อัคคีทวาร สำหรับริดสีดวงทวารหนัก

อัคคีทวาร สำหรับริดสีดวงทวารหนัก

เกือบสิบปีก่อน มีโฆษณายาบรรเทาอาการริดสีดวงทวารหนักยี่ห้อหนึ่ง ฉายทางทีวี พร้อมประโยคเด็ด 'ก็ลมมันเย็น ...'

ประโยคเด็ดที่หลายคนยังจดจำได้นี้ สะท้อนข้อเท็จจริงของโรคริดสีดวงทวารหนัก สองประการ ได้แก่ เป็นแล้วเจ็บจนไม่อยากนั่ง และ เป็นเรื่องน่าอายจนไม่กล้าพูดแบบตรงไปตรงมา

โรคริดสีดวงทวารหนัก เกิดจากการโป่งพองของหลอดเลือดดำที่ปลายลำไส้ใหญ่ อันเนื่องมาจากการถ่ายอุจจาระที่ต้องเบ่งเป็นเวลานาน ผู้ที่ท้องผูก หรือท้องเสียบ่อยๆ และหญิงมีครรภ์ในช่วง 6 เดือนก่อนคลอด มีโอกาสเป็นโรคนี้ได้มากกว่าคนปกติ ตำแหน่งที่เกิดหลอดเลือดโป่งพอง เป็นได้ทั้งภายในและภายนอกทวารหนัก หรือเกิดพร้อมกันทั้งสองที่ก็มี

อาการที่บ่งชี้ว่าริดสีดวงทวารหนักมาเยือนแล้ว คือ มีเลือดออกขณะเบ่งถ่ายอุจจาระ หรือหลังถ่ายอุจจาระ และรู้สึกเจ็บเมื่อใช้กระดาษชำระทวารหนัก บางรายมีก้อนเนื้อปลิ้นจากภายในขณะเบ่งถ่าย และยุบกลับเข้าไปเมื่อหยุดเบ่ง เมื่อเป็นมากต้องดันจึงจะกลับเข้าไป บางรายก้อนริดสีดวงนี้ ก็ย้อยอยู่ภายนอกตลอดเวลา

ผู้ที่มีหยดเลือดออกจากทวารหนัก หรือปะปนกับอุจจาระ ควรไปพบแพทย์ เพื่อวินิจฉัยให้แน่ชัดว่า ใช่ริดสีดวงทวารหนักหรือไม่ ชนิดและความรุนแรงเป็นอย่างไร อย่าได้นิ่งนอนใจไป เพราะโรคอื่นที่ร้ายแรงกว่า เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่ หรือมะเร็งทวารหนัก ก็มีเลือดออกเช่นนี้

เมื่อรู้แน่ชัดว่าเป็นริดสีดวงทวาร เบื้องต้น ต้องดูแลตนเองอย่าให้ท้องผูก กินผัก ผลไม้ที่มีกากใยมากๆ ดื่มน้ำให้มากกว่าปกติสักหน่อย ถ้าจำเป็น อาจใช้ยาระบายอย่างอ่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ออกแรงเบ่งอุจจาระ หรือถ้าเจ็บ ก็ใช้ยาเหน็บหรือทาทวารหนักบรรเทาอาการ เฉพาะรายที่มีอาการรุนแรงเท่านั้นที่ต้องผ่าตัด ซึ่งได้ผลดี ปลอดภัย และหายขาดได้

ภูมิปัญญาการแพทย์พื้นบ้านของไทย ระบุยารักษาโรคริดสีดวงทวารหนักไว้หลายตำรับ ทั้งกินทั้งทา ที่ใช้สมุนไพรเดี่ยวก็มีเช่น เพชรสังฆาต บอระเพ็ด และว่านหางจรเข้ อาจารย์ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเล่าว่า กินขมิ้นขาวเป็นประจำก็ช่วยบรรเทาอาการได้ดี แต่ที่จะพูดถึงวันนี้ คือ พืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณและชื่อสอดคล้องกันว่า อัคคีทวาร

