กรมศิลป์ขอหยุดขุดพบทองคำแผ่นที่พัทลุง

กรมศิลปากร เผยทองคำแผ่นขุดพบ จ.พัทลุง เป็นทองเก่าแก่ขนาดเท่าทองหุ้มองค์พระบรมธาตุเจดีนครศรีฯ ขอชาวบ้านหยุดขุด
เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.พัทลุง จากกรณีชาวบ้านขุดพบทองบริเวณสวนปาล์มกว่า 10 ไร่ ของนายวิ ทับแสง ในพื้นที่ท้องที่ ม.7 ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ล่าสุดตั้งแต่ช่วงเช้า ยังมีชาวบ้านกว่า 500 คน ได้ทยอยเดินทางยังคงเดินหน้าขุดหาทองกันต่อเนื่อง ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เขาชัยสน ซึ่งมาคอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยรอยๆบริเวณ ซึ่งในวันนี้เป็นที่สังเกตว่า ชาวบ้านที่มาขุดหาทองจะขุดหาได้น้อยกว่าเมื่อวานและ ชาวบ้านที่ขุดพบทองก็จะปกปิดไม่ค่อยจะให้ใครรู้ อย่างไรก็ตามอย่างน้อยก็มีชาวบ้าน 2 ราย ที่ขุดพบทองในวันนี้ โดยเป็นทองรูปพรรณมีลักษณะคล้ายแมลงทับ น้ำหนักประมาณ 1 บาท และตุ้มหูกลมขนาดเล็ก 1 อัน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ชาวบ้านที่เดินทางมาขุดทองครั้งนี้ หลายรายได้นำดอกไม้ ธูป เทียน มาด้วย เพื่อบนบานอธิฐานต่อเจ้าที่เจ้าทาง เพื่อขอให้ขุดหาพบเจอทอง ในขณะที่บางรายก็นำสุนัขแสนรู้มาช่วยในการขุดหาทอง ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก และถนนทางเข้ารถยนต์ รถจักรยานยนต์ จอดริมถนนเป็นแนวยาวกว่า 1 กม.ทำให้ผู้ที่เดินทางมาด้วยรถยนต์ต้องเดินเท้ากว่า 1 กม.
นายศุภกร ช่วยผอม อายุ 32 ปี หลานเขยเจ้าของที่ดิน กล่าวว่า มาขุดหาทองตั้งแต่ช่วงเช้า หลังจากที่เมื่อวานขุดได้ทองไปจำนวนหนึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทองแผ่นพับ ซึ่งส่วนหนึ่งยังคงนำไปเก็บไว้ และส่วนหนึ่งได้นำไปขายที่ร้านทองแล้ว โดยทองที่นำไปขายเป็นทองแผ่น ได้ราคาแผ่นล่ะ 4 หมื่นกว่าบาท โดยน้ำหนักตกอยู่ที่ 2 บาทกว่า ๆ ต่อ 1แผ่น และในวันนี้จะลงมือขุดทั้งวัน เนื่องจากยังมีความหวังว่าจะเจออีก
โดย หลังจากที่ข่าวแพร่กระจายออกไป ได้มีชาวบ้านทั้งในอำเภอเขาชัยสน และอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดพัทลุง ต่างเดินทางมาขุดหาทองกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนายเสรี ศรีหะไกร ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้ประสานให้ทางอำเภอ พร้อมกับให้ส่งเจ้าหน้าที่คอยสังเกตการณ์รักษาความเรียบร้อย พร้อมทำเรื่องประสานกรมศิลปากร ให้ลงพื้นที่เพื่อสำรวจแล้ว
ต่อมาเมื่อเวลา 13.30 น.วันเดียวกัน นายอาณัติ บำรุงวงค์ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 14 จ.นครศรีธรรมราช ได้เดินทางลงพื้นที่ มาสำรวจจุดบริเวณสวนปาล์มที่ชาวบ้านแห่ขุดทอง บ้านทุ่งอ้อ หมู่ที่ 7 ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง พร้อมกับได้ระบุว่า ทองที่ชาวบ้านขุดพบจากการตรวจสอบเปรียบเทียบ สันนิษฐานว่า เป็นทองขนาดเดียวกับทองที่ใช้หุ้มองค์พระบรมธาติเจดีย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเปรียบเทียมพบว่ามีความหนาเท่ากับคัมภีร์ใบลาน ซึ่งสอดคล้องกับตำนานการสร้างพระบรมธาตุ เมื่อปี ค.ศ.1093
จึงสันนิษฐานว่า ชาวบ้านในสมัยนั้น อาจจะนำทองดังกล่าวไปหุ้มองค์พระธาตุ และระหว่างการเดินทาง ซึ่งเส้นทางดังกล่าวอาจจะเป็นคลองออกสู่ทะเลสาบสงขลา และอาจจะเป็นไปได้ว่าระหว่างการเดินทางอาจจะเกิดอุบัติเหตุ จนเจ้าของทองดังกล่าวไม่สามารถนำทองไปได้ หรืออีกประการหนึ่งเจ้าของทองอาจจะนำมาฝังไว้ที่จุดดังกล่าว และไม่ได้บอกที่ซ่อนทองดังกล่าวกับใคร จนกระทั่งเมื่อเสียชีวิตไป ทองก็ยังถูกฝังไว้ที่เดิม จนกระทั่งมีชาวบ้านมาขุดพบ
นายอาณัติ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามล่าสุดขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ขอความร่วมมือและทำความเข้าใจกับชาวบ้านขอให้หยุดเข้าขุดทองในพื้นที่แล้ว เพื่อจะได้กั้นพื้นไว้ ให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ ลงสำรวจหาร่องรอยที่มีค่าใต้พื้นดิน อีกครั้ง ซึ่งอาจจะบ่งบอกที่มาที่ไปได้ละเอียดกว่านี้
ล่าสุดขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ขอความร่วมมือชาวบ้าน เพื่อกันพื้นที่ไม่ให้เข้าไปขุดหาทองในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญที่รับผิดชอบ ได้เข้าไปสำรวจพื้นที่รายละเอียดก่อน ซึ่งอาจจะมีร่องรอยที่มีค่าทางประวัติศาสตร์ที่อาจจะมีค่ามากกว่าทองที่ชาวบ้านขุดพบก็เป็นได้ อย่างไรก็ตามล่าสุดขณะนี้ก็ยังมีชาวบ้านเข้าไปขุดหาทองอย่างไม่ขาดสาย แม้ส่วนใหญ่จะขุดหาไม่พบทองแล้วก็ตาม




