มิ้นท์-อาทิตยา บทบาทใหม่

10 กว่าปีก่อนเธอเฉิดฉายทั้งบนจอเงินและจอแก้ว หลังจากเก็บตัวเงียบด้วยปัญหาสุขภาพ ณ วันนี้ เธอกลับมาในบทบาทของนักธุรกิจรุ่นใหม่
หลายคนอาจคุ้นชื่อของ “อาทิตยา ดิถีเพ็ญ” ที่โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงเมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา ก่อนที่เธอจะหายจากจอแก้วมุ่งสู่วงการธุรกิจ เก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์จากสิ่งต่างๆ รอบตัวสู่การสร้างธุรกิจของตนเองขึ้นมา
การสร้างธุรกิจอาจไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีหลากหลายปัจจัยที่ต้องคิด วิเคราะห์ และพิจารณาก่อนจะลงทุน ลงแรง สิ่งที่หลายคนเลือกใช้คือ การหาความรู้ผ่านช่องทางที่ตนถนัด ไม่ว่าจะเป็นการเรียน ที่ปรึกษาทางธุรกิจ ข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต และอื่น ๆ
ประสบการณ์เสริมทักษะ
มิ้นท์-อาทิตยา ดิถีเพ็ญ เลือกหยิบประสบการณ์และข้อดีของการทำงานทั้งในวงการบันเทิง และบริษัทนำเข้าสินค้าแบรนด์เนม มาต่อยอดความรู้ เสริมทักษะเพื่อก้าวสู่การเป็นเจ้าของบริษัท
ปัจจุบัน อาทิตยาเป็นกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท แฟชั่น ควีน จำกัด ผู้นำเข้าแบรนด์เครื่องสำอางจากต่างประเทศ อาทิ essence, Kiss Me, kiss ที่แตกออกมาจากบริษัท โกลเด้นท์ อินเตอร์ โฮลดิ้ง จำกัดของณัฐกิจ รุ่งจรูญ ผู้เป็นสามี ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวฝ่ายชายเป็นบริษัทที่เป็นผู้นำตลาด ในการผลิต นำเข้า รวมถึงจัดจำหน่าย สินค้าด้านอุปกรณ์ความงาม อุปกรณ์ร้านเสริมสวย เครื่องเขียน กิฟช็อป คอสเมติค ตั้งแต่ปี 2526
“หลังแต่งงาน ทางสามีก็อยากจะแตกไลน์ทำธุรกิจเครื่องสำอาง เพื่อให้ธุรกิจครอบครัวครบวงจร ตัวเราเองก็สนใจเรื่องของเครื่องสำอางอยู่แล้ว บวกกับประสบการณ์ด้านการตลาดและแบรนดิ้งที่เคยทำบริษัทที่นำเข้ากระเป๋าแบรนด์เนมจากต่างประเทศมาก่อน ก็มีความสนใจที่จะนำสินค้าเข้ามาขายเองบริษัท แฟชั่นควีน จำกัด จึงเริ่มขึ้นในปี 2550” อาทิตยาเท้าความ ก่อนชี้ว่า เครื่องสำอางแบรนด์ Kiss me จากประเทศญี่ปุ่นถูกเลือกมาทำการตลาดก่อนแบรนด์แรกและปีต่อมาก็ติดต่อนำแบรนด์ Kiss และแบรนด์ essence จากเยอรมนี มาอย่างต่อเนื่องจนตอนนี้มีทั้งหมด 3 แบรนด์ด้วยกันอยู่ในเครือของแฟชั่นควีน
จากนักแสดง แบรนด์เมเนเจอร์ สู่เจ้าของธุรกิจ หน้าที่และความรับผิดชอบที่กว้างขึ้น ทำให้เธอต้องปรับตัว อาทิตยายอมรับว่า หน้าที่ความรับผิดชอบของเธอมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ใช่แค่การดูแลด้านการตลาด แต่ต้องดูแลและรู้จักทุกส่วนของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นบัญชี การเงิน สต็อก และพนักงาน ซึ่งเธอกล่าวว่า เป็นความท้าทายที่สุด เนื่องจากการบริหารคน ต้องรู้จักและเข้าใจบุคลิก ลักษณะ นิสัย