อัคคีทวารเป็นไม้พุ่ม ต้นโตเต็มที่สูงไม่เกิน 2 ช่วงตัวคน ลำต้นและกิ่งก้านเป็นเหลี่ยม ใบเดี่ยวรูปรี ออกตามข้อ ข้อละ 2-4 ใบ ขนาดใกล้เคียงกับใบชมพู่ ขอบใบหยักแบบฟันเลื่อย ดอกเป็นช่อออกที่ปลายกิ่ง ช่อดอกยาวได้ถึง 1 ศอก ดอกย่อยมีขนาดปลายนิ้วหัวแม่มือ มี 5 กลีบ เห็นเป็นกลีบสีขาวข้างละ2 กลีบ และกลีบสีครามอยู่ตรงกลางอีก 1 กลีบ กลางดอกมีกลุ่มก้านละอองเกสร ที่ยื่นยาวออกมา โดยรวมแล้วดูคล้ายผีเสื้อตัวน้อย ซึ่งจะกลายเป็นผลค่อนข้างกลม ผิวเรียบเป็นมัน ภายในมีเมล็ดเดี่ยว กลมรี สีดำ

อัคคีทวาร ขยายพันธุ์ได้ง่ายโดยการเพาะเมล็ดหรือตัดกิ่งปักชำ ไม้ดอกสวยนี้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับปลูกเป็นไม้ประดับตามบ้านเรือน ด้วยไม่ต้องการการดูแลเอาใจใส่มาก และแทบไม่มีศัตรูพืชตามธรรมชาติ เพียงปลูกในที่แจ้ง รดน้ำสม่ำเสมอ ตัดยอดออกบ้างเพื่อไม่ให้สูงเกินไป ก็สามารถเชยชมดอกผีเสื้อสีครามแสนสวยได้เกือบตลอดปี โดยฉพาะอย่างยิ่งในฤดูฝน ช่อดอกอ่อน ถ้าเห็นว่ามีมากจนเกินชม สามารถนำมากินเป็นผักได้ มีรสจืดมัน ลวก ต้ม เป็นผักกับน้ำพริก หรือผัดกับน้ำมัน ได้อาหารจานแปลกตาที่ไม่แปลกรสอีกจานหนึ่งแล้วละ

หลายท้องถิ่น หลายภูมิปัญญา ใช้ใบและต้นอัคคีทวารตำพอกรักษากลากเกลื้อน ดูดหนอง หรือใช้ลำต้นแก่ที่โตขนาดหัวแม่มือขึ้นไป ต้มกินเพื่อขับปัสสาวะ ขับนิ่ว แก้ไข้ แก้ปวดท้อง หรือต้มอาบแก้ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว

ส่วนการใช้อัคคีทวาร รักษาโรคริดสีดวงทวารหนักนั้น การแพทย์พื้นบ้านของไทยระบุว่า ทำได้หลายวิธี ได้แก่ ใช้ต้นหรือรากยาว 1-2 ข้อนิ้ว ฝนกับน้ำปูนใส ทาที่ริดสีดวงโดยตรง หรือใช้ใบแห้งบดเป็นผงคลุกน้ำผึ้งปั้นเป็นยาลูกกลอน รับประทานครั้งละ 2-4 เม็ด กินติดต่อกัน 7-10 วัน หรือใช้ใบป่นเป็นผงโรยในถ่านไฟ ใช้ควันรมให้หัวริดสีดวงยุบฝ่อ

อัคคีทวารใช้รักษาโรคริดสีดวงทวารหนักได้ผลดีจริงหรือไม่ คงเป็นเรื่อง ลางเนื้อชอบลางยา คนนึงว่าดี อีกคนว่าไม่เหมาะ ที่สำคัญต้องเอาใจใส่เรื่องกินเรื่องถ่ายให้ถูกต้อง

โรคริดสีดวงทวารหนัก คนเห็นเป็นของน่าอาย เพราะเกิดที่ทวารหนัก อันเป็นประตูออกของอุจจาระที่ถือกันว่าเป็นของสกปรก หลังใช้ทวารหนักขับถ่าย จึงต้องเช็ดล้างให้สะอาด

คนเราใช้ใจคิดดีคิดร้ายทุกเมื่อเชื่อวัน สะอาดหรือสกปรก ไม่มีใครรู้...ล้างใจกันบ้างหรือเปล่าครับ