ช้ำรั่ว โรคฮิตผู้สูงวัย

ช้ำรั่ว โรคฮิตผู้สูงวัย

ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่เกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น จึงไม่ไปตรวจที่โรงพยาบาล ทำให้อาการเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ

คนเราเมื่ออายุมากขึ้นโรคต่างๆ มักมารุมเร้าจากสุขภาพที่เสื่อมถอย ซึ่งหนึ่งในโรคยอดฮิตของผู้สูงวัย คือโรคช้ำรั่ว พบว่า มีผู้ป่วยสูงอายุจำนวนมากที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับโรคระบบทางเดินปัสสาวะ หรือ “ช้ำรั่ว” คือ ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ หรือการที่มีปัสสาวะรั่วไหลโดยไม่ได้ตั้งใจ

ผศ.นพ.วิทย์ วิเศษสินธุ์ หน่วยศัลยศาสตร์ระบบปัสสาวะ ภาควิชาศัลยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เปิดเผยว่า ปัจจุบันพบว่า ผู้ป่วยโรคช้ำรั่วเพิ่มสูงขึ้นทุกปี เนื่องจากผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ส่วนใหญ่จะไม่ทราบว่าตนเองเป็น มักจะเข้าใจผิดไปเองว่า อาการปัสสาวะบ่อยเกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น จึงไม่ไปตรวจที่โรงพยาบาล ทำให้อาการเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ อาจทำให้เป็นปัญหาในการเข้าสังคม หรือเป็นปัญหาทางสุขภาพและอนามัย

จริงๆแล้วโรคช้ำรั่วสามารถเกิดได้ทุกเพศ ทุกวัย แต่จะพบมากในผู้สูงอายุ และพบมากในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย ส่วนใหญ่เริ่มเป็นตอนอายุ 40 ปี โดยเฉพาะผู้หญิงหลังวัยหมดประจำเดือน ส่วนเพศชายจะพบมากเมื่อเข้าสู่วัยชราอายุ 45-50 ปีขึ้นไป

“ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะเข้าใจผิด โรคช้ำรั่วว่าเป็นภาวะการเปลี่ยนแปลงตามวัย ตามอายุ แต่จริงๆแล้วเป็นภาวะผิดปกติ หรือเป็นโรคชนิดหนึ่ง สาเหตุเกิดจากความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะส่วนล่างคือ กระเพาะปัสสาวะ หูรูดปัสสาวะ รวมถึงท่อปัสสาวะ

ไม่ใช่ว่าเมื่ออายุเพิ่มขึ้นแล้วจะเป็นทุกคน ซึ่งอาการของโรคช้ำรั่ว ก็คือ ปัสสาวะมีการเล็ดราดออกมาก่อนเวลาที่ผู้ป่วยจะเข้าไปถึงห้องน้ำ คือกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ พอปวดปุ๊บก็ปัสสาวะออกมาเลย แม้จะไม่ใช่โรคร้ายที่อันตรายถึงขั้นเสียชีวิต แต่จะทำให้ผู้ป่วยเกิดความรำคาญ มีผลต่อสุขภาพจิต และการดำเนินชีวิตประจำวัน ส่งผลให้ผู้ป่วยสูญเสียความมั่นใจที่จะเข้าสังคม ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่แย่ลง” ผศ.นพ.วิทย์ กล่าว

อาการเริ่มต้นของโรคช้ำรั่วคือ จะเริ่มจากการปัสสาวะบ่อยขึ้นในแต่ละวัน จากนั้นเมื่อมีอาการปวดปัสสาวะแล้วกลั้นไม่ค่อยได้ต้องเข้าห้องน้ำทันที แต่ไม่ถึงขั้นเล็ดออกมา เมื่อถึงขั้นร้ายแรงที่สุดคือปวดปัสสาวะแล้วเข้าห้องน้ำไม่ทัน ซึ่งโดยปกติคนเราจะปัสสาวะวันละ 5-8 ครั้ง หากปัสสาวะน้อย วันละแค่ 2-3 ครั้ง หรือมากกว่า 8 ครั้ง ควรไปปรึกษาแพทย์ เพราะถ้าปัสสาวะน้อยไปจะส่งผลให้มีเชื้อโรคสะสมในกระเพาะปัสสาวะมากขึ้น อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ออกกำลังกายแล้วเหงื่อออกเยอะ ก็จะทำให้ปัสสาวะน้อยลง แต่เราไม่ควรกลั้นปัสสาวะนานจนเกินไป โดยเฉลี่ยควรปัสสาวะทุกๆ 2-3 ชม.

