด"

ผบก.ภ.จว.ตรัง กล่าวว่า คดีนี้ผู้ต้องหาได้ถูกแจ้งข้อหาว่า ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร และซ่อนเร้น ย้าย ทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตาย ซึ่งแม้จะมีโทษรุนแรงถึงขั้นประหารชีวีต เพราะกระทำต่อ น้องเพลง ด้วยความโหดร้ายมาก แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินของศาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจทำได้แค่การรวบรวมพยานหลักฐานเท่านั้น โดยหนทางแก้ปัญหานี้ก็คือ การพิจารณาคดีให้รวดเร็วขึ้น และล้างบางยาเสพติด เพราะมีการตรวจพบว่า นายประถมพงษ์ หรือ แต๋ม มีการเสพยาบ้า จนเป็นที่มาของการก่อเหตุดังกล่าว