คิดไม่ออก บอกจิตแพทย์

ในอดีตเมื่อพูดถึง โรคจิต ทุกคนคงส่ายหน้าพลางนึกเห็นภาพคนเร่ร่อน แต่งตัวมอมแมมสกปรก
ในอดีตเมื่อพูดถึง “โรคจิต” ทุกคนคงส่ายหน้าพลางนึกเห็นภาพคนเร่ร่อน แต่งตัวมอมแมมสกปรกผมเผ้ายาวรุงรัง บ้างก่อเหตุคลุ้มคลั่งทำร้ายตัวเองหรือ เป็นที่หวาดกลัวในชุมชน แต่ในปัจจุบันผู้ป่วยจำนวนมากได้รับการรักษาจนอาการเป็นปรกติกลับไปทำงาน เรียนหนังสือ จบมหาวิทยาลัย มีครอบครัว มีสังคมเพื่อนฝูง เป็นที่รักใคร่ ผู้ป่วยจำนวนมากสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปรกติ ถึงเวลาก็มา พบแพทย์ตามนัด
พ.ญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้อำนวยการศูนย์จิตรักษ์กรุงเทพ โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า ทุกวันนี้คนไทย 1 ใน 5 คนมีทุกข์ทางใจและไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปพึ่งใคร ถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะไม่มีที่ระบายอาจส่งผลกระทบต่อจิตใจและร่างกายในที่สุดสิ่งสำคัญ หากมีคนในบ้านเป็นทุกข์ คนรอบข้างไม่ว่าจะเป็นใคร รวมถึงเพื่อนฝูง หรือญาติมิตรต่างได้รับผลกระทบ ฉะนั้นจึงมีความจำเป็นในการดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจควบคู่กันอย่างสมดุล เพื่อให้พร้อมในการเผชิญหน้ากับสถานกาาณ์ที่อาจส่งผลกระทบทางจิตใจ เพราะสุขภาพกายที่ดีต้องเริ่มต้นที่ใจจึงควรหมั่นดูแลจิตใจให้แข็งแรง และบริหารอารมณ์ให้แจ่มใสอยู่เสมอ
ขณะเดียวกันก็ต้องมีสติอยู่กับตนเอง รู้ว่า กำลังทำอะไรอยู่ทำให้เราฉุกได้ว่าในโลกนี้ไม่มีใครที่สมหวังทุกเรื่องไม่มีใครที่ไม่เคยร้องไห้ ทุกชีวิตต้องเจอทั้งเรื่องผิดหวังและสมหวังมีทั้งสุขและทุกข์ เมื่อมาแล้วมันก็ผ่านไปบางครั้งเกิดเร็วบางครั้งเกิดช้า บางครั้งอยู่กับเรานานบางครั้งเดี๋ยวเดียวก็จบไป ขึ้นกับบุญทำ กรรมแต่งของแต่ละคน
"เรื่องแบบนี้ต้องรู้จักเผื่อใจและทำใจเอาไว้ เมื่อมีความสุขมากๆ อย่าลืมว่าความทุกข์มันอาจจะมาเมื่อไหร่ก็ได้ ต้องเตรียมตัว เตรียมใจเอาไว้ ในที่สุดเราก็จะผ่านไป ปัญหาทุกอย่างต้องใช้เวลาในการเยียวยารักษา"
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า สังคมไทย ถือว่าโชคที่ดี เพราะส่วนใหญ่เป็นครอบครัวขยาย มีคนหลายวัยอยู่ร่วมกัน เมื่อมีปัญหาคนที่เป็นผู้ใหญ่ในบ้านช่วยแนะนำและตัดสินปัญหาในเรื่องต่างๆ ผิดกับครอบครัวเดี่ยวต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง ไม่มีใครมาช่วยคิด ช่วยตัดสินใจ และหากไม่สามารถระบายออก จะสะสมความคับข้องใจเอาไว้นานวันเข้ามีผลต่อสภาพจิตใจ ซึ่งเรื่องแบบนี้สามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นดารานางงาม คนทั่วไป
จิตตก ...แก้ได้
"คนส่วนใหญ่มักกลัวการไปพบจิตแพทย์ทั้งที่ความจริง คนที่มีปัญหา ความเครียด กลัว ก็สามารถพบจิตแพทย์ ปรึกษา สุขภาพจิตได้ แต่หลายคนเข้าใจว่า หากไป ปรึกษาจิตแพทย์ พบจิตแพทย์ แสดงว่าต้องเป็นบ้า เราจึงพยายาม รณรงค์ให้คนเข้าใจ กล้าที่เข้ามาปรึกษาที่สำคัญทุกสิ่งที่คุยกันเป็นความลับ ต่อให้คนไข้คนนี้เป็นสามีภรรยากัน เราจะไม่เปิดเผยให้สามีรับรู้"
พญ.อภิสมัย อธิบายว่า จิตแพทย์ไม่ใช่คนที่จะมาสั่งสอน อบรมคนไข้ แต่เป็นเสมือนกระจกสะท้อนให้คนไข้เห็นรู้จักตนเอง จิตแพทย์เป็นตัวข่วยหนึ่ง ที่ทำให้คนไข้รู้สึกสบายใจ วิธีนี้เป็นหนึ่งทางเลือกการมีสุขภาพจิตที่ดี ฉะนั้นการไปหาจิตแพทย์ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวและน่าอายอย่างที่หลายคนคิด ดีกว่าปล่อยให้อาการแย่ลง จนยากที่เยียวยา
อรอนงค์ อาวะกุล (ปัญญาวงศ์) อดีตนางสาวไทย ปี 2535 กล่าวว่า ในยามที่ต้องเผชิญปัญหาที่เข้ามาในชีวิตต้องเข้มแข็งแล้วมองว่า ทุกปัญหาแก้ไขได้ทุกปัญหาย่อมมีทางออกเสมอ แต่เราจะแก้ปัญหานั้นอย่างไร ก็ต้องขึ้นอยู่กับสภาพปัญหานั้นๆ แนวคิดในการแก้ปัญหาในช่วงเวลานั้น
"เราต้องให้เวลาและฉุกคิดกับปัญหา ถ้าเรามองข้ามหรือกังวลจนเกินไปเพราะจะทำให้เราไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ทุกคนมีปัญหาเหมือนกันหมด จึงต้องรู้จักที่จะช่วยเหลือตนเอง อย่าเอาปัญหามาให้กับคนในครอบครัว ยกเว้น ถ้าคิดไม่ออกค่อยมาปรึกษา ขอคำแนะนำช่วยเหลือกันได้จากคนในครอบครัว แต่ถ้ามันหนักหนาสาหัสเกินจะเยียวยาเอง เราต้องหาผู้รู้(จิตแพทย์)มาช่วยแล้วทุกอย่างผ่านพ้นเหตุการณ์นั้นๆมาได้"
หลายครั้งที่เรา ต้องไปหาแพทย์รักษาโรคต่างๆให้ร่างกายหายเป็นปกติ ถ้าจะไปหา จิตแพทย์ เพื่อรักษาจิตใจบ้างคงไม่ใช่เรื่องแปลกเพื่อให้คุณกลับมามีชีวิตตามปกติ และสามารถต่อสู้กับปัญหาทุกเรื่องที่เข้ามาในชีวิตได้







