เติมชีวิตให้หวานชื่นด้วยมะเดื่อฝรั่ง (ฟิกส์)

มะเดื่อฝรั่ง ผลไม้จิ๋วที่หลายคนไม่ค่อยคุ้นหู แต่อาจจะคุ้นตาตามร้านขายผลไม้อบแห้งนี้ เป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางอาหารสูงที่สุด
มะเดื่อฝรั่ง ผลไม้จิ๋วที่หลายคนไม่ค่อยคุ้นหู แต่อาจจะคุ้นตาตามร้านขายผลไม้อบแห้งนี้ เป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางอาหารสูงที่สุด จนถูกจัดอยู่ในสิบอันดับแรกของผลไม้ที่มีในโลก
เมื่อไม่นานมานี้ผมได้ทำความรู้จักกับผลไม้ชนิดหนึ่งโดยบังเอิญ ด้วยนิสัยชอบเสาะหาของกินโดยเฉพาะพืชผักผลไม้เพื่อนำมาประกอบอาหาร หรือทานกับนมถั่วเหลืองในมื้อเช้า เพื่อสร้างสีสันและรสชาติใหม่ๆให้แก่คนรักแนวทางอาหารเพื่อสุขภาพ
จะว่าไปเจ้าผลฟิกส์ หรือ มะเดื่อฝรั่งอบแห้งนี้ ผมเองก็เคยกินมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ไม่ได้สนใจใคร่รู้ว่ามันคืออะไร มีประโยชน์แค่ไหน รู้เพียงว่ามันเป็นผลไม้อบแห้งที่หวานชุ่มคอ ชื่นใจเสียจริง
จนเมื่อได้ลองค้นข้อมูลดูก็พบว่ามะเดื่อฝรั่ง ผลไม้จิ๋วที่หลายคนไม่ค่อยคุ้นหู แต่อาจจะคุ้นตาตามร้านขายผลไม้อบแห้งนี้ เป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางอาหารสูงที่สุด จนถูกจัดอยู่ในสิบอันดับแรกของผลไม้ที่มีในโลก
ผลฟิกส์ มีประวัติการปลูกมาตั้งแต่สมัยก่อนคริสตกาล หรือมากกว่า 2000 ปีแล้ว ในตำนานยุโรปและตะวันออกโบราณมีการจารึกไว้ว่า ชาวกรีก โรมัน และอียิปต์ ให้ผลฟิกส์แก่นักรบกินระหว่างอาหารทุกมื้อเพื่อกระตุ้นความแข็งแกร่งของกระดูกและกล้ามเนื้อ เพิ่มทักษะ ปฏิภาณ ไหวพริบ และกำลังวังชาเมื่ออยู่ในสนามรบ
ในประเทศไทย มะเดื่อฝรั่ง ยังไม่ได้รับความนิยมปลูกกันมากเพราะมีคนนิยมกันน้อย ทั้งๆสามารถปลูกได้ดีในบ้านเรา เพราะมะเดื่อฝรั่งชอบอากาศร้อน ยิ่งถ้าปลูกในโรงเรือนด้วยแล้วจะทำให้ได้ผลผลิตดี เพราะป้องกันการรบกวนของแมลง ที่สำคัญต้นมะเดื่อยังอายุยืนหลายสิบปีอีกด้วยครับ
มาพูดถึงคุณค่าทางอาหารของเจ้ามะเดื่อฝรั่งกันบ้าง มะเดื่อฝรั่งเป็นผลไม้ที่บริโภคเป็นอาหารและยา มีปริมาณของธาตุแคลเซียม ฟอสฟอรัส และธาตุเหล็กสูงมาก อันจะช่วยเสริมสร้าง ซ่อมแซม เพิ่มความแกร่งให้กล้ามเนื้อ เสริมความแข็งแรงสูง ไม่มีธาตุโซเดียมที่เป็นสาเหตุหนึ่งของโรคความดันโลหิตสูง ไม่มีไขมัน และคอเลสเตอรอล
นอกจากนี้ยังให้เส้นใยสูง มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยในระบบขับถ่ายกำจัดของเสียออกจากร่างกาย ลดปัญหาท้องผูก ป้องกันนิ่ว กระเพาะปัสสาวะอักเสบ โรคปอด ฟอกตับ ม้าม และที่สำคัญมีสารยับยั้งและป้องกันเซลล์มะเร็ง เป็นยารักษาโรค ช่วยระงับการเจริญเติบโตของมะเร็งลำไส้ได้อีก
เท่านั้นยังไม่พอครับ มะเดื่อฝรั่งยังมีสรรพคุณที่ถูกใจผมอย่างยิ่ง นั่นคือ ช่วยสร้างสมดุลของกรดด่างในร่างกาย หากรับประทานอย่างพอเหมาะวันละ 4-5 ผล (ทานได้ทั้งสดและอบแห้ง) ช่วยถนอมสุขภาพคงความอ่อนเยาว์ และชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย และเหมาะอย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก เพราะมีเส้นใยสูง และยังมีโปรตีน Fictin ที่สามารถย่อยเนื้อได้ดี ช่วยสมานแผลในช่องปาก และมีปริมาณน้ำตาลธรรมชาติมากถึง 83% ได้แก่ น้ำตาลกลูโคส ฟรุกโตส และซูโคส ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานจากคาร์โบไฮเดรตสรรพคุณของมะเดื่อ
แม้ว่ามะเดื่อฝรั่งจะมีรสหวาน แต่ก็เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน เพราะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและช่วยลดปริมาณการใช้อินซูลินในผู้ป่วยเบาหวานได้ด้วยครับ
เช่นเดียวกับผลไม้ทุกชนิดคือควรทานในปริมาณที่พอเหมาะ หากทานมากไปก็อาจเกิดผลร้าย เจ้ามะเดื่อฝรั่งอบแห้งจะมีปริมาณน้ำตาลสูงซึ่งอาจทำให้ฟันผุได้ และการรับประทานมะเดื่อในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจจะทำให้ท้องร่วงได้เช่นกันครับ
รู้เช่นนี้แล้ว เพื่อนๆ ลองหาซื้อมะเดื่อฝรั่งมาไว้ติดบ้านดูนะครับ สำหรับผมเอง จะนำมาทานเป็นอาหารเช้าพร้อมกับนมถั่วเหลือง และถั่วหลากชนิด หรือหั่นชิ้นเล็กๆ ทานพร้อมกับโยเกิร์ตรสธรรมชาติก็ได้ครับ
นอกจากนี้ยังสามาถนำมาใช้ทำขนมได้อีกสารพัด อาทิ พาย แยม อบแห้ง ผลไม้กวน พุดดิ้ง เค้ก ไอศกรีม ใส่ขนมแทนลูกเกด เป็นต้น
ว่าแล้วผมก็ขอไปเติมความหวานให้ตัวซักหน่อย ด้วยมะเดื่อฝรั่งซัก 2-3 ลูกนะครับ
แล้วพบกันใหม่ครับ
โดย : ผู้เขียนอิ่มกายอิ่มใจ ในนิตยสารกายใจ ผู้สนใจด้านอาหารบำบัดโรคและชีวจิตอย่างยิ่ง