อย่างไรก็ตาม โรคช้ำรั่วสามารถป้องกันได้เบื้องต้น คือ

1.ดื่มน้ำเยอะๆ วันละ 8-10 แก้ว สำหรับผู้ที่มีปัญหาต้องตื่นขึ้นมาปัสสาวะบ่อยครั้งขณะนอนหลับ แนะนำให้ดื่มน้ำเยอะในช่วงเช้าถึงบ่าย ตอนเย็นไม่ควรดื่มเยอะเกินไป รวมถึงก่อนนอน เพราะลดจำนวนครั้งในการตื่นมาเข้าห้องน้ำ รบกวนเวลานอนหลับ ทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงอาหารหรือเครื่องดื่มที่เมื่อทานเข้าไปแล้วทำให้มีการปัสสาวะบ่อย เช่น พวกชา กาแฟ น้ำอัดลม รวมถึงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลล์ และเครื่องดื่มที่มีกรดสูงๆ ด้วย เช่น น้ำส้มเข้มข้น เป็นต้น

2. ฝึกกระชับช่องคลอด หรือ ขมิบช่องคลอดถึงอุ้งเชิงกราน เพิ่มกำลังเพื่อสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน เพราะในเพศหญิงอวัยวะอุ้งเชิงกรานจะมีการหย่อนคล้อยมากขึ้นเมื่อมีอายุมากขึ้น ฉะนั้นเราต้องฝึกเพิ่มกำลังเพื่อสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน จะสามารถช่วยปกป้องได้ในระดับหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม การฝึกขมิบ ฝึกเกร็งนั้น อาจจะต้องมาเรียนรู้กับหมอ ว่าการขมิบเป็นอย่างไร เพราะถ้าหากเราขมิบผิดก็มีโทษเหมือนกัน เหมือนกับการเล่นกล้าม แต่เป็นการฝึกกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน เพราะอุ้งเชิงกรานเป็นกล้ามเนื้อที่ช่วยเราป้องกันเวลาเราขยับ เราปวดปัสสาวะ สังเกตดูก็ได้ว่าเวลาเราไอ หรือเราปวดปัสสาวะขึ้นมา ถ้าเกิดเราเกร็ง หรือขมิบอุ้งเชิงกราน อาการปวดจะน้อยลง หรือถ้าเรามีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงพอ ปัสสาวะก็จะไม่เล็ดราด

ผศ.นพ.วิทย์ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “อย่างไรก็ตามโรคนี้ไม่ได้มีอันตรายถึงชีวิต แต่จะมีผลอย่างมากต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย เพราะในผู้ป่วยที่ปัสสาวะบ่อยหรือกลั้นปัสสาวะไม่ได้ เมื่อออกไปนอกบ้าน ทำกิจกรรม ก็จะรู้สึกระแวง บางคนอาจจะถึงขั้นเก็บตัวไม่ยอมออกไปไหน ในผู้ป่วยสูงอายุ ถ้าปัสสาวะบ่อยขึ้นต้องรีบเข้าห้องน้ำ หรือลุกขึ้นมาปัสสาวะบ่อยขึ้นในตอนกลางคืน ก็มีโอกาสทำให้เกิดอุบัติเหตุมากขึ้น ฉะนั้นโรคนี้จึงมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต”

ดังนั้น ผู้ป่วยโรคช้ำรั่วควรได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง ซึ่งมีทั้งการกินยารักษา การใช้ฮอร์โมนทดแทน การฝึกบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน โดยการขมิบช่องคลอด หรือแม้แต่การผ่าตัด รวมถึงการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต เช่น การลดน้ำหนัก อย่าให้ท้องผูก งดสูบบุหรี่ งดดื่มกาแฟ โซดา น้ำอัดลม เนื่องจากมีสารกระตุ้นให้เกิดการขับถ่ายบ่อย

และในปัจจุบันได้มีการพัฒนาผ้าอ้อมสำเร็จรูปสำหรับผู้ใหญ่ ซึ่งมีให้เลือกหลายประเภทขึ้นอยู่กับระดับความซึมซับที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นแบบกางเกงซึมซับ กางเกงอนามัย หรือ แบบเทป เพื่อช่วยจัดการปัญหาอย่างถูกหลักอนามัย และที่สำคัญยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้ผู้สูงวัยสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติ เช่น ไปข้างนอก ไปสมาคมกับเพื่อนๆ หรือไปเที่ยวนอกบ้านกับลูกหลานได้ โดยไม่ต้องกังวลและเก็บตัวเงียบอยู่แต่ในบ้าน ช่วยให้ผู้สูงวัยมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

สำหรับท่านใดเริ่มมีอาการกลั้นปัสสวะไม่อยู่ ไม่ต้องกังวล และไม่ต้องอายที่จะมาพบแพทย์ เพราะโรคนี้สามารถรักษาให้หาย หรือทำให้ดีขึ้น และเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้ดีขึ้นได้ หรือหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถโทรศัพท์ปรึกษาเบื้องต้นได้ที่โทร. 02-651 9500 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-17.30 น. ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์