อาทิตยามีเทคนิคการรับพนักงานที่เป็นคนรุ่นใหม่ มาผสมผสานกับคนรุ่นเก่าดั้งเดิมเพื่อให้พนักงานได้พัฒนาและศึกษางาน ระดมความคิดและแลกเปลี่ยนกัน ทำให้เกิดความคิดใหม่ๆที่กลั่นกรองมาแล้ว และเป็นไปในทิศทางที่ตัวพนักงานมีความสุขและชอบที่จะทำ สามารถดำเนินตามนโยบายและทำตามแผนงานได้ง่ายและมีความสุข สร้างบรรยากาศของการทำงานเป็นทีมให้เกิดขึ้นในองค์กร
เรียนรู้จากความสำเร็จ
“ประสบการณ์ช่วยเราได้มาก มิ้นท์เริ่มทำงานในวงการตั้งแต่อายุ 18 ปี เป็นการทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ทำให้เราได้บทเรียนชีวิตเรื่องของความรับผิดชอบที่มากกว่าคนวัยเดียวกัน เพราะเราไปเรียน ไปสอบเหมือนเพื่อน แต่เวลาที่เพื่อนเที่ยว เราทำงาน ทำให้เรารู้จักใช้เวลาทุกนาทีให้มีค่าที่สุดเช่นเดียวกับที่เราต้องรู้จักคนมากมาย ทำให้รู้จักการวางตัว รู้จักจิตวิทยาในการสื่อสาร เข้าใจจิตใจของลูกค้าและพนักงาน”
เช่นเดียวกับการทำงานเป็นผู้จัดการการตลาดของบริษัทนำเข้ากระเป๋าแบรนด์เนม ทำให้มีโอกาสไปติดต่อประสานงานที่ต่างประเทศ ได้รู้จักคนจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ทำให้รู้สึกได้เปิดโลกกว้าง รู้จักและเข้าใจลักษณะคน สังคม และการตลาดของพื้นที่ต่าง ๆ ในโลก อาทิตยาชี้ว่า ประสบการณ์นี้เป็นหนึ่งปัจจัยที่ทำให้การสร้างธุรกิจเป็นไปอย่างมั่นคง
“เจ้าของบริษัทต้องรู้ทุกอย่าง” หลักการทำงานของอาทิตยาที่เธอจำขึ้นใจ ก่อนที่จะลงมือทำเองทุกส่วนงาน เพราะเธอมองว่า ต้องทำได้ทุกส่วน เด็กถามต้องรู้ ถ้าไม่รู้ ต้องไปหาคำตอบให้ได้
“มิ้นท์เป็นคนที่อยากรู้ ต้องรู้ให้สุด ดังนั้น วิธีการหาความรู้ของตัวเองคือ อ่านหนังสือ เก็บความรู้ที่จำเป็นมาปรับใช้กับงานของตนเอง ในขณะเดียวกันก็ศึกษาประสบการณ์ของนักธุรกิจท่านอื่น ๆ ที่ประสบความสำเร็จด้านต่าง ๆ ดูวิธีคิด วิธีแก้ปัญหา มาประยุกต์” กรรมการผู้อำนวยการ ของแฟชั่น ควีนกล่าว
นอกจากนี้ อาทิตยายังมีคลังความรู้ส่วนตัว นั่นคือ สามี ที่เธอยอมรับในประสบการณ์ทางธุรกิจมากกว่า 10 ปีของเขา ให้เธอเข้าไปถาม ปรึกษา และเรียนรู้จากประสบการณ์ของคนที่ทำงานในสนามจริง
เป้าหมายสำคัญของอาทิตยากคือ การดูแลธุรกิจที่เธอเริ่มต้นขึ้นให้เติบโตอย่างเข้มแข็ง เช่นเดียวกับการแบ่งเวลาให้ครอบครัว โดยตกลงที่จะหาวันหยุดร่วมกัน 2 วันใน 1 สัปดาห์เพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน
“เพราะเราอยากที่จะทำให้พนักงานมีความสุขกับการทำงาน ในขณะเดียวกัน คนในครอบครัวก็ต้องมีความสุขด้วย เพราะครอบครัวเป็นกำลังใจที่ดีที่สุด” ผู้บริหารสาวทิ้งท้าย







